TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 26
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 26
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : ขวัญชัย สุขล้อม (พีที ประจวบ)
"เจ้าช็อป" โชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าในเกมช่วยให้ทีมแซงชนะ ราชบุรี 2-1 สมกับที่กุนซือหลายๆ คนเอ่ยปากชมว่าเขาคือผู้รักษาประตูที่ผลงานดีที่สุดในไทยลีกฤดูกาลนี้ และน่าจะยึดมือหนึ่งทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ได้เลยด้วยซ้ำ
กองหลัง : ศรายุทธ สมพิมพ์ (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล)
"ตาหวาน" ล้มลุกคลุกคลานช่วยสกัดบอลให้พ้นจากหน้าปากประตูจากเกมรุกที่ "กว่างโซ้ง" พยายามโหมบุกเข้าใส่ทุกรูปแบบ ตลอด 90 นาทีปราการหลังวัย 21 ขวบทำหน้าที่สมกับที่ได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีมที่อายุน้อยสุดในไทยลีก
กองหลัง : สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (พัทยา ยูไนเต็ด)
"เจ้าแฟลต" ช่วยเกมรับได้เยอะมากๆ ประกบจน มาเธอุส อัลเวส เข้าไปหาจังหวะทำประตูแบบถนัดแทบไม่ได้ และยังมีจังหวะเติมเกมรุกถึงกรอบเขตโทษชลบุรี ได้ในบางครั้งอีกด้วย ถือเป็นคีย์แมนสำคัญที่ปิดทองหลังพระจน "โลมาสีน้ำเงิน" เก็บ 3 แต้มในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองชลได้สำเร็จ
กองหลัง : อี วอน-แจ (นครราชสีมา มาสด้า)
เป็นกองหลังที่ "สวาดแคท" จะขาดไปไม่ได้เลย ณ ชั่วโมงนี้ ในเกมที่ยันเสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ ถือว่าปราการหลังเลือดกิมจิเก็บกินลูกกลางอากาศได้แบบอยู่หมัด คอยดักทางตัดบอลได้สวยๆ ได้ตลอด รวมถึงความคล่องตัวที่ไม่ยอมเสียท่าให้กับลูกพลิ้วของแนวรุก "แข้งเทพ" ที่พยายามเลี้ยงผ่านยังไงก็กินเขาไม่ลงจริงๆ
กองหลัง : ชณธวัฒน์ ศรีสุข (ราชนาวี)
"เจ้าเดี่ยว" ลงประจำการตำแหน่งแบ็คขวา บางเกมก็ต้องหุบเข้ามาในตามแท็กติกของกุนซือชาวเซิร์บ แต่ก็ถือว่าผลงานมีมาตรฐานจนได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเล่นเกมรับได้ดีแล้วยังมีการเติมเกมรุกที่กล้าลากกล้าเลื้อย แถมนัดนี้ยังมีจังหวะทีเด็ดยิงไกลสุดสวยระยะกว่า 30 หลา ให้ทีมออกนำก่อน 2-0 อีกด้วย
กองกลาง : ปกรณ์ เปรมภักดิ์ (การท่าเรือ)
เจ้าของสถิติแอสซิสต์สูงสุดในไทยลีก ณ ตอนนี้ด้วยจำนวน 10 ครั้ง เกมนี้เป็นหัวใจสำคัญในการขึ้นเกมรุกทางกราบของ "สิงห์เจ้าท่า" ที่บอลจะถูกส่งมาให้เขาเปิดเกมอยู่บ่อยครั้ง นัดนี้ยังปั่นฟรีคิกสุดสวยเสียบสามเหลี่ยมเป็นประตูตีไข่แตกก่อนที่ทีมจะตามตีเสมอแบ่งแต้มได้สำเร็จ
กองกลาง : อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (บางกอกกล๊าส)
ด้วยผลงานยิง 1 แอสซิสต์ 2 "เจ้านนท์" ถูก "โค้ชจุ่น" จับมาเป็นเพลย์เมกเกอร์บัญชาเกมรุกและสร้างสรรค์โอกาสได้เพื่อนได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นการตั้งคำถามไปถึง "โค้ชโย่ง" อีกครั้งว่าทำไมถึงไม่มีชื่อเขาในเอเชียนเกมส์
กองกลาง : อนนต์ สมากร (การท่าเรือ)
หลายคนสงสัยว่าเขาเป็นใครมาจากไหน อยู่ๆ ได้ลงสนามแล้วก็วิ่งเป็นม้า คอยบีบไล่พื้นที่จนแดนกลาง "ปราสาทสายฟ้า" ทำเกมไม่ถนัดโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลัง "เจ้าโบ๊ท" ได้รับโอกาสลงสนามแล้วก็ไม่ทำให้แฟนๆ "สิงห์เจ้าท่า" ต้องผิดหวัง หลังจากถูกยืมตัวมาจาก โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียม ถือเป็นอีกหนึ่งเด็กโครงการฟ็อกซ์ฮันท์และอดีตเด็กปั้นของ อัสสัมชัญ ธนบุรี ที่น่าภาคภูมิใจ
กองหน้า : โชนาตาน เฮส (พีที ประจวบ)
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในแนวรุกของ "ต่อพิฆาต" อย่างเต็มตัวด้วยการเหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมพลิกกลับมาชนะ ราชบุรี 2-1 ด้วยความสามารถเฉพาะตัวตามแบบฉบับแข้งแซมบ้า แถมยังเรียกใบแดงจาก ประวีณวัช บุญยงค์ ได้อีกด้วย 2 ประตูในเกมนี้ทำให้เขายิงไปแล้ว 20 ประตูในลีกรั้งอันดับ 2 ดาวซัลโว เป็นรองเพียง ดิโอโก้ เท่านั้น
กองหน้า : ดิเอโก้ หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
อาจจะเรียก ดิโอโก้ ว่าเป็นเดอะแบกของ "ปราสาทสายฟ้า" ก็คงไม่ผิดนัก เพราะยามที่ทีมต้องการประตู ก็จะเป็นเขาคนนี้เสมอที่นำชื่อขึ้นไปอยู่บนสกอร์บอร์ดแทบทุกที นัดนี้เหมาคนเดียว 2 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรก น่าเสียดายที่ทีมแผ่วปลายจนสุดท้ายถูก การท่าเรือ เจ้าถิ่นไล่ตามตีเสมอแบ่งแต้มกันไป
กองหน้า : แบร์กนาร์ ดุมเบีย (ชัยนาท ฮอร์นบิล )
หัวหอกชาวไอวอรี่โคสต์มีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการกลับสู่เกมของ "นกใหญ่พิฆาต" ในเกมนี้หลังถูกเจ้าถิ่น ราชนาวี นำไปก่อนถึง 2-0 ดุมเบียมาเรียกจุดโทษให้ ฟลอร็อง ซินาม่า ปงโกลล์ ยิงตีไข่แตก ก่อนที่ตัวเขาเองจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากเข้าไปในเขตโทษและปืดสกอร์อย่างเฉียบขาด แบ่งแต้มสำคัญจากทีม "ตะหานน้ำ" ได้สำเร็จ
เฮดโค้ช : จเด็จ มีลาภ (การท่าเรือ)
ในเกมที่ไม่มี เซร์คิโอ ซัวเรซ แล้วต้องมาดวลกับ บุรีรัมย์ หลายๆ คนปรามาสว่า "สิงห์เจ้าท่า" คงไม่รอดแน่ และแนวโน้มในเกมก็เกือบจะเป็นเช่นนั้นเมื่อถูก "ปราสาทสายฟ้า" บุกมานำก่อนถึง 2-0 ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม แต่กุนซือร่างท้วมก็ไม่ย่อท้อ แท็กติกที่ใช้ดาวรุ่งอย่าง อนนต์ สมากร ลงมาบดกับแดนกลางจ่าฝูงไทยลีกนั้นเวิร์คเกินคาด และแท็กติกที่ใช้การเพรสซิ่งเร็วก็ทำให้แดนกลางของ บุรีรัมย์ ต่อบอลกันลำบาก จนในที่สุดก็ไล่ตามตีเสมอได้ด้วยความเยือกเย็น คืนความสุขให้กับแฟนๆ ที่แพทสเตเดี้ยมได้สำเร็จ