:::     :::

"พี่เขี่ยแล้ววังยิงนะ"!ดุสิตเล่าช็อตธวัชชัยซัดโกลเด้นโกลฝังโสมขาว

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567
351
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

ดุสิต เฉลิมแสน ผู้แอสซิสต์ประตูชัย พาทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ 2-1 ในศึกเอเชี่ยน เกมส์ 1998 เล่าช็อตประตูประวัติศาสตร์

เชื่อว่าในชั่วโมงนี้ลูกยิงประวัติศาสตร์ของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ที่ยิงไกลพาทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ 2-1 ในการแข่งขัน เอเชี่ยน เกมส์ ครั้งที่ 13 รอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อปี 1998 กลับหวนสู่ความทรงจำของแฟนบอลช้างศึกอีกครั้ง  
ทั้งนี้สูตรสำเร็จของลูกยิงดังกล่าวอาจเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับการตัดสินใจที่เด็ดขาดของ ดุสิต เฉลิมแสน อดีตแบ็กซ้ายของทีมชาติไทย ที่สร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญบนประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย 
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ปี 1998 ทีมชาติไทยต้องเผชิญหน้ากับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งแน่นอนว่าชื่อชั้นของความได้เปรียบตกไปอยู่ที่ทีมชาติเกาหลีใต้ที่ขนผู้เล่นชุดหลักมาอย่างคับคั่ง อีกทั้งทีมชาติไทยยังเหลือผู้เล่นเพียง 9 คน จากการโดนใบแดงของ วรวุฒิ ศรีมะฆะ และ สุรชัย จิระศิริโชติ ก่อนเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษหลังเสมอ 1-1 
จนในที่สุดเหตุการณ์ที่แฟนบอลยังจดจำได้เป็นอย่างดีก็ถือเกิดขึ้น เมื่อ เสนาะ โล่งสว่าง ผู้เล่นทีมชาติไทย ถูกทำฟาวล์บริเวณริมเส้นและแน่นอนว่า ดุสิต เฉลิมแสน เข้ามารับหน้าที่เปิดเกมในจังหวะดังกล่าว 
“เราได้ฟรีคิกอยู่ทางด้านซ้ายพอดี ซึ่งปกติแล้วมันก็จะต้องเป็นลูกครอส (เปิดบอล) เข้าไป ซึ่งถ้าใครที่ได้ดูไฮไลท์เก่า ๆ ก็จะเห็นว่าโค้ช ปีเตอร์ วิธ พยายามสั่งให้กองหลังดันขึ้นมา” 
เหตุการณ์ที่ข้างสนาม ปีเตอร์ วิธ เฮดโค้ชของทีมชาติไทยในตอนนั้นพยายามโบกมือและตะโกนสั่งให้ลูกทีมดันขึ้นมาเพื่อเสี่ยงในจังหวะทำประตู เมื่อเห็นเช่นนี้หลายคนอาจคิดว่า ดุสิต เฉลิมแสน คงต้องทำตามแผนด้วยการเปิดบอลเข้าไป…แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้กลับตรงกันข้าม
“ตัวผู้เล่นเราน้อยกว่าและผู้เล่นของเกาหลีใต้ก็รูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งผมก็มองว่ามันไม่ได้เปรียบแล้วถ้าเขาตัดได้แล้วมีการโต้กลับ ด้วยตัวจำนวนผู้เล่นของเราที่น้อยกว่าเราอาจจะเสียประตู ณ ตอนนั้นเลยก็ได้”
ดุสิต เฉลิมแสน กลับตัดสินใจในอีกรูปแบบที่ไม่คาดคิด ด้วยการเขี่ยบอลให้กับ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล 
“ผมเองเป็นคนบอก ธวัชชัย ว่าให้เขาเป็นคนยิง ผมบอกให้เขาขยับมาและกระซิบกับเขาว่า ‘พี่เขี่ยให้แล้ววัง( ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล)ยิงนะ’” 
“ที่ผมตัดสินใจแบบนี้เพราะว่าเราล้ากันหมด อย่างน้อยยิงออกก็ได้พัก” 
เหตุการณ์ดังกล่าวกลับกลายเป็นบทกวีครั้งสำคัญของวงการลูกหนังไทยเมื่อ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ที่วิ่งมาสับไกด้วยเท้าขวาสามารถยิงลูกบอลพุ่งเสียบคานเข้าไปอย่างสวยงาม และกลายเป็นประตูชัยพาทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ 2-1 
ซึ่งในขณะนั้นด้วยกฏการแข่งขันช่วงต่อเวลาพิเศษเป็นรูปแบบกฏประตูทองหรือ Golden Goal แข่งขัน 30 นาที ยิงประตูได้จะเป็นผู้ชนะทันที
“วัง (ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล) เป็นคนยิงไกลดีอยู่แล้วยิงได้ทั้งเช้าเท้าซ้ายเท้าขวา ถึงแม้ระยะมันอาจจะไกลไปหน่อยแต่ก็สามารถทำได้ ถือว่าเป็นลูกเซอร์ไพรส์ลูกนึง แล้วก็ทำให้เราชนะเกาหลีด้วย”
“ตอนที่วังยิงเราอยู่มุมนั้นพอดีซึ่งเราก็เห็นว่ามันเสียบเสาเสียบคานแน่ ๆ เลย มันดีใจมากนะ คือทุกคนวิ่งรอบสนามเพราะว่ามันจบการแข่งขันไปเลย”
แม้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นจะผ่านมาร่วม 25 ปีแล้ว แต่ ดุสิต เฉลิมแสน ยังคงจดจำเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้ได้อย่างขึ้นใจ 
“ผมจำได้หมดเลยนะ และผมเชื่อว่าทุกคนที่ไปดูในเกมนี้ นักเตะในสนาม รวมถึงผู้เล่นในชุดนี้เขาจำทุกอย่างได้หมดมันไม่มีใครลืมอย่างแน่นอน”
ที่สำคัญไปกว่านั้นในวันที่ 21 และ 26 มีนาคมนี้ ทีมชาติไทยจะหวนกลับมาทำศึกใหญ่กับทีมชาติเกาหลีใต้อีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอชีย รอบที่ 2 ซึ่ง ดุสิต เฉลิมแสน ยังส่งกำลังใจถึงทัพช้างศึกและเอาใจช่วยให้คว้าคะแนนสำคัญในเส้นทางฟุตบอลโลกครั้งนี้ 
“เราต้องรัดกุมให้มากที่สุด เก็บความได้เปรียบและกลับมาลุ้นที่บ้านเรา ผมอยากให้แฟนบอลมาเชียร์น้อง ๆ ทุกคน เพื่อร่วมส่งกำลังใจให้ทีมของเราเก็บคะแนนสำคัญให้ได้”

TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวบอลไทยทุกวันทุกเวลา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด