สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จัดการประชุมหารือเกี่ยวกับการเพิ่มโควต้าอาเซียน ยืนยันใช้ลงสนามได้มากที่สุด 7 คน แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขเคยเล่นให้ทีมชาตินั้นในชุดยู-19มาก่อนเป็นอย่างน้อย
โดยในที่ประชุมได้มีการเสนอแนะเบื้องต้น ให้มีการกำหนดว่าต้องเคยเป็นนักเตะที่ขึ้นทะเบียนไทยลีก โควต้า อาเซียน ตั้งแต่ฤดูกาล 2560 หรือเคยติดทีมชาติลงสนามในเกมที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ), สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีขึ้นไป พร้อมหนังสือรับรองจากสมาคมกีฬาฟุตบอลจากแต่ละประเทศ เพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับบุคคลผู้ถือ 2 สัญชาติ ซึ่งในระเบียบการโอนย้ายผู้เล่นต่างชาติตามระเบียบของฟีฟ่า สามารถทำได้กับผู้เล่นตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป
สำหรับโควต้านักเตะไทยและต่างชาติในฤดูกาลหน้านั้น 11 นักเตะตัวจริงจะประกอบด้วยผู้เล่นสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่า 4 จนถึง 11 คน, ผู้เล่นอาเซียน ระหว่าง 1-7 คน, ผู้เล่นโควต้าเอเชีย ระหว่าง 1-4 คน และผู้เล่นต่างชาติไม่เกิน 3 คนด้วยกัน
ซึ่งทางด้าน พาทิศ ศุภะพงษ์ ได้กล่าวหลังจบการประชุมว่า “วันนี้คณะกรรมการได้มีการพิจารณาคุณสมบัติของนักเตะสัญชาติอาเซียนที่เราจะนำมาใช้ในฤดูกาล 2562 หรือ 2019 เฉพาะไทยลีก 1”
“วันนี้ได้มีข้อเสนอแนะจากที่ประชุม เป็นข้อสรุปที่จะนำขึ้นให้สภากรรมการได้พิจารณาในลำดับต่อไป อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมอีกครั้งหนึ่งเพื่อสรุปทุกอย่างในช่วงเดือนสิงหาคม”
“ซึ่งเราได้มีข้อเสนอแรกเกี่ยวกับผู้เล่นสัญชาติอาเซียน นั่นก็คือนักเตะจะต้องเคยลงเล่นให้กับชาตินั้นๆ ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีเป็นอย่างต่ำ เพราะอย่างน้อย เราก็สามารถควบคุมคุณภาพได้ว่า ผู้เล่นคนนั้นได้เคยลงเล่นให้กับทีมชาติ และจะได้เกิดความชัดเจน ในกรณีที่ถือ 2 สัญชาติ”
“โดย 11 ผู้เล่นตัวจริง ผู้เล่นสัญชาติไทย สามารถลงสนามได้ไม่ต่ำกว่า 4 คน จนถึง 11 คน ขณะที่ผู้เล่นสัญชาติอาเซียนสามารถลงสนามได้ตั้งแต่ 1-7 คน ส่วนโควต้าเอเชียอยู่ระหว่าง 1-4 คน และต่างชาติไม่เกิน 3 คน ตามลำดับ ซึ่งนักเตะที่เคยลงทะเบียนโควต้าอาเซียนแล้วในปีนี้หรือปีที่ผ่านมา จะมีการยกเว้น เพราะสโมสรได้มีการเซ็นสัญญาล่วงหน้าไปก่อนที่จะมีการออกคุณสมบัติใหม่”
“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องสภากรรมการพิจารณาก่อน ซึ่งอาจมีความเห็นเพิ่มเติมหรือแตกต่างจากที่คณะกรรมการนำเสนอ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้เกิดจากความร่วมมือของสื่อมวลชน, ตัวแทนของสโมสรจากโตโยต้า ไทยลีก ซึ่งเราพยายามกระจายสโมสรตัวแทนไม่ให้กระจุกเฉพาะทีมใหญ่ๆ” รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ กล่าวทิ้งท้าย