ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย รู้สึกดีใจ ที่มีส่วนร่วมลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 เป็นครั้งแรก พร้อมยืนยันว่า ตนเองเข้ามาเพื่อสนับสนุนทีม มากกว่าที่ต้องคิดถึงเรื่องการแย่งชิงตำแหน่งมือหนึ่ง
โดยช้างศึกไม่มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อยู่ในทีมชุดนี้ ทำให้หลายคน กำลังจับจ้องไปที่การแย่งชิงตำแหน่งมือหนึ่ง โดยเฉพาะ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ฉัตรชัย บุตรพรม จาก บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งคู่
“บรรยากาศในทีมตอนนี้ยอดเยี่ยมมากครับ ทุกคนตั้งใจซ้อมกันอย่างหนัก ทั้งเช้าและเย็น ที่สำคัญ ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือการป้องกันแชมป์ไว้ให้ได้” ศิวรักษ์ กล่าวเริ่ม
“ยอมรับว่าที่ผ่านมา ผมอยากมีโอกาสสัมผัสรายการนี้หลายครั้งแล้วครับ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง หรือ การที่ผมยังไม่ดีพอ ก็ทำให้ผมยังไม่มีโอกาสเสียที พอวันนี้มีโอกาส ก็รู้สึกเป็นเกียรติ และดีใจมากๆ ครับ ที่จะมีส่วนร่วมกับทีมเป็นครั้งแรก”
“ส่วนตัวผมมองว่า นี่เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียนครับ อีกอย่างมันเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีมากๆ และไม่มีใครยอมใคร ดังนั้น การที่เราเป็นเต็งหนึ่ง หรือแชมป์เก่า ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะประสบความสำเร็จเสมอไป สิ่งสำคัญที่สุด ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการทำงานหนักมากกว่า และห้ามประมาท เพราะฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้”
ศิวรักษ์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์แบบนี้มันยากอยู่แล้วครับ อย่างแรก เราต้องมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งก่อน การเล่นเป็นทีมเยือน เป็นอะไรที่ยากที่สุด มันเต็มไปด้วยความกดดัน และเสียงเชียร์รอบด้าน เวลาเราลงไปในสนาม เราอาจสื่อสารกันไม่ได้ยิน ดังนั้น ทุกๆ ครั้งเราต้องมีสมาธิให้มากที่สุด และเปลี่ยนความกดดันตรงนั้น มาเป็นเรื่องกระตุ้นให้ได้ แน่นอน ผมหวังว่าจะนำประสบการณ์ จากการเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก หลายครั้ง มาช่วยให้ได้มากที่สุด”
“ในระดับสโมสร ผมอาจประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมเชื่อว่านักฟุตบอลทุกคน ก็อยากประสบความสำเร็จกับทีมชาติบ้าง เช่นเดียวกับผม ผมจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ เพื่อคว้าแชมป์อาเซียน มาเติมเต็มเกียรติประวัติของชีวิตให้ได้”
“สุดท้าย ผมเข้าใจครับว่า ทุกคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่ (ตำแหน่งมือหนึ่ง) แต่สำหรับผม ผมอยากบอกว่า ผมมาที่นี่เพื่อสนับสนุนทีมในทุกๆ ทางเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้น ผมไม่ได้เข้ามาแข่งกับใครครับ ที่สำคัญ ผมเชื่อว่าทุกๆคน มีศักยภาพ ที่จะเป็นมือหนึ่งให้ทีมได้หมด สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับโค้ชครับว่า จะใช้เลือกงานใคร แต่ถ้าผมมีโอกาส ก็พร้อมเต็มที่อยู่แล้วครับ” ศิวรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ มีโปรแกรมอุ่นเครื่องแบบปิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชม 1 นัดกับ ชลบุรี เอฟซี วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 จากนั้น มิโลวาน ราเยวัช จะทำการตัดผู้เล่นให้เหลือ 23 ราย ก่อนเข้าทัวร์นาเมนต์ ชิงแชมป์อาเซียน 2018 โดย ทีมชาติไทย ในฐานะแชมป์เก่า อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ติมอร์ เลสเต
โปรแกรมการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ติมอร์ เลสเต พบ ไทย เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 18.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ฟิลิปปินส์ พบ ไทย เวลา 18.30 น. ณ สนามปานาอัด สเตเดียม
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ไทย พบ สิงคโปร์ เวลา 19.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
