วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 11.30 น. ณ House of Thai Football สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานมอบรางวัลให้ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาครองได้สำเร็จ
ภายในงานดังกล่าว นำโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธาน พร้อมมอบรางวัสสนับสนุน ให้ ชบาแก้ว U19
โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "ผลงานของทีมฟุตบอลหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงลำพัง แต่เกิดขึ้นจากทุกคนมีส่วนร่วม สมาคมเป็นเพียงผู้กำกับดูแลในเชิงนโยบาย และการบริหารภาพรวมเท่านั้น แต่ในรายละเอียดเป็นเรื่องทีมที่ไปดำเนินการ โดยทีมชุดนี้สร้างความประทับใจอย่างมาก ก็ต้องขอบคุณน้องๆ นักกีฬาเป็นอย่างมาก รวมทั้งครอบครัว และทีมงานทุกคน สมาคมจึงได้จัดเลี้ยงขอบคุณ พร้อมมอบเงินอัดฉีดให้กับทัพชบาแก้ว"
"สำหรับการต่อยอดนักกีฬาชุดนี้ขึ้นสู่ชุดใหญ่ และไปฟุตบอลหญิงโลกนั้น ก็ได้ให้โอวาทน้องๆ นักกีฬาไปว่าถ้ามีความฝันอยากเป็นทีมชาติไทย และเป็นนักกีฬาอาชีพที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนก็ต้องตั้งความฝันไว้สูงๆ หมั่นฝึกซ้อม เชื่อฟังโค้ช ที่สำคัญต้องมีวินัย พักผ่อนที่ดี นอนหลับเป็นเวลา เล่นเกมให้น้อยๆ ลง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความสำเร็จ ส่วนฟุตบอลหญิงลีกหญิงนั้น ก็เพิ่งมีแบบถูกกฏหมายในยุคสมัยของตนเองมาแล้ว 2 ปี มีการจดทะเบียนลีกหญิงไม่กี่ปี จะให้มีความเข้มแข็งก็ต้องใช้เวลา ต้องค่อยๆ พัฒนา"
“เราเพิ่งมีลีกหญิงที่ถูกกฎหมายแค่ 2 ปี คือทุกสโมสรขึ้นทะเบียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถ้าจะให้มีความเข้มแข็ง หรือความนิยมเหมือนฟุตบอลชายมันคงเป็นไปไม่ได้ มันต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ต้องค่อยๆ พัฒนา สมาคมสนับสนุนทุกลีกอยู่แล้ว แต่จะไปคาดหวังว่าปีนี้จะเป็นอย่างนั้น มันคาดหวังอยู่ในใจอยู่แล้วว่าเราอยากจะไปเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และเอเชีย แต่คงต้องให้เวลา”
ขณะที่ นายยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า "การไปคว้าแชมป์ของทีมหญิง 19 ปีครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ตนได้ติดตามทีมไปตลอด ก็ได้เห็นว่าเป็นงานที่ยากพอสมควร ถือว่าน้องๆ ทำผลงานได้ประสบความสำเร็จ สำหรับนักเตะหญิงไทย รุ่นไม่เกิน 19 ปีชุดนี้ ถือว่ามีศักยภาพ และในทีมก็มีน้องๆ ตั้งแต่อายุ 15 ปี, 16 ปี, 17 ปี และ 18 ปี โดยทางสมาคมมีความมั่นใจว่าน้องๆ ชุดนี้ในอีก 4 ปีข้างหน้าจะสามารถผ่านการคัดเลือกไปฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027 ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าช่วงเวลาต่อไปนี้ทางสมาคม และสโมสรจะต้องช่วยกันประคบประหงม เติมเทคนิคต่างๆ ให้กับน้องๆ"
“ผมคิดว่าเราจะมีชุดนักฟุตบอลหญิงจากชุดนี้ไปเล่นฟุตบอลโลกในอีก 4 ปีข้างหน้าแน่นอน ซึ่งตอนนี้สมาคมจะลงไปดูฟุตบอลลีกหญิง ขณะนี้ก็มีอยู่ 2 ดิวิชั่นคือ ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 เราก็จะลงไปดูเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฟุตบอลหญิง เพราะตอนนี้เราก็ยังขาดนักกีฬาอยู่บางชุด ไม่เหมือนทีมฟุตบอลชายที่มีทีมทั้งชุด 17 ปี, 19 ปี, 23 ปี แต่ทีมฟุตบอลหญิงก็ยังมีแค่ชุด 17, 19 ปี และกระโดดข้ามไปทีมชุดใหญ่เลย”
"สมาคมจะลงไปวางแผนการจัดการให้ฟุตบอลลีกหญิงมีความต่อเนื่อง และสำคัญที่สุดเราจะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฟุตบอลลีกหญิง เพราะจะมีผลต่อรายได้ของทั้งนักเตะ และสโมสร ส่วนภาคเอกชนก็พร้อมที่ะจะสนุบสนุนฟุตบอลลีกหญิงอยู่แล้ว เพราะทีมฟุตบอลหญิงเราก็เคยไปฟุตบอลโลกมาแล้ว การคว้าแชมป์อาเซียนครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ฟุตบอลลีกหญิงให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น"
“จริงๆ ถ้าเราไปดูแต่ละสโมสรในฟุตบอลลีกหญิงใช้งบประมาณไม่มากเมื่อเทียบกับฟุตบอลชาย ซึ่งหากสมาคมฯ เขาไปช่วยบริหารจัดการเช่นเรื่องให้มีการถ่ายทอดสด มีสปอนเซอร์ต่างๆ สนับสนุนแต่ละสโมสร ผมคิดว่าจะทำให้เป็นที่น่าสนใจ ทำให้นักกีฬาที่จะเข้ามามีการวางแผนระยะยาวได้ว่าจะไปะถึงจุดไหน เราก็ต้องทำแบบฟตบอลชาย คิดว่าถ้าทำเป็นระบบแล้ว คิดว่าฟุตบอลหญิงก็ไม่น้อยหน้ากว่าฟุตบอลชายแน่นอน”