TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 24
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 24
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : วัฒนพงษ์ ตาบุดดา (อุบล ยูเอ็มที)
"เจ้าวัฒน์" โชว์ฟอร์มเซฟลูกมหัศจรรย์ ไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง ในสกอร์ที่ อุบล เฉือนชนะ สุโขทัย 1-0 ถ้าได้ดูเกมต้องบอกว่าไม่ง่ายเลย เพราะ "ค้างคาวไฟ" มีโอกาสเจาะตาข่ายหลายครั้งมากๆ แต่ยิงยังไงก็ไม่ผ่านมือของนายด่านรายนี้ไปได้เลย จน "เทพอินทรี" เปืดบ้านเก็บ 3 แต้มแถมรักษาคลีนชีทได้อย่างยอดเยี่ยม
กองหลัง : วันชัย จารุนงคราญ (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
เป็นเกมที่ "เจ้าไช้" มีส่วนร่วมเยอะมาก จังหวะตีเสมอก็เป็นเขาที่เติมขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนครอสไปให้ ร็อบสัน แฟร์นานเดซ อย่างสุดสวย นอกจากนั้นยังยืนตำแหน่งในเกมรับรวมถึงประกบตัวได้ดี ช่วยสกัดบอลก่อนจะเข้าทางกองหน้า "กว่างโซ้ง" ได้สวยๆ ตลอด
กองหลัง : บรินเนอร์ เฮนริเก้ (อุบล ยูเอ็มที)
บรินเนอร์ เล่นเกมรับได้อย่างมีวินัย ในเกมที่มีภาระหนักมากที่ต้องคอยรับมือ 3 ประสานนแนวรุกต่างชาติของ สุโขทัย แต่ดาวเตะเลือดแซมบ้าก็ใช้สมาธิคอยป้องกันเกมบุกด้วยความสุขุม และจังหวะได้ประตูชัยจุดเริ่มต้นก็มาจากการขึ้นมาโหม่งไปให้ ไพโรจน์ เอี่ยมมาก เซฟมาเข้าทาง กัณฑ์สิทธิ์ เปรมธนากุล ก่อนที่ทีมจะสมหวังคว้า 3 คะแนนสำคัญเพื่อต่ออายุในการลุ้นหนีตกชั้นได้สำเร็จ
กองหลัง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (บางกอกกล๊าส)
ถูกจับถอยลงมาเล่นกองหลังอีกครั้งในระบบหลัง 3 ตามสไตล์ของ "โค้ชจุ่น" และ "เจ้าตั้ม" ก็ช่วยเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง มีจังหวะสกัดลูกอันตรายได้หลายครั้ง รวมถึงขึ้นมาช่วยเพื่อนเซ็ตบอลในแดนกลางเพื่อสร้างจังหวะในการทำเกมรุกอย่างต่อเนื่อง
กองหลัง : อี วอน แจ (นครราชสีมา มาสด้า)
ปราการหลังเลือดกิมจิ ช่วยสกัดลูกกลางอากาศได้เกือบทั้งหมด และยังคอยขึ้นไปลุ้นโหม่งลูกตั้งเตะได้แบบมีลุ้นตลอด ถือเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญสำหรับ "สวาดแคท" ที่กำลังลุ้นหนีตายสุดชีวิต
กองกลาง : จักรกฤษ นิยมสุข (นครราชสีมา มาสด้า)
เจ้าของฉายา "นิวปีโป้" ได้ความแข็งแกร่งของร่างกายคอยพักบอลให้ทีม และใช้ความเร็วกระชากบอลสร้างเกมบุกได้หวือหวาหลายต่อหลายครั้ง ตามตำแหน่งอาจจะเป็นศูนย์หน้า แต่บทบาทส่วนใหญ่จะขึ้นเกมริมเส้นมากกว่า และในเกมนี้กลายเป็นฮีโร่ด้วยการใช้ความสูงใหญ่ขึ้นเบียดโหม่งประตูชัยให้ทีมคว้า 3 แต้มอันล้ำค่า
กองกลาง : เซร์คิโอ ซัวเรซ (การท่าเรือ เอฟซี)
เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาก็แผงฤทธิได้ทันที ด้วยการเป็นผู้ซัดประตูัชัยให้กับ "สิงห์เจ้าท่า" หยุดสถิติไม่ชนะใครมา 3 นัดรวมทุกรายการ เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่ากองกลางชาวสแปนิชคือผู้เล่นสุดสำคัญที่ การท่าเรือ จะขาดไปไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้
กองกลาง : จักรพันธ์ แก้วพรม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
บัญชาเกมในแดนกลางได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้นเมื่อทีมได้ รัตนากร หายเจ็บกลับมารวมถึงมี ยู จุน-ซู คอยช่วยรับถ่ายบอล เกมนี้ "เจ้าโน๊ต" สร้างสรรค์เกมรุกให้ีทีมได้สวยๆ หลายครั้ง รวมถึงเป็นคนทำประตูชัยให้ "ปราสาทสายฟ้า" ทำสถิติชนะรวดเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันรวมทุกรายการไปแล้ว
กองหน้า : คาร์เลา (พัทยา ยูไนเต็ด)
เป็นเกมที่หัวหอกชาวบราซิลเลี่ยนโดดเด่นอย่างมาก ทั้งความสามารถเฉพาะตัวและความแข็งแกร่งรวมถึงประสานงานกับคู่หูเพื่อนร่วมชาติอย่าง ลูเคียน ได้ชนิดมองตาก็รู้ใจ เกมนี้ คาร์เลา ยิง 1 จ่าย 1 และถือเป็นแมนออฟเดอะแมตช์อย่างแท้จริงในชัยชนะที่พัทยา บุกไปโค่นสุพรรณบุรี ได้ถึงถิ่น
กองหน้า : ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ถ้าวันไหนคิดอะไรไม่ออกก็บอก ดิโอโก ได้เลย หัวหอกแซมบ้า ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมพา "ปราสาทสายฟ้า" บุกอัด "ฉลามชล" ถึงถิ่น 2-0 พร้อมกับทำสถิติยิงรวม 23 ประตู ขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโวไทยลีก สกอร์ที่ออกมาเหมือนเป็นเกมที่ง่ายดายเกินคาด แต่ถ้าไม่ได้ ดิโอโก ก็คงยากที่จะเก็บ 3 แต้มในเกมนี้
กองหน้า : ดาวิด บาลา (บางกอกกล๊าส)
"ไม่ต้องลงเยอะ เดี๋ยวเจ็บขา" ดาวิด บาลา ใช้เวลาในสนามแค่เพียงครึ่งชั่วโมงเศษเท่านั้น เพื่อทำ 2 ประตูสำคัญช่วยให้ "กระต่ายแก้ว" แซงกลับมาชนะ "กิเลนผยอง" 3-1 หลังจากที่ช่วยทำประตูมาต่อเนื่องในเกมที่ผ่านๆ มา เรียกได้ว่าอดีตลูกทีมเก่าที่ดึงมาจาก ขอนแก่น เอฟซี กลายเป็นคีย์แมนสำคัญต่อการลุ้นหนีตกชั้นของ บีจีเอฟซี ไปเรียบร้อยแล้ว
เฮดโค้ช : อนุรักษ์ ศรีเกิด (บางกอกกล๊าส)
"โค้ชจุ่น" คุมทีมในสไตล์ใส่ใจนักเตะทั้งในและนอกสนามจนได้ใจลูกทีมที่พร้อมสู้กันแบบลืมตาย เกมนี้แม้จะถูก เมืองทอง ออกนำไปก่อน แต่การแก้เกมด้วยปรัชญาเกมรุกที่ส่งผู้เล่นเกมบุกลงสนามแบบหมดหน้าตัก และก็ได้ผลในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เมื่อ ดาวิด บาลา หัวหอกคู่บุญตั้งแต่สมัยคุม ขอนแก่น เอฟซี มากลายเป็นซูเปอร์ซับ ยิงคนเดียว 2 ลูกในช่วงท้ายเกม บวกกับอีกลูกโดย โตติ ทำให้ "กระต่ายแก้ว" แซงกลับมาถล่มชนะ "กิเลนผยอง" ไปได้อย่างราบคาบ