11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 9
แผนการเล่น : 4-4-2
ประตู : ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
นี่คือเกมที่นายประตูลูกครึ่ง ฟิลิปปินส์-เดนิช โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดนับตั้งแต่เข้ามาโลดแล่นในไทยลีก ในสกอร์ที่ "แข้งเทพ" บุกชนะ การท่าเรือ อย่างขาดลอย ดูจากสกอร์อาจจะเหมือนเป็นงานง่าย แต่แท้จริงแล้ว ไมเคิ่ล ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันลูกยากเป็น 10 ครั้ง บางลูกอาจจะเรียกว่าเป็นการเซฟระดับเวิลด์คลาสเลยก็ว่าได้ จนช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีทครั้งแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ
กองหลัง : เฉลิมศักดิ์ อักขี (บางกอกกล๊าส)
"เจ้าเป็ด" เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง และแม้ร่างกายจะยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยจนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 76 แต่ต้องบอกว่าตลอด 75 นาทีที่มีเขาอยู่ในทีม แนวรุกของ โปลิศ เทโร ไม่สามารถผ่านเขาไปได้เลย เฉลิมศักดิ์เล่นเกมรับได้โดดเด่นกว่าใครทั้งหมดจน "กระต่ายแก้ว" หมดห่วงในเกมรับไปได้เลย ทว่าเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกทีมก็ถูกตีไข่แตกทันที
กองหลัง : เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
นัดนี้ เอเวอร์ตัน แสดงให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในยอดกองหลังที่ดีที่สุดในไทยลีก ทั้งการบัญชาเกมรับในบทบาทหัวใจสำคัญ คอยสั่งการเพื่อนร่วมทีมและเข้าสกัดลูกสำคัญได้ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนเบิกประตูแรกให้ทีมขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ด้วยลูกยิงสุดสวยจากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ
กองหลัง : วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
ในเกมที่ค่อนข้างอึดอัด กองหน้าควานหาสกอร์ไม่เจอ นี่คือสถานการณ์ที่ เชียงราย ต้องเจออยู่เป็นประจำ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ คือผู้เปลี่ยนผลการแข่งขันให้ทีมได้ จากจังหวะเติมขึ้นมาโหม่งลูกเซ็ตพีชที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาซึ่งกลายเป็นประตูชัยให้ "กว่างโซ้ง" เป็นเกมที่สองติดต่อกัน
กองหลัง : อันแดร์สัน ดอส ซานโต๊ส (สุพรรณบุรี เอฟซี)
เกมนี้ปราการหลังเลือดแซมบ้ามีจังหวะผิดพลาดครั้งเดียวคือลูกที่ประกบ เอ็ดการ์ ซิลวา ไม่ดีพอจนทีมเสียประตู แต่จังหวะอื่นๆ นั้น อันแดร์สัน ช่วยเหลือทีมไว้เยอะมากในการสกัดกั้นเกมรุกของจ่าฝูงอย่าง "ปราสาทสายฟ้า" ทั้งลูกกลางอากาศและภาคพื้นดิน อีกทั้งยังมีโอกาสขึ้นมาแก้ตัวด้วยการลุ้นทำประตูแต่จังหวะยังไม่ลงล็อคเท่านั้น
กองกลาง : เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี)
กลายเป็นเดอะแบกของทีม "ฉลามชล" ไปแล้วเพราะหลายเกมที่ผ่านมา "ก้อง" เป็นห้องเครื่องตัวหลักที่ทั้งช่วยยิงประตูสำคัญและสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้เยอะที่สุดแล้ว บทบาทในช่วงหลังไม่ได้เป็นเพียงปีกซ้าย แต่เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาโอกาสใส่สกอร์ให้ทีม ชั่วโมงนี้บอกได้เลยว่าถ้า "บลูชาร์ค" ขาดเขาไปมีขาดใจแน่นอน
กองกลาง : สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
"เจ้าตั๊ก" คือผู้เล่นไทยที่ทำประตูได้มากที่สุดในไทยลีก ณ ปัจจุบันขณะ ลูกยิงปิดกล่อง 3-0 สุดสวยที่แตะหลอก อธิบดี เอติรัตน์ ก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลส่ายไปกองที่ก้นตาข่ายอย่างสวยงามหมดจด นี่คือประตูีที่ 6 ในฤดูกาลนี้เข้าไปแล้ว นอกเหนือจากประตูที่ทำได้ การสร้างสรรค์เกมและคุมจังหวะของกองกลางวัย 31 ปีก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน
กองกลาง : ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (บางกอกกล๊าส)
นี่คือเกมที่กองกลางทีมชาติไทยทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ บางกอกกล๊าส "เจ้านิว" มีบทบาทสำคัญทั้งเกมรับและเกมรุกตามสไตล์ถนัด จนช่วยให้ทีมเปิดบ้่านถล่ม โปลิศ เทโร ขาดลอย 4-1 ซึ่งเขาสามารถทำประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้สำเร็จอีกด้วย
กองกลาง : ทริสต็อง โด (เอสซีจี เมืองทองฯ)
ถูกปรับบทบาทมาเล่นเกมรุกริมเส้นฝั่งขวา มีอิสระในการทำเกมไม่ต้องพะวงกับการเล่นเกมรับหมือนแต่ก่อน ถือเป็นการใช้ข้อดีของแข้งลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ได้อย่างน่าสนใจ เพราะเขามีดีที่เกมรุกและการครอสบอล นัดนี้ซัดประตูสุดสวยเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำ ส่วนลูกที่สองก็เป็นคนเข้าไปกดดัน อินทรัตน์ นายด่านราชนาวีจนปัดบอลไปเข้าทางเพื่อน เป็นสัญญาณส่งไปให้ มิโลวาน ราเยวัช ได้ลองคิดตามว่า ตำแหน่งปีกขวาทีมชาติไทยอาจจะเหมาะกับเขาก็ได้
กองหน้า : เฟเดริก ม็องดี้ (บางกอกกล๊าส)
ใช้ความแข็งแกร่งด้านรูปร่างได้เป็นประโยชน์อย่างมาก มีส่วนร่วมกับประตูแทบทุกลูกจริงๆ ลูกแรกเป็นคนเปิดบอลให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ จากนั้นลูกที่สองก็ใช้่ตัวเบียดกับกองหลังไปก่อนยิงลอดตัว นนท์ ม่วงงาม ส่วนลูกที่สามก็เป็นคนเปิดเข้ากลางให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ซัดประตูแรกในซีซั่น ตอนนี้ "กระต่ายแก้ว" คงได้คู่มือการใช้งานหัวหอกทีมชาติกินี-บิสเซา รายได้มาแล้ว
กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ (เอสซีจี เมืองทองฯ)
ถูกขยับขึ้นสูงมาเป็นกองหน้าตัวเป้า และทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งเก็บบอลและกดดันกองหลังคู่ต่อสู้ นัดนี้โดดเด่นเหลือเกินจัดการเหมายิงไป 2 ประตูและแอสซิสต์ให้ ทริสตอง โด อีกหนึ่งลูก ถ้าไม่ติดว่าลูกยิงอีก 2-3 ครั้งถูกเซฟเอาไว้ได้ก็คงซัดแฮททริคได้ไปแล้ว นี่อาจจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมกับ เฮแบร์ตี้ กว่าการจับเขาถอยลงไปยืนหน้าต่ำก็เป็นได้
โค้ช : แอนดรูว์ ออร์ด (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล)
เข้าทำนองทฤษฎีบอลเปลี่ยนโค้ชอีกครั้ง เมื่อกุนซือลูกครึ่งออสเตรเลียน-อังกฤษ เข้ามาเปลี่ยนแปลงบรรยากาศในถิ่นธูปะเตมีย์ ในรายละเอียดของเกมอาจยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนไปแบบชัดเจนนัก หลักๆ ก็คือการให้โอกาสนายทวารจอมเก๋าอย่าง กฤษกร เกิดผล กลับมาเฝ้าเสา และผู้เล่นที่ไม่ค่อยได้เห็นสมัย "โค้ชเตี้ย" คุม อย่าง สุรชัย ชาวนา และ ศุภกิตติ์ ประเต็ง จนสามารถปลดล็อกคว้าชัยเกมแรก แถมเป็นการเก็บคลีนชีตครั้งแรก รวมไปถึง เจย์ซี จอห์น ก็ทำประตูแรกในฤดูกาลได้สำเร็จอีกด้วย
