สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เปิดเผยบทสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับ สุชาวดี นิลธำรงค์ หรือ มิรันด้า กับภารกิจสำคัญในปีนี้ ในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม 2562
ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่าน ศูนย์หน้าวัย 21 ปี ใช้ชีวิตอยู่ใน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มาโดยตลอด ก่อนที่จะถูกเรียกติดทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ปาเลสไตน์ ก่อนจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ทีมสร้างประวัติศาสตร์ที่จอร์แดน ด้วยการพา ชบาแก้ว ไปเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน
"ตอนแรกก็มีกังวลอยู่บ้าง แต่พอตัดสินใจแล้ว ก็คิดว่านี่คือโอกาสอันยิ่งใหญ่ ฉันได้เล่นฟุตบอลแบบผู้หญิง ที่ติดตามมาตั้งแต่เด็ก และทีมชาติก็ช่วยให้ฉันตกหลุมรักฟุตบอล และคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องทำ"
"เราต้องเผชิญหน้ากับทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และ มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ฉันตื่นเต้นมาก และขอบคุณจริงๆ ที่จะได้เจอกับไอดอลของฉันหลายคน เพราะถ้าคุณบอกฉันเมื่อ 2-3 ปีก่อน ว่าฉันจะได้เล่นในฟุตบอลโลก ฉันคงบอกว่า บ้าไปแล้ว"
นอกจากนี้ สุชาวดี นิลธำรงค์ ยังได้กล่าวถึงชีวิตส่วนตัว ถึงเหตุผลว่าทำไมนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยในแคลิฟอร์เนีย ถึงได้ไปเล่นให้ทีมชาติไทยในฟุตบอลโลกได้
"ฉันเกิดที่อเมริกาก็จริง แต่ฉันมีพ่อเป็นคนไทย ฉันเล่นฟุตบอลมานานมาก และพออยู่มัธยม ลุงบอกว่าเขาได้ติดต่อกับเพื่อนที่ทำงานกับทีมชาติไทย และเพื่อนของลุงก็มาหาฉันที่อเมริกา เพื่อดูฝีเท้า และบอกว่าฉันดีพอที่จะลองไปทดสอบฝีเท้า ฉันก็เลยเดินทางไป หลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น"
"ที่เบอร์เกเลย์ (เมืองที่มิรันด้าอาศัย) มีวัดไทย และฉันก็มักจะไปที่วัดทุกวันอาทิตย์ ตอนเด็กๆ ฉันก็พยายามเรียนรู้เรื่องการพูดภาษาไทย ที่สำคัญทุกปี ครอบครัวของเราก็มักจะไปเที่ยวประเทศไทย ดังนั้นฉันจังมีความผูกพันอย่างมากกับประเทศไทย และฉันตื่นเต้นจริงๆ เมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม"
"เห็นได้ชัดว่ามันตัดสินใจยากมาก เพราะฉันเกิดที่อเมริกา และอาจจะเล่นให้ทีมชาติอเมริกา ซึ่งอาจจะทำให้อาชีพการค้าแข้งก้าวหน้าไปอีก แต่เมื่อทีมชาติไทยติดต่อมาฉันก็ไม่เคยลังเลเลย"
"การพูดภาษาไทยกับเพื่อนร่วมทีมตอนแรกมันไม่ง่ายเลยๆ เพราะฉันพูดได้นิดหน่อย แต่ในสนามซ้อม มันก็เข้าใจนะ เพราะทุกคนก็ช่วยเหลือและดีต่อตัวฉันมาก"
"นัดแรกของฉันกับทีมชาติไทย ถือว่าสุดยอด เพราะฉันทำประตูได้สำเร็จและช่วยให้ทีมชนะ ฉันคิดว่าถ้าเริ่มต้นไม่ดี มันคงจะยากขึ้นเป็นอีกสิบเท่า ตอนนี้การพูดภาษาไทยของฉันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนในทีมบอกกับฉันอย่างนั้น"
"ประสบการณ์ทั้งหมดทำให้ฉันก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเต็มตัว ฉันมีมุมมองใหม่ๆมากมาย ทำให้รู้ว่าทีมฟุตบอลไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอล แต่มันคือตัวแทนของคนทั้งชาติ ที่ไม่มีใครต้องการทำให้คนในชาติตัวเองผิดหวัง"
"ตอนนี้ฉันเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจกับทีมมหาวิทยาลัย และกำลังเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก หลังจากนั้นฉันก็จะทำให้มันเป็นอาชีพเต็มตัว ถ้าเป็นไปได้ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลา มันคงขึ้นอยู่กับว่าที่ฝรั่งเศสฉันทำได้ดีแค่ไหน"
