การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 เกมที่ 29 เมื่อวันพุธที่ 12 กันยายน 2561 ที่ ช้างอารีนา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง รับการมาเยือนของ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี
เริ่มเกมครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อนบุกจากซ้ายไปขวา ส่วน สุโขทัย เอฟซี บุกจากขวามาซ้ายของสนาม
นาทีที่ 6 ปราสาทสายฟ้า เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ที่เกมนี้ลงสนามรับใช้ทีมในเกมลีก ครบ 100 นัด แทงบอลให้ สุภโชค สารชาติ หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะล็อกหลอกกองหลังแล้วยิงบอลแฉลบ ไพโรจน์ เอี่ยมมาก นายด่านทีมเยือนจองอยู่ล้มตัวรับบอลไว้ได้
GOAL!!! นาทีที่ 13 ทีมเยือนที่บุกน้อยกว่าก็มาได้จุดโทษหลังผู้ตัดสินเป่าแฮนด์บอล ยู จุนซู และเป็น เนลสัน โบนีญ่า รับหน้าที่สังหารไม่พลาด สุโขทัย เอฟซี บุกมาออกนำ 1-0
GOAL!!! นาทีที่ 19 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้เตะมุมทางขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดบอลต่ำเข้ามาในเขตโทษบอลพุ่งไปถึง ออสวัลโด ฟิลโญ วิ่งเข้าไปยิงตูมเดียวบอลพุ่งแหวกอากาศเสยคานเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ปราสาทสายฟ้า ตามตีเสมอ 1-1 ซึ่งประตูนี้เป็นการยิงประตูแรกของ ออสวัลโด ในเกมลีกด้วย
GOAL!!! นาทีที่ 30 กรกช วิริยอุดมศิริ ได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะยกไปที่เสาสอง ศุภชัย ใจเด็ด ล้มตัวพุ่งโหม่งบอลหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แซงขึ้นนำ 2-1
GOAL!!! นาทีที่ 45+3 ศุภชัย ใจเด็ด ตัดบอลได้บอลหน้าเขตโทษทีมเยือน ก่อนจะล็อกหลอกผู้เล่นสุโขทัย เอฟซี แล้วตัดสินใจซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเป็นจรวดหายเข้าประตูไป
จากนั้นเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่า พยายามโหมบุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ก็ยังคงไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ สุโขทัย เอฟซี อยู่ที่สกอร์ 3-1
กลับมาสู้กันครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 51 ปราสาทสายฟ้า ได้บุกเข้าใส่ ออสวัลโด ใช้ความเร็ววิ่งสปีดขึ้นหน้าไปเก็บบอลได้ทางฝั่งซ้ายก่อนจะลากเข้าเขตโทษแล้วบรรจงจ่ายให้ ดิโอโก ที่วิ่งมาพยายามยิง แต่โดนผู้เล่นทีมเยือนเบียดเอาไว้ทำให้ยิงไม่ถนัดบอลไปติดขา กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ รับไว้ได้
นาทีที่ 60 ดิโอโก แทงบอลเข้าเขตโทษให้ ออสวัลโด ได้ยิงบอลเร็ว ทว่า กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ อ่านเกมอยู่ออกมาบล็อกบอลออกหลังไปได้ทัน
นาทีที่ 75 ปราสาทสายฟ้า ที่ครองเกมดีกว่าเกือบได้ประตูเพิ่ม ฮาเวียร์ ปาติญโญ พักอกดึงบอลลงก่อนจะกระชากบอลเข้าเขตโทษแล้วยิงผ่านมือ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ไปได้แล้ว ทว่าบอลไปชนโคนเสาอย่างจัง
GOAL!!! นาทีที่ 76 สกอร์บอร์ดในสนามก็เปลี่ยอีกครั้ง ดิโอโก เปิดบอลจากฝั่งขวามาให้ จักรพันธ์ แก้วพรม ได้ยิงไปติดเซฟนายด่านทีมเยือน ทว่าบอลมาเข้าทาง ฮาเวียร์ ปาติญโญ ล้มตัวยิงบอลเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่าง 4-1
นาทีที่ 90 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุมทางซ้าย กรกช เปิดเข้าไปกลางประตู อันเดรส ตูเญซ โขกหายเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้ประตู เพราะมีการทำฟาวล์กันก่อนแล้ว
จากนั้นก็ยังคงเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่โหมบุกใส่ในช่วงทดเวลา แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ สุโขทัย เอฟซี ไปได้ 4-1 คว้า 3 คะแนนไปครอง ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ขยับไปมี 72 คะแนน จากการลงเล่น 29 นัด รั้งจ่าฝูงต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ยู จุนซู, อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์ (อภิวัฒน์ งั่วลำหิน น.84), กรกช วิริยอุดมศิริ, สุเชาว์ นุชนุ่ม (C), รัตนากร ใหม่คามิ, ศุภชัย ใจเด็ด (จักรพันธ์ แก้วพรม น.56), สุภโชค สารชาติ, ออสวัลโด ฟิลโญ (ฮาเวียร์ ปาติญโญ น.72), ดิโอโก หลุยส์ ซานโต
สุโขทัย เอฟซี : ไพโรจน์ เอี่ยมมาก (กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ น.29) (ผู้รักษาประตู), ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, นวพล ตันตระเสนีย์, ภีมวิชช์ ทองนิธิโรจน์ (กิตติพงษ์ วงมา น.68), ก้องนธีชัย บุญมา, เลอสันต์ เทียมราช (อนุชิต ชูชี น.79), สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ, เคอร์ราน ซิงส์ เฟิร์น, จอร์น บาจโจ้ (C), เนลสัน โบนีญ่า
