เฮดโค้ชฉลามชลกำชับลูกทีมต้องเลิกใช้โอกาสในการทำประตูสิ้นเปลือง ขณะที่ สิงห์เจ้าท่า ย้ำว่าจะไม่ประมาทเด็ดขาด แม้จะชนะมาสี่นัดติดในช่วงก่อนหน้านี้
วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.00 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 24 การกีฬาแห่งประเทศไทยฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขัน "มีต เดอะ วอร์ริเออร์" เกมโตโยต้า ไทยลีก นัดส่งท้ายเลกแรก คู่ 19.00 น. ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 8 พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3
ฉลามชลเจ้าถิ่น เกมล่าสุดเพิ่งล้างอาถรรพ์ หลังบุกไปชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มาได้เป็นครั้งแรก ขณะที่ สิงห์เจ้าท่า ชนะมาสี่เกมติดต่อกันแล้ว และล่าสุดเพิ่งสร้างสถิติยิงประตูมากที่สุดต่อนัดในเกมที่แล้วด้วยการถล่ม ราชนาวี 7-1 สถิติการพบกันของทั้งสองทีม ปีที่แล้วเป็นฉลามชลที่เหนือกว่าหลังชนะทั้งไปและกลับ
โดยทาง จักรพันธ์ ปั่นปี หัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสร ชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า "ควาพร้อมตอนนี้ เราก็ได้กำลังใจดีหลังจากที่บุกไปชนะโคราชมา ผู้เล่นตอนนี้ มีแค่ มาร์เคลย์ ซานโตส ที่เจ็บไม่ได้เล่นแน่นอน"
"เรื่องปล่อยนักเตะ ทั้ง ปรินซ์ อัมปองซ่า และ มาร์เคลย์ เขายังไม่สามารถรักษามาตรฐานในการทำประตู ทำให้เราต้องพิจารณา และก็มีการดูผู้เล่นต่างชาติ และก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งถึงนโยบายต่างๆ"
"เรื่องการเสริมทัพ เราก็ต้องการแนวรุกเพิ่มขึ้น อย่าที่เห็นว่าคนที่ทำประตูคือผู้เล่นคนไทย กองหน้าตัวหลักยังทำไม่ได้ เราพยายามมองหาคนที่จบสกอร์ได้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเราก็ต้องดูทิศทางของบอร์ดบริหารอีกครั้ง"
"รูปเกมของเรา ก็พอใจ เพราะทุกคนพยายามเล่นเป็นทีม เรื่องที่แพ้ เราก็บอกนักเตะเสมอว่า มันแค่ผลการแข่งขัน แต่เราต้องมีรูปแบบการเล่นที่ตรงตามคอนเซปต์ของทีม ตลอดเลกแรก เรายังไม่ค่อยพอใจเกมรุก เรามีโอกาสมากมายแต่เราใช้เปลืองเกินไป"
ด้าน จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสร การท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า " ทีมของเราก็พร้อม นักเตะก็เข้าใจกันมากขึ้น มีทีมเวิร์ค, รู้ใจ และกระหายทำให้เราสมบูรณ์ ไม่มีใครบาดเจ็บจนทำให้ทีมทำผลงานออกมาได้ดี"
"เรื่อง เนบีญา บายรัม ที่เชียงรายคืนมา ตอนนี้โควต้าก็เต็มอยู่ และหลายคนก็แข่งขัน หลังจบเกมนี้ก็จะมีการตัดสินใจกันอีกครั้ง ส่วนการเสริมทัพเตรียมเลกสอง ทีมของเรากำลังทำผลงานได้ดี ขณะที่ผู้เล่นสำรองก็ทำได้ดี แต่ยังไม่มีโอกาส ซึ่งเราก็จะมีการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อร่วมการตัดสินใจ"
"การเยือนชลบุรี พวกเขาฟอร์มดีมาตลอด 2-3 เกมหลัง แม้จะมีเยาวชนขึ้นมาหลายคน ซึ่งเราจะไม่ประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป เราจะไม่ประมาทเหมือนตอนเจอกับ โปลิศ เทโร เอฟซี หรือ ชัยนาท ฮอร์นบิล เพราะการชนะในโตโยต้า ไทยลีก ในแต่ละนัดปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย"
"ส่วนดราแกน บอสโควิช ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยมีใครสนับสนุน แต่ตอนนี้ก็มีมากขึ้น และรู้ใจมากขึ้น เราเล่นได้หลากหลาย เขาจบสกอร์ได้เฉียบคม และเริ่มทำประตูได้ต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะทำได้ดีขึ้นไปอีกต่อๆไป"
"ส่วนในรายของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ เขามีความกระหายชัยชนะสูงมาก ผมเชื่อว่าเขายังเก่งขึ้นได้อีก หากเขากล้ามากกว่านี้ เขาต้องหลากหลาย เขาอยากเอาชนะ และทำให้ผมเชื่อว่าเขาเก่งได้มากกว่านี้"
"เลกแรก เรายังขาดมาตรฐาน เราสู้กับทีมใหญ่ได้ดี แต่เมื่อเจอกับทีมอันดับต่ำกว่า เรามักจะประมาท เราต้องพยายามรักษามาตรฐานให้ดีกว่าเดิม ปรับทัศนคติให้ดีขึ้น ไม่ประมาทใครและมองเป้าหมายให้ชัดเจน"
"นักเตะเรารวมใจกัน พูดคุยกันมากขึ้น ในช่วงการซ้อมว่าต้องแก้ไขตรงไหน ทุกคนเข้าใจและรู้ใจกัน ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ขณะที่ตัวสำรองก็ทำเต็มที่เสมอ เพื่อให้ตัวหลักพัฒนาเพื่อทีม"
