TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 32
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 32
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : วัชระ บัวทอง (การท่าเรือ เอฟซี)
ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในไทยลีกครั้งแรกในฤดูกาลนี้ และมือกาวสายฮิพฮอพก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป โดยสามารถพิสูจน์คุณค่าได้ด้วยการโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันประตูเอาไว้ได้หมด แม้สกอร์ 5-0 จะดูเหมือนเป็นชัยชนะที่ง่ายดาย แต่หากไม่ได้ "เจ้าวัชร" เซพช่วยทีมเอาไว้หลายครั้ง ผลการแข่งขันอาจจะไม่ออกมาขาดลอยแบบนี้
กองหลัง : เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
เติมเกมรุกริมเส้นฝั่งซ้ายได้มันส์ดีเหลือเกินสำหรับวิงแบ็กลูกครึ่งไทย-สวีดิช นัดนี้โชว์ซ้ายผ่านตลอด ทั้งจังหวะกระชากลากเลื้อยและครอสบอลให้เพื่อนได้ลุ้นอยู่เนืองๆ ก่อนที่จะยิงไป 1 ประตูและจ่ายอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ "สิงห์เจ้าท่า" คว้าชัยอย่างงดงาม
กองหลัง : สุพรรณ ทองสงค์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)
โชว์ฟอร์มโดดเด่นอีกครั้งในรอบสัปดาห์ ด้วยการประสานงานกับ อันแดร์สัน ดอส ซานโต๊ส และมีผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้อย่าง สินทวีชัย คอยเป็นด่านสุดท้าย "เจ้าเชน" ช่วยงานเกมรับของ สุพรรณบุรี ได้อย่างรัดกุมและคงเส้นคงวาตลอดทั้งเกม จนสามารถพาทีมเก็บคลีนชีทได้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน
กองหลัง : ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ยึดตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริงไปยาวๆ และอาจเป็นประตูสู่ตำแหน่งถาวรในทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกด้วย จากสไตล์การเล่นดุดันกล้าได้กล้าเสีย แถมยังซัดประตูไดรฟ์ชู้ตสุดสวยด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด ส่งให้ "ปราสาทสายฟ้า" ถล่มชนะ พัทยา 3-0 เป็นการฉลองแชมป์ในบ้านต่อหน้าแฟนบอลอย่างชื่นมื่น
กองหลัง : เอกชัย สำเร (ทรู แบงค็อกฯ)
โชว์ฟอร์มเทพสมชื่อ (เอกชัยมีชื่อเล่นว่าเทพ) ในเกมที่ช่วยให้ทีม "แข้งเทพ" เปิดรังเหย้านัดสุดท้าย ไล่ถล่ม แอร์ฟอร์ซ ขาดลอยถึง 6-2 ด้วยผลงานยิง 1 แอสซิสต์ 2 พาตัวเองไปอยู่ในเกมรุกตลอดเวลาจากการขึ้นเกมทางฝั่งขวาได้อย่างโดดเด่น
กองกลาง : เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี)
"เจ้าก้อง" เดินเกมรุกทางกราบซ้ายได้ดีอย่างไม่มีที่ติ และเหมาคนเดียว 2 ประตูเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันในรอบสัปดาห์ ช่วยพา "ฉลามชล" เก็บ 3 แต้มสำคัญการันตีการอยู่รอดบนลีกสูงสุดด้วยถล่มชนะ นครราชสีมา ไป 3-1
กองกลาง : ศิวกร จักขุปราสาท (การท่าเรือ เอฟซี)
โดดเด่นเหนือใครในแดนกลางอีกครั้งสำหรับ "เจ้ากิ้ง" เกมนี้เป็นหัวใจในการเชื่อมเกมทั้งรุกและรับ และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนทำประตู 1 ลูก รวมถึงยิงได้เองอีกหนึ่งเม็ด ก่อนพา "สิงห์เจ้าท่า" บุกถล่ม ราชนาวี ขาดลอยถึง 5-0
กองกลาง : ประสิทธิ์ จันทุม (สุพรรณบุรี เอฟซี)
"เจ้าโก้" ได้รับบทเป็นตัวคุมจังหวะและตัดเกมในแดนกลางและก็ถือว่าเป็นเกมที่เขาเล่นได้น่าประทับใจมาก รวมถึงโชว์ทีเด็ดในการจ่ายทะลุช่องให้ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ยิงประตูเบิกร่องในเกมนี้ได้อีกด้วย
กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (เอสซีจี เมืองทองฯ)
ทำทุกอย่างจริงๆ สำหรับ เฮแบร์ตี้ ทั้งแอสซิสต์ให้ ชาช่า ยิงลูกแรก รวมถึงทำประตูด้วยลูกสับไกสุดสวยเป็นประตูที่ 100 ในไทยลีกของเจ้าตัว และประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จุดเริ่มต้นก็มาจากความขยันของหัวหอกเลือดแซมบ้าที่สไลด์สุดตัวก่อนลูกจะออกข้างเพื่อไม่ให้บอลตายและกลายเป็นจังหวะบุกที่ทำให้ เมืองทอง เบียดชนะพร้อมกับยังอยู่ในเส้นทางไล่ล่าอันดับ 3 ไทยลีกต่อไป
กองหน้า : บิลล์ โรซิมาร์ (สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด)
ศูนย์หน้าร่างยักษ์ลงเป็นยิงอย่างต่อเนื่อง นัดนี้เหมาคนเดียวอีก 2 ประตูช่วยให้ "กว่างโซ้ง" เปิดบ้านชนะ อุบล ยูเอ็มที รักษาความต่อเนื่องในการลุ้นพื้นที่อันดับ 3 ไทยลีก ถือเป็นอีกหนึ่งดีลการเสริมทัพที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงเลกสองเลยทีเดียว
กองหน้า : คัง ซู-อิล (ราชบุรี มิตรผล)
แข้งเลือดกิมจิคือฮีโร่ตัวจริงในเกมนี้ของ "ราชันมังกร" เพราะทั้งยิงจุดโทษให้ทีมตามตีเสมอ 1-1 แถมยังจ่ายถวายพานให้ เนริยุส วัลสกี้ส์ หัวหอกลัตเวียซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้สถานการณ์รอดตกชั้นสดใสขึ้นมาทันทีเพราะทำคะแนนหนีโซนตกชั้นห่างเป็น 4 แต้มแล้วขณะที่เหลือเกมอีกเพียง 2 นัดเท่านั้น
เฮดโค้ช : ราโดเมียร์ ชูร์ชิซ (เอสซีจี เมืองทองฯ)
อาจถือเป็นเครื่องหมายการค้าไปแล้ว ในสไตล์การแก้เกมของโค้ชชาวเซอร์เบียคนนี้ ที่ทำให้แฟนบอล "กิเลนผยอง" ไม่กล้าปลีกตัวออกจากสนามก่อนเกมจะจบ เพราะช่วงทดเวลาบาดเจ็บหลายๆ เกมที่ผ่านมาคือ "ชูร์ชิซไทม์" ตัวสำรองที่ส่งลงไปแก้เกมมักจะกลายเป็นฮีโร่ให้ทีมได้อยู่เสมอ เกมนี้ก็เช่นกัน จากการเปลี่ยน ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ปรเมศย์ อาจวิไล ลงไปในครึ่งหลัง แล้วทั้ง 3 ก็มีส่วนร่วมกับเกมทันที ก่อนที่ อดิศักดิ์ จะเป็นจนแอสซิสต์ให้ ศนุกรานต์ ซัดเต็มข้อจากบริเวณหัวกระโหลกตุงตาข่ายเป็นประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย