นพพลเผย"ช้างศึกU19"โฟกัสทีละเกมชิงแชมป์อช.
"ช้างศึกU19" ลงฝึกซ้อมเบาๆ หลังเดินทางถึงประเทศอินโดนีเซีย ก่อนลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี นัดแรก พบ อิรัก วันที่ 19 ตุลาคมนี้ โดย "โจนัส" นพพล ละครพล ผู้รักษาประตูของทีมเผยว่า ขอมองแบบเกมต่อเกม และขอสู้สุดพลัง
วันที่ 16 ตุลาคม เวลา 16.00 น. ที่สนาม Cibinong Kabupaten Bogor ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ลงฝึกซ้อมเบาๆ หลังเดินทางถึงประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเตรียมลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
โดย “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมให้ลูกทีมลงยืดเส้นยืดสายและเล่นลิงชิงบอล เพื่อให้นักเตะได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ใช้เวลาทั้งสิ้น 30 นาที
ภายหลังจากการฝึกซ้อม “โจนัส” นพพล ละครพล ผู้รักษาประตูของทีมได้กล่าวถึงความพร้อมก่อนการแข่งขันว่า “ตอนนี้ความพร้อมส่วนตัวเต็มร้อยแล้วครับหลังจากฝึกซ้อมมาอย่างหนัก ส่วนทีมเราฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่องคิดว่าตอนนี้ทุกคนพร้อมลงสนามแล้วครับ”
“การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียครั้งแรกผมรู้สึกเป็นเกียรติ ดีใจ และตื่นเต้นนิดหน่อยครับ เพราะจะได้เจอนักเตะระดับทวีปเอเชีย ได้เรียนรู้จากนักเตะเก่งๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในการก้าวไปต่อในอนาคตครับ”
“ถามว่ากดดันไหมก็มีนิดหน่อย แต่ก็พร้อมสู้ไม่ยอมแพ้แน่นอนครับ เรามีวิธีรับมือกับความกดดันเหล่านี้อยู่แล้ว ทุกคนพร้อมสู้ไปด้วยกันครับ”
“เราตั้งเป้าเก็บคะแนนแบบเกมต่อเกมมากกว่าครับ ส่วนทีมที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็นญี่ปุ่น เพราะเขาเล่นเป็นระบบดี แต่เราประมาททุกทีมไม่ได้เช่นเดียวกันครับ”
“การได้พี่และห์ (กฤษดา กาแมน) มาช่วยทีมในการแข่งขันครั้งนี้ผมเชื่อว่าจะทำให้เกมรับของเราดีขึ้นแน่นอน เพราะพี่เขามีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับนานาชาติมากมาย และลงเล่นในระดับไทยลีกกับ ชลบุรี เอฟซี มาตลอดฤดูกาลนี้ครับ” ผู้รักษาประตูจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวปิดท้าย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ทีม "ช้างศึก U19" อยู่สาย บี ร่วมกับ ทีมชาติญี่ปุ่น, อิรัก และเกาหลีเหนือ
ขณะที่โปรแกรมการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มมีดังนี้
วันที่ 19 ตุลาคม ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอิรัก ที่สนามปากันสารี เวลา 16.00 น.
วันที่ 22 ตุลาคม ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ที่สนามปากันสารี เวลา 19.00 น.
วันที่ 25 ตุลาคม ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเกาหลีเหนือ ที่สนามปาทริออท ชานดราบากา เวลา เวลา 16.00 น.
โดยทัวร์นาเมนต์นี้จะนำเอา 4 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นตัวแทนทวีปเอเชียเข้าไปแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ที่ประเทศโปแลนด์ ในปี 2562 ต่อไป