TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 34
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 34
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : แซมมวล ป.คันนิงแฮม (นครราชสีมา มาสด้า)
ทั้งที่โคราชปลอดภัยไปแล้ว และทั้งทีุ่ถูกแนวรุกบีจีประดังการโจมตีใส่หลายรูปแบบ แต่นายทวารลูกครึ่งไทย-อเมริกันก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพด้วยการพุ่งเซฟเอาไว้ตลอดและเสียไปเพียง 1 ประตูแบบหมดสิทธิ์ป้องกัน ช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มส่งท้ายพร้อมกับส่ง "กระต่ายแก้ว" ตกชั้นเป็นครั้งแรก
กองหลัง : เอกนัฏฐ์ คงเกตุ(นครราชสีมา มาสด้า)
โชว์ฟอร์ม "เก่ง" สมชื่อในการช่วยเกมรับสำหรับดาวเตะสารพัดประโยชน์รายนี้ที่โดดเด่นเป็นพิเศษในเกมนัดตัดสิน แถมยังเติมเกมรุกขึ้นไปยิงประตูได้เสมอก่อนที่ทีมจะพลิกแซงชนะได้สำเร็จ
กองหลัง : มานูเอล ทอม เบียห์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
เป็นปีที่ปราการหลังลูกครึ่งไทย-เยอรมันสร้างชื่ออย่างเต็มตัวด้วยผลงานที่สม่ำเสมอตลอดทั้งซีซั่น ในเกมสุดท้ายก็ยังไว้ลายด้วยการประกบติดคู่กองหน้าของเมืองทองจนแทบกระดิกไม่ออก ก่อนบุกไปแชร์แต้มแบบไม่เสียคลีนชีตได้อีกนัด
กองหลัง : บรินเนอร์ เฮนริเก้ (อุบล ยูเอ็มที)
แม้นี่จะเป็นนัดสุดท้ายของปราการเลือดแซมบ้ากับทีม "เทพอินทรี" ก่อนไปเปิดตัวกับ เชียงราย ต้นสังกัดใหม่ แต่ก็ยังรับใช้ทีมอย่างเต็มที่ด้วยการสั่งการแนะรับและเก็บกินลูกโด่งได้หมดจน ราชนาวี แทบไม่มีโอกาสปิดสกอร์ ก่อนช่วยให้ทีมถล่มชนะขาดลอย 3-0
กองหลัง : อภิวัฒน์ งั่วลำหิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ลงเล่นตัวจริงเป็นเกมแรกในลีกให้กับ "ปราสาทสายฟ้า" ลงเผชิญหน้ากับ ราชบุรี ต้นสังกัดเก่า ในแผงไลน์อัพที่มีเขาเป็นเซนเตอร์อาชีพเพียงคนเดียว จึงต้องรับบทผู้นำในแนวรับแทนที่ อันเดรส ตูเนซ ที่ไม่ได้ลงสนาม ซึ่งถือว่า "เจ้าโอ๊ต" ทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง และฤดูกาลหน้าคงจะมีโอกาสลุ้นแย่งตำแหน่งตัวจริงได้มากขึ้น
กองกลาง : มงคล ทศไกร (โปลิศ เทโร)
ปั่นป่วนด้วยการเคลื่อนที่แบบไม่มีหมดทางกราบขวาตลอดทั้งเกม ด้วยสไตล์ชนดะพร้อมเข้าปะทะแบบไม่มีลังเล บางจังหวะก็ลงมาช่วยเกมรับแถวกรอบเขตโทษอีกด้วย นัดนี้ทำไปหนึ่งประตูจากการโหม่งลูกเตะมุมเสียบเสาสองอย่างสวยงาม และน่าจะยิงได้มากกว่านี้ด้วยหากไม่ติดเซฟของนายด่านของพีที ประจวบ
กองกลาง : ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
"เจ้าอาร์ม" ถูกขยับถอยลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมเกมในช่วงครึ่งแรก ซึ่งก็ช่วยคุมจังหวะให้ทีมทั้งเก็บบอลและผ่านลูกให้เพื่อนได้อย่างโดดเด่น พอครึ่งหลังถูกขยับขึ้นไปยืนแดนหน้าก็ยังเนียนตาเหมือนเดิม ช่วยพาทีมคว้าแต้มสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 87 คะแนน และมีลุ้นรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้อีกตำแหน่งด้วย
กองกลาง : ศักดรินทร์ มิ่งสมร (สุโขทัย เอฟซี)
ดาวเตะสารพัดประโยชน์ของ "ค้างคาวไฟ" โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมากๆ ในการเติมเกมรุกทางริมเส้น เป็นคีย์แมนสำคัญที่ทั้งยิงเอง 1 ประตูในจังหวะขึ้นนำ 2-1 ด้วยลูกยิงสุดสวย และมีบทบาททั้งเกมรุกและรับตลอดทั้งเกมที่สุดแสนระทึกใจสำหรับแฟนบอลเจ้าถิ่น
กองหน้า : อองรี แบร์กนาร์ ดุมเบีย (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
ในเกมที่ตึงเครียดสุดๆ เพราะสถานการณ์ก่อนเกม "นกใหญ่" มีความเสี่ยงในการตกชั้นสูงมาก แต่ศูนย์หน้าชาวไอวอรี่โคสต์ ก็ประสานงานกับคู่หูร่วมชาติอย่าง ดียุฟ บีรัม ได้อย่างไม่มีอาการเกร็ง และรับเหมายิงจุดโทษด้วยความเยือกเย็นทั้งสองลูกช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มที่ล้ำค่าที่สุดในฤดูกาลพร้อมกับหนีตกชั้นได้สำเร็จ
กองหน้า : อภิวัฒน์ เพ็งประโคน (อุบล ยูเอ็มที)
"เจ้าแมน" พิสูจน์ความสามารถของตัวเองหลังมีชื่อติด 50 แข้งทีมชาติไทยชุดซูซูกิ คัพ ด้วยการยิงคนเดียว 2 ประตูและน่าจะทำได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำหากไม่ถูกกองหลังและผู้รักษาประตูของ ราชนาวี ช่วยกันสกัดกั้นเอาไว้ ฟอร์มแบบนี้น่าจะทำให้เข้าใจได้มากขึ้นว่า มิโลวาน ราเยวัช เห็นอะไรในตัวศูนย์หน้าวัย 30 ปีรายนี้
กองหน้า : ดราแกน บอสโควิช (การท่าเรือ)
เพิ่งจะฉลองการทำประตูครบ 100 ลูกไปเมื่อนัดก่อน และแม้ถูกแฟนบอลติงว่าฟอร์มยังไม่เด่นเท่าซีซั่นที่แล้ว แต่ "โบเล่" มาคืนฟอร์มโหดแบบเหมาคนเดียว 4 ประตูช่วยพาทีม "สิงห์เจ้าท่า" บุกถล่ม พัทยา ขาดลอย 4-1 คว้าอันดับ 3 ไปครองพร้อมกับขยับสถิติรวมเป็น 20 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโวอันดับ 5 ของไทยลีก 2018
เฮดโค้ช : เฉลิมวุฒิ สง่าพล (สุโขทัย เอฟซี)
"โค้ชหนุ่ย" ใช้ปรัชญาการทำทีมที่แฟนบอลน่าจะชอบเพราะเน้นบอลเอ็นเตอร์เทนชนิด ที่ว่าจบเกมถ้าไม่ชนะก็แพ้ไปเลยผลเสมอไม่เคยต้องการ นัดนี้ทำเอาหัวใจแฟนๆ แทบหล่นไปอยู่หัวตาตุ่มเพราะถูก แอร์ฟอร์ซ ตามตีเสมอได้ถึงสองครั้งสองครา แต่ "ค้างคาวไฟ" ของ "โค้ชหนุ่ย" ก็ยังไม่ย่อท้อจนกระทั่งขึ้นนำเป็นครั้งที่ 3 โดย มาร์ติน เอ็นจีว่า และเป็นประตูชัยพร้อมกับส่งให้ทีมอยู่รอดในลีกสูงสุดได้สำเร็จ