อดีตกุนซือเยาวชนทีมชาติไทยผู้เคยพาทีมไปยู-17 ชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ปี 1999 ชี้การเลือกใช้โค้ชมาคุมทีมชาติควรใช้ผู้มีประสบการณ์ จะเทพแต่ทางทฤษฎีไม่ได้ เสมือนมนุษย์ที่ต้องมีทั้งแขนซ้ายและแขนขวาถึงจะทำผลงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
"น้าติ๊ก" สมชาติ ยิ้มศิริ อดีตโค้ชทีมชาติไทยชุด ยู-16 แชมป์เอเชีย ปี 1998 และพาทีมไป ยู-17 ชิงแชมป์โลกที่ นิวซีแลนด์ ในปี 1999 แสดงความเห็นผ่าน THSPORT หลังการตกรอบของทีม "ช้างศึกจูเนียร์" ในศึกเอเอฟซี ยู-16 แชมเปี้ยนชิพ 2018
โดยเปิดเผยว่าได้ติดตามชมเกมของทีมไทยทุกนัด และมองเห็นว่าแท็กติกการเล่นของ "โค้ชดาร์ท" ธงชัย รุ่งเรืองเลิศ ยังขาดความหลากหลายและยืดหยุ่นในเกม เพราะฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ไม่จำเป็นต้องเล่นเกมรุกตลอดเวลา บางสถานการณ์ควรเปลี่ยนแท็กติกเพื่อรักษาสกอร์บ้าง
อย่างไรก็ตาม "น้าติ๊ก" เชื่อว่า "โค้ชดาร์ท" ยังเป็นกุนซือที่มีอนาคตอีกยาวไกลเพราะอายุเพิ่ง 32 ปีเท่านั้น และเป็นคนดีมีความพยายามตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเตะ แต่สำหรับทีมชาติไทยในทุกๆ ชุด หนุ่มใหญ่วัย 72 ปีชี้ว่าควรต้องใช้โค้ชที่มีประสบการณ์ในเกมระดับชาติเพราะในสนามแข่งขันจริงนั้นมีสถานการณ์ีที่ต้องแก้หลากหลายเกินกว่าในห้องเรียนมากนัก
"ก็เหมือนคนเราแหละครับ ถามว่ามีแค่แขนซ้ายอยู่ได้มั้ย ก็อาจอยู่ได้ แต่ถ้ามีแขนขวาด้วยก็คงทำอะไรได้สมบูรณ์กว่า การที่โค้ชมีความรู้ระดับโปรไลเซนมันก็เป็นเรื่องดี แต่ประสบการณ์ก็สำคัญมาก ในสถานการณ์จริงมันไม่เหมือนข้อสอบหรือในกระดานหรอกนะ อย่างเกมแรกที่เรานำญี่ปุ่น ผมก็ยังเห็นเราดันกองหลังสูงเล่นเกมรุกใส่เขาอยู่เลย พอตีเสมอได้แล้วก็ยังเล่นแบบเดิม เกมเจอมาเลเซียเราก็ดันหลังสูงแล้วไม่มีกลางรับดีนะที่ตัวเยอะกว่าเลยรอดมาได้"
"ดาร์ทเป็นเด็กดีมีความขยันหมั่นเพียรนะ ผมเห็นเขาตั้งแต่เป็นนักบอลมาคัดตัวแล้ว เขาเป็นรุ่นหลานผมในวัดสุทธิ ผมก็หวังว่าสมาคมจะไม่ทอดทิ้งเขานะ เสียดายถ้าเขาได้ผู้ช่วยที่มีประสบการณ์ก็อาจจะทำได้ดีกว่านี้" น้าติ๊กกล่าว
