TOYOTA Thai League Team Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 12
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 12
แผนการเล่น : 4-4-2
ประตู : ธณชัย หนูราช (ชลบุรี เอฟซี)
ในยามที่ชนินทร์ แซ่เอียะ ไม่ได้ลงสนาม คนที่ได้รับโอกาสเฝ้าเสาแทนอย่าง ธณชัย ก็ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีเช่นเคย แม้เก็บคลีนชีตไม่ได้แต่ต้องยอมรับว่า "เบียร์" เกมนี้ช่วยป้องกันลูกยากๆ ที่แอร์ฟอร์ซ โหมเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียวในครึ่งหลังได้อย่างยอดเยี่ยมจนพาทีมเก็บ 3 แต้มออกมาจากถิ่น ธูปะเตมีย์ ได้สำเร็จ
กองหลัง : ชัชชน ใจรังสี (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
เขาคือใคร? หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ แต่ในเกมพลิกกลับมาแซงชนะ การท่าเรือ 2-1 เด็กหนุ่มผลผลิตจากโรงเรียนสวนกุหลาบประสานงานกับแผงเกมรับของทีมได้เป็นอย่างดี เล่นเอาเกมรุกของสิงห์เจ้าท่าไปไม่เป็นอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนผลสุดท้ายก็ช่วยให้ทีมคว้าชัยแบบเหนือความคาดหมายได้สำเร็จ
กองหลัง : อัดนาน โอราโฮวัช (พีที ประจวบ)
เล่นได้อย่างแข็งแกร่งในเกมรับ เรียกได้ว่าบอลกลางอากาศ ผู้เล่นเชียงราย เอาชนะเขาไม่ได้เลย แถมยังมีจังหวะสอดขึ้นมาลุ้นเกือบทำประตูได้อีกด้วย ถือเป็นการเสริมทีมที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับทีม "ต่อพิฆาต" ได้ฤดูกาลนี้
กองหลัง : อันเดรส ตูเนซ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
นอกเหนือจากประตูชัยที่ทำให้ บุรีรัมย์ เอาชนะ นครราชสีมา ในเกมดาร์บี้แมตช์ภาคอีสานแล้ว ตูเนซ ยังคงเป็นผู้นำในเกมรับด้วยความเกรี้ยวกราดในการสั่งการเพื่อนร่วมทีม สกัดลูกสำคัญไว้ได้ทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เกมนี้พูดได้เลยว่าถ้าไม่ได้ตูเนซ "ปราสาทสายฟ้า" คงยากที่จะเก็บ 3 แต้มได้
กองหลัง : นพพล ปิตะฝ่าย (สุพรรณบุรี เอฟซี)
รับมือกับความจี๊ดจ๊าดของ จอห์น บาจโจ้ ได้สนุกมาก ปิดการครอสจากริมเส้นได้เป็นอย่างดี แถมยังเติมเกมรุกขึ้นมาสวยๆ ได้หลายครั้ง ลูกตีเสมอก็เป็นคนเปิดจากกราบขวาอย่างแม่นยำไปให้ ศิริมงคล จิตรบรรจง โหม่งนิ่มๆ แบ่งแต้มออกมาจากถิ่นทะเลหลวง ได้สำเร็จ
กองกลาง : วานเดอร์ หลุยส์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
พลิ้วชนิดหาตัวจับยากจริงๆ สำหรับดาวเตะแซมบ้ารายนี้ ผลงานยิง 1 และแอสซิสต์ 1 อาจจะดูน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับโอกาสที่เขาสร้างให้ทีม เกมรับของ ราชนาวี จับเขาไม่อยู่เลยจริงๆ แถมยังเรียกจุดโทษช่วงท้ายเกมให้ ธีรเทพ วิโนทัย ซัดปิดกล่องพาทีม "แข้งเทพ" ถล่มราชนาวี ขาดลอยถึง 5-2
กองกลาง : สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ทำไป 1 ประตูพร้อมกับแอสซิสต์ให้ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ยิงจ่อๆ อีกลูก มีบทบาทเป็นแม่ทัพบัญชาเกมแดนกลางได้อย่างเนียนตา ทักษะและชั้นเชิงรวมถึงการผ่านบอลที่แม่นยำทำให้แผงกลางของ แบงค็อก เหนือกว่า ราชนาวี อย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับรับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ไปครองได้อีกครั้ง ขึ้นนำเป็นนักเตะไทยที่ยิงประตูสูงสุดในไทยลีกถึง 7 ประตูไปแล้ว
กองกลาง : นพพล พลคำ (โปลิศ เทโร)
กองกลางดาวรุ่งทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ต่อกรกับรุ่นพี่ในทีมเมืองทองได้อย่่างถึงพริกถึงขิง มีจังหวะตัดเกมสวยๆ หลายต่อหลายครั้ง แล้วยังมีลูกจ่ายทะลุช่องเป็นจุดเริ่มต้นของประตูที่ 2 ที่ประสานงานกันขึ้นมาอย่างสุดสวยอีกด้วย ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อเนื่องของ "เป้" ให้กับทีม "มังกรโล่เงิน"
กองกลาง : เฟลิเป้ เมเนเซส (ราชบุรี มิตรผล)
อดีตเพลย์เมคเกอร์ของทีมดังระดับ เบนฟิฟ้า และ พัลไมรัส มีบทบาทเป็นจอมทัพในการสร้างเกมรุกให้กับทีม "ราชันมังกร" อย่างต่อเนื่อง เกมนี้ทำประตูสุดสวยให้ทีมและยังเปิดเตะมุมให้ คัง ซู อิล โขกประตูชัยแซงกลับมาชนะ บางกอกกล๊าส ได้อย่างประทับใจกองเชียร์ และนี่ยังเป็นแอสซิสต์ลูกที่ 4 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้อีกด้วย
กองหน้า : โชนาธาน เฮส (พีที ประจวบ)
ครบเครื่องจริงๆ สำหรับศูนย์หน้าดีกรีอดีตดาวซัลโวไทยลีก2 เมื่อซีซั่นที่แล้ว ลูกยิงสุดสวยจากนอกกรอบของเขาเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำอย่างรวดเร็ว และยังมาโขกประตูสวยๆ อีกลูกในจังหวะขึ้นนำ 2-0 แถมแอสซิสต์ให้ ลอนซาน่า ดูมบูย่า คู่ซี้ในแดนหน้าซัดไปอีกประตูช่วยให้ทีมถล่มชนะ เชียงราย 4-2 พร้อมกับทำให้ "ต่อพิฆาต" รักษาสถิติยังไม่แพ้ใครในรังสามอ่าว สเตเดี้ยม ต่อไป
กองหน้า : ลอนซาน่า ดูมบูย่า (พีที ประจวบ)
แข็งแกร่งหาตัวจับยากจริงๆ สำหรับกองหน้าทีมชาติกินีรายนี้ กองหลังของ เชียงราย ที่ว่าใหญ่ๆ อย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ยังเอาเขาไม่อยู่ เขาเก็บบอลในแดนหน้าได้ตลอด ช่วยให้ทีมมีโอกาสสร้างเกมรุกได้ต่อเนื่อง และยังพาบอลไปซุกที่ก้นตาข่ายได้ถึง 2 ประตู
โค้ช : เดนนิส อมาโต้ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับ "นกใหญ่พิฆาต" อย่างแท้จริง ตั้งแต่ที่กลับมาใช้บริการกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ ผลงานของทีมก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การวางแท็กติกให้ ชัยนาท รับมือกับทีมใหญ่อย่าง การท่าเรือ ต้องชมว่าวางแผนเกมรับได้เหนียวแน่นโดยอาศัยจังหวะโต้กลับที่มี 3 แนวรุกต่างชาติอย่าง แบร์กนา อองรี, ดิยุฟ บีรัม และ ฟลอร็องต์ ซินามา ปงโกลล์ ได้อย่างมีประโยชน์ ถือเป็นกุนซือจอมแท็กติกอีกคนที่น่าจับตามองมาก