พลังเพลิงเปิดตัว"จุง ฮุน"อดีตแข้งสุพรรณฯเสริมแกร่งแดนกลาง
"พลังเพลิง"พีทีที ระยอง เดินหน้าเสริมทัพแข้งใหม่รายที่ 3 จัดการคว้าตัว "จุง ฮุน"มิดฟิลด์ตัวรับชาวเกาหลีใต้ อดีตผู้เล่นสุพรรณบุรี เอฟซี เมื่อปี 2016 กลับมาเล่นในไทยอีกครั้ง โดยทาง "สรัญ รังคสิริ"ประธานใหญ่ พร้อมด้วย "โค้ชโจ"ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น เฮดโค้ชของทีม ต่างมั่นใจจะเข้ามาเติมเต็มและช่วยพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้แน่
เดินหน้าเสริมทัพต่อเนื่อง สำหรับ “พลังเพลิง”พีทีที ระยอง ทีมยักษ์ใหญ่ในศึกไทยลีก 2 “เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ 2018”โดยหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้คว้าตัว 2 ผู้เล่นใหม่มาแล้วคือ อนาวิน จูจีน กับ โจซิมาร์ ล่าสุด “พลังเพลิง”ทำการเปิดตัว จุง ฮุน กองกลางตัวรับชาวเกาหลีใต้วัย 32 ปี มาเสริมทัพเป็นรายที่ 3 ด้วยสัญญา 1 ปีครึ่ง โดยนี่ถือเป็นการกลับมาค้าแข้งในเมืองไทยหนที่ 2 ของดาวเตะรายนี้ หลังจากเมื่อปี 2016 เคยมาเล่นอยู่กับ “ช้างศึกยุทธหัตถี”สุพรรณบุรี เอฟซี ในศึกไทยลีก 1
โดย คุณสรัญ รังคสิริ ประธานสโมสรพีทีที ระยอง เปิดเผยว่า “การเข้ามาของ จุง ฮุน จะช่วยให้แดนกลางของทีมมีความแข็งแกร่งและลงตัวมากขึ้น นักเตะรายนี้มีประสบการณ์เคยลงเล่นในไทยลีกมาแล้ว จึงไม่น่ามีปัญหาในเรื่องของการปรับตัว พร้อมมั่นใจ จุง ฮุน จะเข้ามาเติมเต็มและช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จ”
ด้าน “โค้ชโจ”ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือใหญ่ของทีม กล่าวว่า “จุง ฮุน จะเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่เรายังขาดก็คือมิดฟิลด์ที่ช่วยเล่นเกมรับ ซึ่งนักเตะใหม่ที่เราเพิ่งได้มาทั้ง 3 คนคือ อนาวิน , โจซิมาร์ , จุง ฮุน ถือเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาแล้วในลีกสูงสุดเมืองไทย ดังนั้นเชื่อว่าทีมจะแข็งแกร่งและยกระดับขึ้นมาในเลกที่ 2 เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายสูงสุดที่ตั้งเอาไว้ในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ศึกไทยลีก 1 ให้ได้”
สำหรับประวัติของ “จุง ฮุน”เกิดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.1985 อายุ 32 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เริ่มต้นค้าแข้งกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ทีมดังในศึกเคลีก เกาหลีใต้ โดยลงเล่นให้ต้นสังกัดยาวนานกว่า 8 ปี ตั้งแต่ปี 2008-2015 พร้อมมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เคลีกมาครองได้ในปี 2015 ก่อนในปี 2016 จะย้ายมาค้าแข้งในไทยลีกกับ สุพรรณบุรี เอฟซี มีสถิติลงสนาม 27 นัด ช่วยให้ทีมจบในอันดับ 10 ของตารางลีกสูงสุดเมืองไทยปีนั้น ต่อมาในปี 2017 ตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้งกับทีมซูวอน เอฟซี ในศึกเคลีก ชาเลนจ์ ลงเล่นไป 23 นัด ช่วยให้ทีมจบอันดับที่ 6 ของตาราง ส่วนในปี 2018 ลงสนามช่วยทีมในเลกแรกไปทั้งสิ้น 8 นัด ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพ “พลังเพลิง”เพื่อลงสู้ศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2018 เลกที่ 2