TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 19
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 19
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : ธีรัตม์ นาคชำนาญ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
"เจ้ากี้" โชว์ฟอร์มมหาอุตม์ จนแนวรุกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปวดขมับไปตามๆ กันเพราะยิงยังไงก็ไม่ผ่านสรรพางค์กายของนายด่านรายนี้ ที่่ผ่านมายังไม่เคยเห็นใครสร้างปัญหาให้แนวรุกของ "ปราสาทสายฟ้า" มากขนาดนี้มาก่อน ช่วยเซฟจนพาทีม "นกใหญ่" บุกพิฆาต 3 แต้มที่แทบไม่มีใครคาดคิดจากถิ่น ช้าง อารีน่า ได้สำเร็จ
กองหลัง : เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ)
เติมเกมบุกมันส์ดีเหลือเกินสำหรับวิงแบ็คลูกครึ่้งไทย-สวีดิช เกมรุกทางซ้ายประสานงานกับ นูรูล ศรียานเก็ม ได้ดุดันจนแนวรับของ ราชบุรี ไม่รู้จะรับมือยังไงไหว ประตูนำ 1-0 ต้องยกเครดิตให้เทคนิคของ เควิน ที่เลี้ยงจนสุดเส้นก่อนผ่านให้ เซร์๋คิโอ ซัวเรซ ชาร์จเข้าไป จนทำให้เกมของ "สิงห์เจ้าท่า" คลายความกดดันจากประตูออกนำเร็ว
กองหลัง : มิก้า ชูนวลศรี (ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด)
ประสานงานเกมรับกับแผงแบ็คโฟร์ "แข้งเทพ" ได้ลงตัว เรียกได้ว่าแนวรับชุดนี้คือชุดที่ถูกใจแฟนคลับที่สุดแล้ว อีกทั้งยังคอยเติมเกมรุกทางกราบขวาอยู่ตลอดทั้งเกม วิ่งเติมขึ้นสุดจนหลุดเดี่ยวไปทำประตูให้ทีมออกนำ 2-0 ช่วยพาทีมคว้า 3 แต้มสำคัญ พร้อมขยับแซง บุรีรัมย์ ขึ้นนำจ่าฝูงของตาราง
กองหลัง : จิระ เจริญสุข (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
แบ็กจอมบุกอดีตเด็กปั้น "ฉลามชล" เติมเกมรุกในสไตล์ถนัดคอยหาจังหวะสับไกอยู่เนืองๆ จนหนึ่งในนั้นกลายเป็นประตูให้ ชัยนาท พลิกเอาชนะ "ปราสาทสายฟ้า" ได้อย่างเหนือความคาดหมาย นอกจากประตูที่ทำได้ ยังคอยช่วยป้องกันเกมรุกริมเส้นที่มีทั้ง ดิโอโก้, สุภโชค และ กรกช ที่หมุนเวียนกันมาสร้างความปั่นป่วน แต่ "เจ้าอาร์ท" ก็ยังป้องกันไว้ได้เป็นอย่างดี
กองหลัง : ชณธวัฒน์ ศรีสุข (ราชนาวี)
"เจ้าเดี่ยว" เล่นเกมรับได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวในเกมนี้ ไฮไลต์สำคัญคือจังหวะเป็นตัวสุดท้ายนอนสกัดลูกยิงที่กำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังช่วยกันประสานงานกับ ณัฐพร พันฤทธิ์, คิม อิล-ฮยอง และ อธิบดี เอติรัตน์ ได้อย่างลงตัว จนแนวรุกของ บางกอกกล๊าส เจาะเท่าไหร่ก็เจาะไม่เข้า
กองกลาง : สมศักดิ์ มุสิกะพันธ์ (อุบล ยูเอ็มที)
"เจ้าบอล" เคยสร้างชื่อไว้กับสโมสรอื่นๆ ในฐานะกองหน้าตัวเป้า แต่กับทีม "เทพอินทรี" การขยับโยกออกมาเล่นเป็นตัวรุกริมเส้นก็ยังทำได้ดี นอกจากประตูที่แปผ่านมือ แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม เป็นประตูออกนำ 1-0 แล้ว ยังมีจังหวะลุ้นทำประตูอีกหลายครั้ง รวมถึงการกระชากลากเลื้อยปั่นป่วนคู่ต่อสู้ทางกราบซ้าย นี่น่าจะเป็นเกมที่สุดในฤดูกาลนี้ของ "เจ้าบอล" เสียอย่างเดียวที่ทีมพลาด 3 แต้มไปอย่างน่าเสียดาย
กองกลาง : ชุษณะ นัมคณิสร (ราชนาวี เอฟซี)
"เจ้าดิว" คือหนึ่งในผู้เล่นไทยที่เนื้อหอมที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะเลกสอง ทว่า "ตะหานน้ำ" ยังไม่ยอมปล่อยไปไหน เพราะหากคิดที่จะอยู่รอดในไทยลีกก็คงต้องทำทุกทางเพื่อเก็บกองกลางจอมถล่มประตูรายนี้ไว้กับทีม ด้วยผลงานซัดไปแล้ว 5 ประตูนำเป็นดาวซัลโวของทีมร่วมกับ อมาดู อ๊วตตาร่า นัดนี้ก็ยิงไปอีก 1 ประตูจากลูกยิงไกลที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาอีกครั้ง
กองกลาง : เซร์คิโอ ซัวเรซ (การท่าเรือ)
โดดเด่นเหนือใครบนฟลอร์หญ้าที่มิตรผล สเตเดี้ยม เป็นผู้เล่นที่ต้องยอมรับเลยว่าเอาท์คลาสจริงๆ ทั้ง 4 ประตูีที่ การท่าเรือ ทำได้ แข้งสแปนิชผู้ีนี้มีส่วนร่วมด้วยทั้งหมด ด้วยการยิง 2 และจ่าย 2 กลายเป็นผู้เล่นที่ "สิงห์เจ้าท่า" ขาดไม่ได้อย่งแท้จริง พร้อมกับยิงไปแล้วรวม 13 ประตูรั้งอันดับ 4 ของตารางดาวซัลโวทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลาง
กองหน้า : ชิโร่ อัลเวส (ชลบุรี เอฟซี)
ก่อนหน้านี้อาจจะถูกวิจารณ์ว่าเป็นแข้งบราซิลเสิ่นเจิ้น เลี้ยงยันโกลอะไรเทือกนั้น แต่เกมที่ ชลบุรี บุกไปเก็บ 3 แต้มสำคัญจากถิ่นของ สุโขทัย ได้สำเร็จนั้น ชิโร่ อัลเวส มีส่วนสำคัญเหลือเกินในการปั่นป่วนทางริมเส้นฝั่งขวา คอยสร้างโอกาสให้ทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทีม การที่ มาร์เคล ซานโต๊ส หายเจ็บกลับมาทำให้เขามีคู่หูที่คลาสบอลทันกัน และ ชิโร่ ก็กลายมาเป็นฮีโร่ผู้ซัดประตูชัยให้ทีม "ฉลามชล" คว้า 3 แต้มได้สำเร็จ
กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ (เอสซีจี เมืองทองฯ )
"เดอะแบก" ก็ยังเป็นคำจำกัดความที่้ลงตัวที่สุดสำหรับ เฮแบร์ตี้ กับทีม "กิเลนผยอง" หลังจากที่ถูก แอร์ฟอร์ซ กระตุกหนวดกิเลนไปก่อน ก็ได้ เฮแบร์ตี้ นี่แหละที่ช่วยกันประสานงานกับ ชาช่า และ ศนุกรานต์ ถิ่นจอม ระดมเกมรุกใส่ "ทัพฟ้า" อย่างไม่หยุดยั้ง และ เฮแบร์ตี้ ก็เอาอีกแล้ว จัดการยิงคนเดียว 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมกลับมาคว้าชัยได้ตามเป้าหมาย
กองหน้า : เลอันโดร อัสซัมเซา (นครราชสีมา มาสด้า)
"อัสซ่า" กลายเป็นความหวังสูงสุดของทีม "สวาดแคท" ในการลุ้นทำประตู หลังจากเพิ่งย้ายมาเล่นให้ทีมไปเพียง 2 นัด ในสถานการณ์ที่ทีมพร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา ก็มาได้หัวหอกแซมบ้ารายนี้ช่วยทวงประตูคืน 2 ลูกในช่วงครึ่งหลัง จนช่วยให้ทีมรอดพ้นความปราชัย ไม่ต้องกลายเป็นทีมแรกในรอบ 15 เกมที่แพ้ อุบล ยูเอ็มที
เฮดโค้ช : เดนนิส อมาโต้ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
นอกจากเกมรับของ ชัยนาท จะช่วยกันป้องกันประตูได้อย่างยอดเยี่ยม และแนวรุกของ บุรีรัมย์ พากันปืนฝืดไปเองอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว 3 คะแนนที่ "นกใหญ่พิฆาต" คว้าได้จากถิ่นของ "ปราสาทสายฟ้า" ก็ต้องยกเครดิตให้กุนซือชาวเยอรมันรายนี้ด้วยเช่นกัน เพราะคงมีไม่กี่คนในเมืองไทยที่จะสามารถพาทีมที่หน้าเสื่อเป็นรองเยอะขนาดนี้บุกมาเก็บ 3 แต้มออกจากถิ่น ช้าง อารีน่า ได้ การตั้งรับลึกและอาศัยจังหวะโต้กลับจากแนวรุกที่มีความเร็ว รวมถึงสั่งให้ลูกทีมหาจังหวะสับไกจากนอกกรอบ ได้ผลชะงัดดีเหลือเกินในเกมนี้