ช้างศึกยุทธหัตถี หวังว่าทีมเวิร์คของพวกเขาจะเป็นทีเด็ดในการเก็บแต้มในบ้านของตัวเองจากแชมป์เก่า ขณะที่ทางปราสาทสายฟ้าเองก็ไม่คิดมองการไกล แม้จะเดินหน้าเก็บชัยชนะต่อเนื่อง เพราะเส้นทางยังอีกยาวไกล
วันที่ 5 เมษายน 2561 เวลา 13.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว 127 สนามราชมังคลากีฬาสถาน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก สัปดาห์ที่ 9 "Meet The Warriors" โดยคู่บิ๊กแมตช์อีกหนึ่งคู่ สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ช้างศึกยุทธหัตถีกำลังฟอร์มดีมีเกมรับที่เหนียวแน่น หลังสี่เกมหลังสุดยังไม่แพ้ใคร และเสียประตูตั้งแต่เริ่มฤดูกาลมาแค่สี่ลูก พบกับ ปราสาทสายฟ้า ที่กำลังเข้าเกียร์ห้าหลังเก็บชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่อง
โดย สถาพร วาจาขำ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน สุพรรณบุรี เอฟซี กล่าวว่า "ความพร้อมในเกมนี้ จะได้ซิลวาโน กอมฟาลิอุส กลับมา ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ในส่วนของประสิทธิ์ จันทุม ก็มีติดเรื่องทหาร ส่วนอดุล หละโสะ ก็เจ็บยาว คิดว่าไม่ได้ลงแน่ๆ ขณะที่ตัวอื่นก็ถือว่าพร้อม"
"ทีมเราตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ผู้เล่นต่างชาติก็เริ่มปรับตัวเข้ากับผู้เล่นไทย แต่ก็ยังมีปัญหาบ้าง โดยเฉพาะแดนกลางที่พอขาด อดุล หละโสะ ก็ต้องใช้ นฤพน พุฒซ้อนมาแทนที่ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเองก็ยังไม่เคยได้จับคู่กับ ทากาฟูมิ อากาโฮชิ แต่คิดว่า พอผ่านไปสัก 2-3 เกมทั้งคู่ก็น่าจะทำได้ดีขึ้น"
"ปีที่แล้วเราเจอกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในบ้าน หลายคนมองว่าเราเป็นรอง แต่เราแพ้แค่ลูกเดียวจากจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ รูปเกมเกมนั้นก็ออกมาสูสี สามารถออกได้ทุกหน้า เกมกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราจะต้องเน้นเป็นพิเศษ ปีนี้เราเสียประตูน้อยลงก็จริง แต่ยังมีข้อผิดพลาดในแนวรับอยู่ ซึ่งการเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราจะผิดพลาดไม่ได้เลย เขาถือเป็นทีมที่มีระดับเหนือกว่าทุกทีม เช่นเดียวกัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ผิดพลาดเหมือนกัน แต่ไม่มากเหมือนกับทีมอื่น ซึ่งเมื่อพวกเขาพลาดเราก็ต้องทำให้ได้ ผมหวังว่าเราจะมีแต้มในเกมนี้ เรามองอย่างน้อยว่าต้องมีหนึ่งแต้ม เพราะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่น่ากลัวเสมอ ไม่ว่าจะเล่นนอกบ้านหรือในบ้าน"
"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สำหรับเราคือทีมในระดับเอเชีย เขาแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถสู้กับทีมระดับเอชียได้ ไม่ว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเล่นที่ไหนก็แล้วแต่ พวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความมั่นใจเสมอ และตัวผู้เล่นก็ลงตัวทั้งไทยและต่างชาติ อย่างดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ เรายอมรับว่าเขาคือนักเตะที่อันตรายที่สุดในลีก แต่เราไม่ได้โฟกัสเขาคนเดียว เพราะทุกคนที่เหลือยังมีคุณภาพ เพราะฉะนั้นเราจะเอาทีมเวิร์คไปสู้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"
ด้าน มนเสศร์ ธีรภานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ทางส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราก็ถือว่ามีโปรแกรมเยอะกว่าทีมอื่น เพราะเราต้องเล่นทั้งไทยลีก และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก เมื่อกลางสัปดาห์เราก็เพิ่งเล่นมาเราอาจจะมีความล้า ตอนนี้ก็พยายามฟื้นฟูให้พร้อมที่สุดสำหรับไทยลีก โชคดีที่เราไม่มีตัวบาดเจ็บเพิ่มเติม ตัวหลักยังอยู่ครบ ตอนนี้เราเหลือแค่ อันเดรส ตูเญซ คนเดียวเท่านั้น ที่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์"
"ในส่วนของยู จุน ซู เขาเป็นนักเตะที่สารพัดประโยชน์ ตามปกติเขาเป็นกองกลางของทีม แต่เขาก็สามารถเล่นกองหลังและก็ทำผลงานออกมาได้ดี ขณะเดียวกันยามที่ต้องการประตู เราก็ขยับเขาไปเล่นเป็นกองหน้าและทำประตูได้ในสองเกมหลัง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้ดี"
"ตอนนี้ทางทีมก็ให้โฟกัสทีละเกม เพราะเรายังมีโปรแกรมอีกยาวไกล ก็ต้องดูระยะสั้น การไปเยือนสุพรรณบุรี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาแพ้มาแค่เกมเดียวและน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เกมที่ง่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เองก็มีเป้าหมายที่จะเก็บสามแต้มให้ได้ทุกนัด ตอนนี้เรามองแค่ทีละนัดยังไม่มองถึงเกมกับเจจู ซึ่งหลังจบเกมกับสุพรรณบุรี เราก็จะดูกันอีกครั้ง"
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก สัปดาห์ที่ 9 มีดังนี้
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561
เวลา 17:45 น. บางกอกกล๊าส เอฟซ๊ พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่สนาม ลีโอ สเตเดียม ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 2
เวลา 18.00 น. สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ พัทยา ยูไนเต็ด ที่สนาม สิงห์ สเตเดียม ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 6
เวลา 19.00 น. สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ สนามกีฬากลางจังหวัดชลบุรี ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 3
เวลา 19.00 น. การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนาม แพท สเตเดียม ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 2 และ ทรูโฟร์ยู
เวลา 20.00 น. อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่สนาม ยูเอ็มที สเตเดียม ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 2
วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561
เวลา 18.00 น. พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ สุโขทัย เอฟซี ที่สนาม สามอ่าว สเตเดียม ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 6
เวลา 18.00 น. นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 2 และ ทรูโฟร์ยู
เวลา 19.00 น. ชลบุรี เอฟซี พบกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่สนาม ชลบุรี สเตเดียม ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 7
เวลา 19.00 น. ราชนาวี พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนาม กม.5 สัตหีบ ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต 2 และ ทรูสปอร์ต เอชดี 3
