คำกล่าวเปิดใจของ หนึ่งในผู้เล่นที่ประกาศปิดฉากอำลาการค้าแข้งฟุตบอลอาชีพหลังจากซีซั่น 2023-24 ได้รูดม่านปิดฉากลง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผ่านประสบการณ์บนเวทีลูกหนังอาชีพมานานนับ 2 ทศวรรษ กับหลายสโมสรชั้นนำในแผ่นดินสยาม
สำหรับเส้นทางของมิดฟิลด์มันสมอง เขาเริ่มเดบิวต์กับทีมบ้านเกิดอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นสโมสรแรก ก่อนจะเดินทางตามวิถีของฟุตบอลไปโลดแล่นอยู่กับทีมชั้นนำอย่าง สโมสรยาสูบ (ทีทีเอ็ม), อาร์มี่ ยูไนเต็ด, โอสถสภา, บางกอกกล๊าส เอฟซี(ปัจจุบัน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), ชลบุรี เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี, อุทัยธานี เอฟซี, กระบี่ เอฟซี และกลับมาค้าแข้งบนถิ่น "ช้างป่าห้วยข้าแข้ง" อีกครั้ง
เป็นฟันเฟืองคนสำคัญด้วยการนำขุลพลจากลุ่มน้ำสะแกกรังเดินหน้าคว้าตั๋วใบสุดท้ายเลื่อนชั้นสู่ รีโว่ ไทยลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และพายอดทีมจากเมืองพระชนกจักรี จบอันดับ 7 ในซีซั่นแรกบนเวทีลีกสูงสุดได้อย่างเรียบเนียน
"ในตลอดเวลาในการค้าแข้งตลอด 20 กว่าปี ของผมหากถามว่าประสบความสำเร็จไหม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ผมเสียดายที่ยังไม่เคยก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ ไทยลีก ได้เลย"
"หลังจากแขวนสตั๊ดก็เริ่มมีความรู้สึกเหงาๆ ไปบ้าง ผมยังมีความรู้สึกที่อยากเล่นฟุตบอลต่อ แต่เราได้ประกาศไปแล้วว่าเราจะแขวนสตั๊ด ซึ่งได้วางแผนเอาไว้ตั้งแต่ยังอยู่ใน ไทยลีก 2 กับ อุทัยธานี เอฟซี จนเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ ไทยลีก ได้สำเร็จ" ณรงค์ จันทร์เสวก เผยถึงความรู้สึกหลังโบกมืออำลาการแข่งขันบนผืนฟลอร์หญ้า
"สำหรับการเลือก อุทัยธานี เป็นทีมสุดท้ายในการค้าแข้ง หากพูดตรงๆ คือสโมสรแห่งนี้ดีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการหรือความเป็นมืออาชีพ รวมถึงแฟนฟุตบอลและผู้บริหาร ผมจึงเลือกที่จะจบแบบสวยงามภายในสโมสรแห่งนี้เลย"
"แน่นอนว่านี่คือเวลาอันสมควร แต่ผมเสียดายที่ไม่ได้ร่ำลาแฟนฟุตบอล ซึ่งการที่ได้เข้ามาอยู่ในสโมสรแห่งนี้เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผม พวกเขา(แฟนฟุตบอล) เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพาทีมยกระดับขึ้นไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิม หลังจากนี้ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับสโมสรอุทัยธานี เอฟซี ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จะคอยซัพพอร์ตทีม ไม่ว่าตัวเราจะอยู่ในฐานะไหนก็ตาม"