สรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางคนสำคัญทีมชาติไทย เปิดใจหลังทำ ‘แฮตทริคแอสซิสต์’ ช่วยทีมชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0 ประเดิมคว้า 3 คะแนนแรก ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
กองกลางวัย 29 ปี ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ก่อนมีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทีม นอกจากทำไป 3 แอสซิสต์แล้ว ยังมีส่วนร่วมอีก 2 ประตู จากทั้งหมด 7 ประตูที่ ช้างศึก ทำได้
“ถือว่าตามเป้าครับ ที่เราได้ 3 แต้ม ก็อยากดีใจกับ กอล์ฟ (อดิศักดิ์ ไกรษร) ด้วยที่ยิงได้ถึง 6 ประตู และน่าจะทำให้มั่นใจมากขึ้น ในเกมต่อๆไป” สรรวัชญ์ กล่าวเริ่ม
“ผมรับรู้เสียงวิจารณ์จากแฟนบอลอยู่ตลอดครับ อย่างก่อนเกมเมื่อวานนี้ แม่ผมก็ไลน์มาบอกว่า ไม่ต้องไปฟังเสียงข้างนอกมาก ให้มีสมาธิกับเกมมากที่สุด ซึ่งส่วนตัวผมก็ไม่ได้คิดมากอะไรอยู่แล้ว ผมแคร์เพื่อนร่วมทีม , สตาฟฟ์โค้ช และคนรอบข้างผมมากกว่า อีกอย่าง ในเมื่อโค้ช (มิโลวาน ราเยวัช) ไว้ใจ ผมก็แค่ลงไปเล่น และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรผมไม่รู้ ผมรู้แค่ว่า ผมเต็มที่แน่นอน”
กองกลางจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังกล่าวต่อว่า “3 แอสซิสต์ที่ทำได้ ก็ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นครับ แต่ผมก็ไม่ได้หวังให้เสียงวิจารณ์ในตัวผมลดน้อยลง อย่างที่ผมบอก ผมแค่ลงไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ลงไปตอบแทน ความไว้ใจจากโค้ช หรือถ้าผมต้องไปแคร์เสียงจากข้างนอก ผมคงไม่มีสมาธิที่จะเล่น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือเรื่องในสนาม และถ้าวันไหน ผมเล่นได้ไม่ดี ผมก็น้อมรับไว้ทั้งหมดอยู่แล้ว”
“ขณะเดียวกัน นัดนี้ เรายิงได้เยอะก็จริง แต่ผมว่า สิ่งที่โค้ชภูมิใจมากที่สุด คือเราไม่เสียประตู หลายคน พยายามตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเราต้องตั้งรับต่ำ ทั้งที่เจอทีมระดับ ติมอร์ ซึ่งผมมองว่า ถ้าเรายิ่งโหมมากเท่าไหร่ ช่องว่างให้เราโจมตีจะไม่มีเลย ดังนั้น โค้ชจึงบอกเราว่า ให้ ติมอร์ ทำเกมขึ้นมาบ้าง จากนั้น ก็อย่างที่เห็น เราก็มีพื้นที่เล่น พื้นที่โจมตีมากขั้น ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ ที่สำคัญมันมีผลต่อความมั่นใจกับทั้งแนวรุก และแนวรับของเราด้วย”
“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้นครับ จริงๆ มันยังวัดอะไรไม่ได้มาก และไม่มีชัยชนะครั้งไหน ที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น เราต้องทำงานหนักต่อไป รวมถึง เล่นให้ดีขึ้นกว่านี้”
“ส่วนตัวผม ก็ไม่ได้คาดหวังว่า จะต้องเป็นตัวจริงตลอด เพราะผมเชื่อว่า 23 คนที่อยู่ที่นี่ มีศักยภาพ ที่จะช่วยทีมได้ทั้งหมด เอาเป็นว่า ไม่ว่าใครจะได้เล่น หรือ ไม่ได้เล่น เราก็พร้อมสนับสนุนซึ่งกันและกันครับ รวมถึงสตาฟฟ์โค้ชทุกคนด้วย” สรรวัชญ์ ปิดท้าย
สำหรับโปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 นัดที่สอง ของกลุ่มบี วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. บัตรมีจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ bit.ly/AFFTHA ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7 HD