สถิติ2ปีไร้พ่าย "โค้ชโย่ง" ถ่อมตัวไม่คิคคุมช้างศึกชุดใหญ่
"โค้ชโย่ง" ยืนยันไม่คิดขึ้นกุมบังเหียนทีมชาติชุดใหญ่ สืบทอดตำแหน่งจาก มิโรวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บ แม้สถิติสวยหรูคุมทีม "ช้างศึกจูเนียร์" ร่วม 2 ปียังไม่เคยแพ้ใคร ชี้ตั้งเป้าเอาตัวรอดในศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ให้ได้ก่อน
"โค้ชโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ คุมทีม "ช้างศึกจูเนียร์" มาทั้งสิ้น 22 นัด ทำสถิติชนะ 14 เสมอ 7 แพ้เพียง 1 นัดให้กับ จีน 1-2 ในศึกดูไบ คัพ เมื่อปี 2017 ซึ่งอันที่จริงแล้วรายการดังกล่าว "โค้ชหระ" อิสระ ศรีทะโร และ "โค้ชก้าง" นฤพน แก่นสน ต้องทำหน้าที่ขัดตาทัพแทนชั่วคราวเนื่องจาก "โค้ชโย่ง" ติดอบรมโปรไลเซ่น โดยทำได้ทั้งสิ้น 33 ประตู เสียเพียง 8 ประตูเท่านั้น
และหากนับเฉพาะเกมที่ "โค้ชโย่ง" คุมทีมข้างสนามด้วยตัวเอง ทีมชาติไทยยังไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับทีมใดเลย พร้อมกับคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2017 ทว่าสไตล์การทำทีมไม่ถูกใจแฟนบอลบางส่วน จนถูกแทนที่ด้วย โซรัน ยานโควิช ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีเมื่อช่วงเดือนม.ค. และกลับมาคุมทีมอีกครั้งในชุดเอเชียนเกมส์ 2018
อย่างไรก็ตามแม้มีกระแสว่า "โค้ชโย่ง" ถูกวางตัวให้สืบทอดตำแหน่งกุนซือทีมชาติชุดใหญ่ต่อจาก มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บ ทว่ากุนซือวัย 46 ปียืนยันกับ THSPORT ว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องดังกล่าวและหวังทำผลงานให้ดีในศึกเอเชียนเกมส์ ในเดือนหน้าให้ได้ก่อน
"ผมคงไม่คุมทีมชาตินานขนาดนั้น ตอนนี้ก็ตั้งเป้าแค่ว่าเอาตัวรอดในเอเชียนเกมส์ให้ได้ก่อน ที่ผ่านมาเราอาจจะยังไม่ได้เจอทีมที่แข็งมากนัก แต่เอเชียนเกมส์นี่ล่ะถือเป็นบทพิสูจน์ของจริงแล้ว"
"แนวทางทำทีมของผมต้องเริ่มต้นจากเกมรับก่อน แต่ก็เพราะตัวผู้เล่นด้วยแหละ เพราะอย่างซีเกมส์เราไม่ค่อยมีผู้เล่นที่เป็นสไตล์สร้างสรรค์เกมรุก มีแค่เจ้ายิมคนเดียวเองมั้ง แล้วกองหน้าก็ค่อนข้างมีปัญหาเพราะไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ถ้าจะบอกว่าตำแหน่งไหนที่ผมกังวลทีุ่สุดก็คือกองหน้านี่แหละ เพราะถ้า เจนรบ (สำเภาดี) เจ็บไปคนนึงก็เรื่องใหญ่เลย เพราะ ฟร้องซ์ (ปรเมศย์ อาจวิไล) กับ บาส (เสฏฐวุฒิ วงค์สาย) ก็คงยังแบกไม่ไหวเหมือนกัน