มิก้า ชูนวลศรี กองหลังทีมชาติไทย เปิดเผยว่ารู้สึกภูมิใจเสมอ เมื่อมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทัพช้างศึก หลังมีลุ้นช่วยทีมทำการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน 2018 ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม 2561
แนวรับลูกครึ่งไทย-เวลส์ วัย 29 ปี เพิ่งได้รับโอกาสเป็นตัวจริง ในเกมกระชับมิตรนัดล่าสุด ที่เปิดบ้านชนะ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก 1-0 ก่อนถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกเข้ามาอยู่ในทีมต่อเนื่อง ทำให้มีลุ้นลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน ครั้งแรกในชีวิต
“ผมรอโอกาสนี้มานานมากๆ ต้องขอบคุณโค้ช (มิโลวาน ราเยวัช) ที่ให้โอกาสเป็นตัวจริงในเกมล่าสุด ที่ผ่านมา ผมอยู่ในแคมป์ทีมชาติมา 4-5 ปี ไม่ว่าผมจะได้เล่น หรือไม่ได้เล่น ผมไม่เคยปฏิเสธทีมชาติเลยสักครั้ง ก็ดีใจครับ ที่อย่างน้อยในวันนี้ โค้ชมองเห็นถึงการทำงานหนักของผม ซึ่งผมก็พยายามคว้าโอกาสนั้นไว้ และพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ” กองหลังจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวเริ่ม
“จากเกมนั้น ส่วนตัวผมพอใจฟอร์มตัวเองในระดับหนึ่งครับ หลังจบเกมโค้ชก็บอกว่า ผมทำหน้าที่ได้โอเค เริ่มเข้าใจในสิ่งที่โค้ชต้องการมากขึ้น แน่นอนว่า คำพูดของโค้ชสร้างพลังใจให้กับผมมากๆ แต่ผมไม่ได้มองย้อนกลับไปแล้ว มันเป็นแค่เกมๆหนึ่ง ดังนั้นผมต้องพัฒนาต่อไปครับ”
“ผมทำงานหนักมาตลอดครับ ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติหรือสโมสร ถ้าใครรู้จักผม จะรู้ว่าผมจริงจังมากๆ กับการฝึกซ้อม ผมอยู่กับ มาโน มา 4 ปี ผมมีโอกาสลงสนามเกือบทุกนัด ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง มันเกิดจากการทำงานหนัก ก็ดีใจครับ ที่วันนี้ มันส่งผลมาถึงโค้ชทีมชาติ และแน่นอนว่า ผมภูมิใจเสมอ เมื่อมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมครับ”
นอกจากนี้ มิก้า ยังกล่าวต่อว่า “ผมเคยเล่น คิงส์คัพ มาแล้ว 3 ครั้ง แต่กับ ซูซูกิคัพ นี่จะเป็นครั้งแรกของผม เพราะฉะนั้น ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากครับ ผมไม่รู้หรอกว่า จะมีโอกาสลงเล่นหรือไม่ แต่ผมเต็มที่เสมอครับ ผมคิดว่า ทุกคนที่จะติดไป 23 คน คือคนที่พร้อมสนับสนุนซึ่งกันและกัน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ”
“เป็นธรรมดาครับ ที่หลายคนมองว่า เราเป็นเต็งแชมป์ แต่จริงๆ ผมคิดว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อย่างอินโดนีเซียปีนี้ ก็มีผู้เล่นเลือดใหม่ขึ้นมาเยอะ หรือฟิลิปปินส์ ที่มีผู้เล่นลูกครึ่งเยอะเหมือนกัน ดังนั้น เราต้องทำงานให้หนักที่สุด ทุกทีมมีโอกาสเเป็นแชมป์เท่ากันหมดครับ ส่วนการขาด 4 ผู้เล่น (ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์) ก็อาจมีผลกับเราบ้าง แต่ผมอยากให้มองว่า เป็นเรื่องท้าทาย ที่เราต้องพิสูจน์ให้แฟนบอลเห็นมากกว่า”
“สุดท้ายผมอยากขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนผมมาตลอด ผมพูดเสมอว่า ผมภูมิใจทุกครั้ง ที่มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติ ดังนั้น ผมจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ แม้การป้องกันแชมป์ครั้งนี้ จะยากกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเราทำงานหนัก และไม่ประมาท เราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จครับ เหนือสิ่งอื่นใด เราก็ต้องการกำลังใจจากผู้เล่นคนที่ 12 ทุกๆ คนด้วย” ดาวเตะที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ ปิดท้าย
หลังจากนี้ มิโลวาน ราเยวัช จะปล่อยผู้เล่นพักผ่อน ก่อนจะเรียกกลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า วันที่ 29 ตุลาคมนี้ เพื่อเตรียมทำการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน 2018 ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2561
โปรแกรมการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ติมอร์ เลสเต พบ ไทย เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 18.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ฟิลิปปินส์ พบ ไทย เวลา 18.30 น. ณ สนามปานาอัด สเตเดียม
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ สิงคโปร์ เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน