วสันต์ มีวงษ์ ผู้จัดการทีม "อัศวินเมืองหลวง"แบงค็อก บีทีเอส บอกชัดเจน ไม่เห็นด้วยที่ฟุตซอลไทยลีกจะมีสโมสรที่มีคนทำทีมอยู่ในเครือเดียวกันเกินกว่า 1 ทีม ยันชัดนี่คือการเลี่ยงในหลักนิติศาสตร์ แต่ทางรัฐศาตร์คนเขารับรู้อยู่แล้ว เผยฟุตซอลสะกิตผลได้ง่ายกว่าฟุตบอล เพราะเสียประตูนับเป็นวินาที ย้ำชัดเรื่องนี้ได้ตกลงร่วมกันทั้งหมดแล้ว บอกแล้ว เตือนแล้ว ก็ยังทำ อย่าไปศรีธนญชัย เพราะข้อเท็จจริงเรารู้กันอยู่แล้ว เปิดใจเคยตำหนิฝ่ายจัดก่อนหน้านี้ แต่มาปัจจุบันต้องชื่นชมและให้เครดิตพวกเขา ยิ่งตอนโควิด-19 ฝ่ายจัดทำให้การแข่งขันที่ยากลำบากผ่านไปได้ด้วยดี เรื่องนี้ต้องชม แนะคนทำฟุตซอลต้องมี แฟร์เพลย์และสปิริต ถามว่ากลัวไหม ฟุตซอลไทยลีกมีหลายทีมที่มีเจ้าของเครือข่ายเดียวกัย ยืนยันไม่กลัว เพราะแบงค็อก บีทีเอส สู้หมดทุกทีม ด้าน ร้อยโทโชคดี คะเณเร็ว กุนซือใหญ่ ฟุตซอลไทยอาร์มี่ เผยเรื่องนี้ไม่ขอออกความเห็น เพราะเราก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว เลือดมันก็น่าจะข้นกว่าน้ำ
จากประเด็นที่ถกเถียงกันในโซเชียลกับความเห็นเกี่ยวกับการถือสิทธิ์ทำสโมสรฟุตซอลอาชีพที่มีมากกว่า 1 สโมสรที่ผู้บริหารเป็นเครือข่ายเดียวกันและอยู่ในลีกเดียวกัน ซึ่งประเด็นนี้คนวงการฟุตซอลไทยลีก อย่าง วสันต์ มีวงษ์ ผู้จัดการทีม "อัศวินเมืองหลวง"แบงค็อก บีทีเอส ซึ่งเป็น 1 ใน 14 สโมสรฟุตซอลไทยลีก ได้ให้ความเห็นว่า
"ความเห็นของผม ผมก็ยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วย ถึงเราจะเข้าใจกันว่านี่คือการเลี่ยงในภาษานิติศาสตร์ แต่ในทางรัฐศาตร์คนเขารับรู้อยู่แล้วในเรื่องของการถือสิทธิ์และการมีสิทธิ์ แม้ไม่ได้ถือสิทธิ์ในทางเปเปอร์ แต่ผมก็บอกมาตลอดว่า กีฬาฟุตซอลมันสะกิตผลกัยได้ง่ายกว่าฟุตบอล ด้วยตัวผู้เล่นที่น้อยกว่า สื่อสารกันง่ายกว่า"
"คือฟุตซอลมันเสียประตูมันไม่ได้เป็นนาทีแบบฟุตบอล เพราะฟุตซอลมันเสียประตูเป็นวินาที มันสะกิตง่ายกว่า"
วสันต์ มีวงษ์ ยังเผยอีกว่า "เรื่องสิทธิ์ทำทีม ที่ลีกเดียวกันจะต้องมีเจ้าของเพียงแค่ 1 ทีม เครือข่ายต่างๆก็ไปขยายต่อไม่ได้นั้น มันเป็นเรื่องที่ตกลงร่วมกันแล้ว บอกแล้ว เตือนแล้ว ซึ่งจริงๆการจะทำทีมมันก็มีวิธีการอื่นๆอีกเยอะที่จะสนับสนุนทีมฟุตซอล"
"เราอย่าไปศรีธนญชัย เพราะข้อเท็จจริงเรารู้กันอยู่แล้ว ผมเองก็ต้องให้เครดิตกับฝ่ายจัดการแข่งขัน แต่ก่อนผมก็ตำหนิฝ่ายจัดกับสโมสร ชลบุรี บูลเวฟ ที่มีการเอื้อประโยชน์เรื่องการแข่งขันกัน แต่ตอนหลังได้มีการแก้ปัญหาแล้ว และก็ไม่มีเรื่องให้ตำหนิอะไร ที่สำคัญผมต้องชมฝ่ายจัดการแข่งขันด้วยซ้ำ ยิ่งเฉพาะช่วงโควิด-19 เขาทำให้การแข่งขันได้แข่งจนเสร็จ เป็นการทำงานที่ยากลำบากของฝ่ายจัด แต่เขาทำให้ผ่านไปให้"
"เรื่องการทำกีฬามันเป็นเรื่องของแฟร์เพลย์และสปิริต ซึ่ง 2 เรื่องนี้ถือว่าสำคัญ มันต้องตระหนักอยู่ในใจของคนทำทีมด้วย อันไหนดีเหมาะสมก็โอเคครับ เหมือนอย่างที่เขาส่งเสริมและสนับสนุนการแข่งขันฟุตซอลเยาวชนทั่วประเทศที่ทางไอมาเน่ดำเนินการจัดการแข่งขัน เขาทำดีมากๆ อันนี้ต้องชื่นชมครับ"
"ถามว่าถ้ามีหลายทีมในฟุตซอลไทยลีกที่มีเจ้าของเดียวกัน ผมกลัวไหม ก็คงไม่กลัวอะไร ผมสนุกกับการทำฟุตซอลแบงค็อก บีทีเอส สู้หมดทุกทีม ไม่ได้กลัวครับ"
ด้าน "ผู้หมวดโชคดี" ร้อยโทโชคดี คะเณเร็ว กุนซือใหญ่ "เสือดำแห่งแดนตะวันตก"ฟุตซอลไทยอาร์มี่ ซึ่งเป็น 1 ใน 14 สโมสรฟุตซอลไทยลีก ได้ให้ความเห็นว่า "ผมอาจจะไม่ขอออกความเห็นอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะผมเป็นชั้นผู้น้อย แต่เราก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้มันคืออะไร เขามีกฏมีระเบียบอยู่แล้ว ก็คงขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ที่ตัดสิน แต่อย่างที่บอก ผมว่า เลือดมันย่อมเข้มกว่าน้ำอยู่แล้ว"