"เจริญศักดิ์"รับช้างศึกยู-22อยู่ระหว่างปรับจูนแข้งดาวรุ่ง
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ปีกทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี เผยว่าตอนนี้ทีมกำลังเรียนรู้กันและกันมากขึ้น หลังจากมีการดันนักเตะอายุน้อยหลายคน ก้าวมาติดทีมชุดเตรียมทำศึกชิงแชมป์อาเซียน หลังจากการขาดหายไปของตัวหลักหลายราย
โดยในขณะนี้ทัพ ช้างศึก U22 ได้เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอล ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับลงแข่งขันรายการชิงแชมป์อาเซียน ระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์นี้
ซึ่งเจริญศักดิ์ได้เผยถึงการฝึกซ้อมที่ผ่านมาว่า “ผมพยายามทำให้เต็มที่ เพราะการจะก้าวไปถึงแชมป์ได้ ต้องมีการฝึกซ้อมที่ดี และเข้าใจแทคติกของโค้ช ตอนนี้ต้องปรับตัวให้เข้ากับน้องๆ ที่เพิ่งขึ้นมาชุดนี้ให้ได้” เจริญศักดิ์ เริ่มกล่าว
“ส่วนการขาดหายของตัวผู้เล่นหลัก อาจจะส่งผลเล็กน้อยเพราะหลายคนที่เคยเล่นด้วยกัน ติดภารกิจเล่นให้กับสโมสรต้นสังกัด ต้องยอมรับว่าผู้เล่นหลายคนที่เข้ามาใหม่อายุยังน้อย ก็ต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น”
“ตัวผมได้แนะนำน้องๆ ว่าไม่ต้องกดดันมาก เล่นให้เป็นตัวเอง แต่ต้องอยู่ภายใต้แทคติกของโค้ช ผมคิดว่าประสบการณ์จากการเล่นไทยลีกของผม จะสามารถช่วยให้น้องๆ ทำงานได้ง่ายขึ้น”
“การทำงานรวมกับโค้ชกาม่านั้น ถือว่าดีเลยครับ โค้ชจะจริงจังมากในเวลาซ้อม แต่โค้ชจะบอกอยู่เสมอว่าถ้ามีอะไรไม่เข้าใจให้เข้ามาถาม มาพูดคุย ไม่ว่าจะตัวเขาเองหรือกับทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช ตอนนี้ทุกคนก็พยายามทำความเข้าใจ และทำตามรูปแบบที่โค้ชวางไว้ให้ได้เร็วที่สุด”
“สุดท้ายถ้าถามว่ากดดันกับรายการนี้หรือไม่ ที่อยู่ร่วมกลุ่มกับทีมแข็งอย่าง เวียดนาม ส่วนตัวผมไม่กดดัน เพราะไม่ว่าเราจะเจอคู่แข่งแบบไหน ทีมอะไร ผมทำเต็มที่อยู่แล้ว เพื่อแฟนบอลและประเทศไทย”
สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี มีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด พบกับ ตราด เอฟซี ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ณ สนามศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอล เวลา 18.00 น. และ เหมยโจว ฮากกา เอฟซี ทีมจากไชนีส ลีก วัน ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ณ สนามฟุตบอลสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เวลา 15.30 น. ก่อนจะคัดเลือกผู้เล่นให้ เหลือ 23 คนสุดท้าย เพื่อลงแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ 2562 โดยทีมชาติไทย จะประเดิมสนามกับ ทีมชาติติมอร์-เลสเต ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 18.30 น. ที่สนามกีฬาแห่งชาติโอลิมปิก พนมเปญ