:::     :::

TOYOTA Thai League Team Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 11

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561
1,931
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 11

แผนการเล่น : 4-4-2

ประตู :  ฉัตรชัย บุตรพรม (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด) 

เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งการเซฟประตูยากๆ ออกมาตัดลูกโด่งและการเปิดบอลให้ทีมได้เปรียบ เรียกได้ว่าถ้าวันไหน "บอย" อยู่ในฟอร์มเมื่อไหร่ก็ยากมากที่คู่แข่งจะส่งบอลผ่านเขาไปสู่ก้นตาข่าย และความเหนียวหนึบของเขาก็ช่วยทำให้ีทีมเก็บคลีนชีตและคว้า 3 แต้มสำคัญเหนือแชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ 

กองหลัง : สุริยา สิงห์มุ้ย (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

เป็นอีกเกมที่ "เทค" ถูกจับมายืนเป็นกองหลังตัวกลางประสานงานร่วมกับ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ ชินภัทร ลีเอาะ แม้เราจะจำภาพเขาว่าเป็นแบ็คซ้ายที่้เติมเกมบุกได้ถึงลูกถึงคน แต่การจับมาเล่นเซนเตอร์เขาเองก็ทำได้ดีเช่นกันในการเผชิญหน้ากับผู้เล่นอย่าง ดิเอโก้ หลุยส์ ซานโต "เทค" ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งการประกบตัว, ยืนไลน์ และบล็อคลูกยิงจากแถวสอง แม้ไม่มีโอกาสได้เติมเกมบุก แต่เขาก็ทำให้เห็นอีกครั้งว่าเกมรับก็คือจุดแข็งของเขาเหมือนกัน   

กองหลัง : เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ในเกมฟรายเดย์ไนท์ที่ "แข้งเทพ" บุกไปเอาชนะ บางกอกกล๊าส ได้ถึงถิ่น ถือเป็นเกมที่คู่คี่สูสีอย่างมาก "กระต่ายแก้ว" ก็มีโอกาสลุ้นประตูหลายครั้งแต่การที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด รักษาคลีนชีตจนเก็บ 3 แต้มสำคัญได้นั้น ต้องยกเครดิตให้แผงกองหลังโดยเฉพาะ เอเวอร์ตัน ที่ทำงานหนักมากในการรับมือกับความใหญ่ของ เฟเดริก ม็องดี้ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีและจัดการได้อยู่หมัดตลอดทั้งเกม

กองหลัง : วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด) 

กองหลังแซมบ้าคนนี้ถือเป็นของแสลงสำหรับ บุรีรัมย์ เพราะ 3 ครั้งหลังสุดที่พบกัน เขาทำประตูได้ทุกเกม แถมเป็นการทำให้ทีมชนะทั้งหมดด้วยไม่ว่าจะเป็นเอฟเอ คัพ รอบชิงฯ, ไทยแลนด์แชมเปี้ยนคัพ และตอกย้ำอีกครั้งในเกมเมื่อวาน การขึ้นมาโหม่งลูกเซ็ตพีชที่เป็นเครื่องหมายการค้ากลายเป็นประตูยัดเยียดความปราชัยให้ทีม "ปราสาทสายฟ้า" เป็นเกมแรกของฤดูกาล แถมยังช่วยสกัดกั้นลูกอันตรายได้หมดทั้งภาคพื้นดินและอากาศ

กองหลัง : อเล็กซานดาร์ คาปิโซดา (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล)

กัปตันทีมชาวโครแอตเป็นคนยิงประตูตอกส้นให้ "อินทรีทัพฟ้า" ออกนำ ราชนาวี ไปก่อน และยังช่วยป้องกันลูกกลางอากาศรวมถึงภาคพื้นดินได้เป็นอย่างดี คอยตะโกนการสั่งการในเกมรับเสียงดังฟังชัดตลอดทั้งเกม เสียอย่างเดียวกองหน้าพากันยิงทิ้งยิงขว้างไปซะหมดจากโอกาสที่มีมากมาย ไม่เช่นนั้น แอร์ฟอร์ซ น่าจะได้มากกว่า 1 คะแนนในเกมดาร์บี้แมตช์กองทัพไทย   

กองกลาง : เอกชัย ฤทธิพันธ์ (นครราชสีมา มาสด้า) 

2 ประตูที่เขาเหมาคนเดียว ทำให้สกอร์รวมทะุลุ 4 ประตูเข้าไปแล้วที่ "ปืน" ทำให้ทีม "สวาดแคท" ในฤดูกาลนี้ ขึ้นมานำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม เขาอาจจะเป็นผู้เล่นที่ถูกอันเดอร์เรทกว่าความสามารถที่แท้จริง เกมนี้รับบทเป็นจอมทัพในการสร้างสรรค์โอกาสและหาจังหวะจบสกอร์เองตลอดทั้งเกม ช่วยให้ทีมกลับมาสะกดคำว่าชนะเป็นอีกครั้ง

กองกลาง : ศิวกร จักขุประสาท (การท่าเรือ เอฟซี) 

ในช่วงที่ทีมขาด เซร์คิโอ ซัวเรซ และ คิม ซอง-ฮวาน ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ "กลิ้ง" รับบทหนักมากในแผงกองกลาง แต่เกมนี้พอได้ คิม กลับมาช่วยดูแลเกมรับ ทำให้เขามีบทบาทเด่นชัดขึ้นมาในการสร้างสรรค์เกมรุกรวมถึงเกมรับก็ยังทำงานหนักจนแผงกลางของ พีที ประจวบ ต่อบอลกันแทบไม่ได้ และยังเป็นคนทำประตูชัยให้ การท่าเรือ กลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ได้อีกครั้ง

กองกลาง : มงคล ทศไกร (โปลิศ เทโร)

เกมนี้ "จ่าเย็น" บุกมันส์ดีเหลือเกิน เป็นคนยิงประตูให้ทีมขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการเคลื่อนที่หาช่องและเข้าชาร์จประตูซึ่งเป็นจุดเด่นของเขา นอกจากนั้นยังเกือบบวกประตูเพิ่มจากความขยันที่ตัดบอลมาได้และทำชิ่งกับ มิชาเอล เอ็นดรี้ แถมยังเกือบได้แอสซิสต์จากจังหวะแทงบอลทะลุช่องให้ อ่อง ตู หลุดเดี่ยว ถือเป็นอีกเกมที่ดีมากๆ สำหรับปีกขวาทีมชาติไทย

กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) 

ใครที่เคยปรามาส "ยิม" ไว้ต้องคิดใหม่ เพราะฤดูกาลนี้ยิ่งเล่นยิ่งดี กับบทบาทที่ถูกดันขึ้นไปยืนสูงเหมือนเป็นกองหน้าตัวต่ำ และเกมนี้ก็ทำประตูที่ 3 ในฤดูกาลได้สำเร็จเป็นประตูตีเสมอให้ทีม นอกจากนั้นบทบาทในเกมยังช่วยกันกับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ลำเลียงบอลขึ้นไปโจมตีแนวรับของ เมืองทอง ได้หลายต่อหลายครั้ง ฟอร์ม ณ ชั่วโมงนี้ "ยิม" อาจดีพอสำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ด้วยซ้ำ

กองหน้า : บิล โรซิมาร์ (ราชบุรี มิตรผล) 

แข็งแกร่งเหลือเกินสำหรับดาวยิงชาวบราซิเลียน แม้รูปร่างอาจดูตุ้ยนุ้ยไม่คล่องตัวมากนัก แต่พอชนกับกองหลัง สุพรรณบุรี ก็แทบไม่มีใครเอาเขาอยู่เลย นัดนี้เหมายิงคนเดียว 2 ประตู และเป็นการยิงมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว รวม 11 นัดซัดไป 6 ประตูถือว่าไม่เลวเลยและเชื่อว่าด้วยฟอร์มแบบนี้จะมีสกอร์มาฝากแฟนบอล "ราชันมังกร" ได้อีกเยอะแน่นอน

กองหน้า :  อ่อง ตู (โปลิศ เทโร)  

ฟอร์มเทพอีกแล้วสำหรับกองหน้าทีมชาติเมียนมาคนนี้ นัดนี้เกมรุกของทีมเริ่มต้นมาจากเขาแทบทั้งสิ้น ประสานงานกับคู่หูอย่าง มิชาเอล เอ็นดรี้ ได้อย่างเข้าขาเหลือเกิน และยังเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยให้ โปลิศ เทโร เก็บ 3 แต้มสำคัญเหนือสุโขทัยทำให้แฟนบอลทั้งไทยและพม่าที่ตามมาเชียร์ได้กระโดดเฮกันลั่นสนาม

โค้ช : อเล็กซานเดร กามา (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด) 

เขาคือคนที่รู้ระบบและวิธีการเล่นของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดีที่สุดคนหนึ่งในฐานะอดีตกุนซือที่เคยพา "ปราสาทสายฟ้า" คว้า 5 แชมป์ในปีเดียวมาแล้ว และกามา ก็กลายมาเป็นของแสลงสำหรับ บุรีรัมย์ อีกครั้งที่พา "กว่างโซ้ง" เอาชนะเหนืออดีตทีมเก่าเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน การวางแท็กติกเลือกใช้ผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง รวมถึงการแก้เกมที่ชิงไหวชิงพริบกับ โบซิดาร์ บันโดวิช ตลอดทั้งเกม ถือเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของซูเปอร์บิ๊กแมตช์ไทยลีกนัดนี้


TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวบอลไทยทุกวันทุกเวลา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด