11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 1
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : ณัฐพงษ์ ขจรมาลี (พีที ประจวบ)
ได้ลงสนามเพราะ ขวัญชัย สุขล้อม มีอาการบาดเจ็บแต่ "เจ้าคิว" โชว์ฟอร์มสวยหรูจนอาจยึดตำแหน่งมือหนึ่งยาวๆ ยืนตำแหน่งได้ดี, ออกมาตัดบอลได้เยี่ยม และสั่งการแผงกองหลังได้อย่างเนียนตา ช่วยเซฟประตูในจังหวะสำคัญหลายครั้ง จนพาทีม "ต่อพิฆาต" บุกมายัดเยี่ยมความปราชัยให้ "กิเลนผยอง" คาถิ่นอีกครั้ง
กองหลัง : เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า)
นัดนี้เกมรับของ "สวาดแคท" อาจจะดูไม่มีใครโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ต้องยกเครดิตให้ "กัปตันเหลิม" ด้วยที่ทำหน้าที่ผูนำ คุมเกมรับได้ดีตามมาตรฐาน เกมนี้ยืนประสานงานกับ อี วอนแจ ได้อย่างไร้ที่ติ คอยสกรีนบอลให้ก่อนถึง แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม หลายต่อหลายครั้ง
กองหลัง : อัดนัน โอราโฮวัช (พีที ประจวบ)
เก็บกวาดลูกกลางอากาศเอาไว้ได้หลายครั้ง เป็นกองหลังที่ทีม "ต่อพิฆาต" จะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว ฟอร์มดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน และ 3 แต้มที่ได้มาแบบพลิกความคาดหมาย ต้องให้เครดิตแผงกองหลังโดยเฉพาะดาวเตะชาวมอนเตเนโกร คนนี้เป็นพิเศษ
กองหลัง : ซอ มิน ตุน (ชลบุรี เอฟซี)
แม้ ชลบุรี จะเสียไปถึง 2 ประตูในช่วงที่ตัวผู้เล่นเป็นรอง แต่ต้องยอมรับเลยว่า เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติเมียนมารายนี้ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด ทั้งลูกกลางอากาศที่ขึ้นชนกับ โมดิโบ ไมอิก้า อย่างไม่เป็นรอง การออกบอลก็ทำได้ดี แม้กระทั่ง "โค้ชเฮง" ซึ่งปกติไม่ค่อยเอ่ยปากชมใครง่ายๆ ยังยกย่องว่า ซอ มิน ตุน เล่นได้ดีมากและจะเป็นกำลังสำคัญในฤดูกาลนี้ของ "ฉลามชล" แน่นอน
กองหลัง : จักพัน ไพรสุวรรณ (สมุทรปราการ ซิตี้)
เจ้าพ่อลูกนิ่งอีกคนหนึ่งของเมืองไทยนัดนี้ถูกขยับมายืนเป็นวิงแบ็คฝั่งขวา แม้จะไม่มีประตูแต่ลูกฟรีคิกของเขาก็เกือบสัมฤทธิ์ผลหลายครั้ง รวมถึงลูกเตะมุมและลูกครอสที่เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งประตูแรกและประตูัชัยของ สมุทรปราการ
กองกลาง : สตีเว่น ล็องชิล (ราชบุรี มิตรผล)
ปั่นป่วนด้วยการเคลื่อนที่แบบไม่มีหมดทางกราบขวาและซ้ายตลอดทั้งเกม กระชากลากเลื้อยด้วยความเร็วและคล่องจนแนวรับของ ตราด ล้มลุกคลุกคลานกันเป็นแถว มีส่วนร่วมกับเกมรุกของ ราชบุรี ตลอดเวลา ดาวเตะมาร์ตินิกจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นอาวุธเด็ดที่ ราชบุรี จะใช้โจมตีคู่แข่งในซีซั่นนี้อย่างแน่นอน
กองกลาง :ศุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
"เจ้าเชค" ดูเก่งและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี นัดนี้เหมาคนเดียว 2 ประตูให้ "ปราสาทสายฟ้า" เก็บแต้มในบ้านได้ นอกเหนือจากการทำประตูยังมีบทบาทสร้างสรรค์เกมรุกได้สวยๆ หลายครั้ง กลายเป็นหัวใจสำคัญในการเคลื่อนเกมบุกของทีมไปแล้ว
กองกลาง: วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)
เจ้าของสถิตินักเตะไทยที่ทำประตูได้เยอะสุดในไทยลีกปีที่แล้ว เกมนี้มีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตูที่ "ฉลามชล" บุกมาแชร์แต้มจากรัง "ปราสาทสายฟ้า" ได้ ลูกแรกจบสกอร์ได้ด้วยความเยือกเย็น และลูกตีเสมอก็เป็นคนลากบอลขึ้นมาก่อนผ่านให้ ลูเคียน เปิดเข้ากลางให้ เกริกฤทธิ์ พุ่งเข้าฮอร์ส ถือเป็นอีกหนึ่งเดอะแบกที่ "ฉลามชล" จะขาดไปไม่ได้เลย
กองหน้า : จอห์น บาจโจ้ (สุโขทัย เอฟซี)
ดาวเตะมาดาร์กัสกาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในสนามได้เป็นอย่างดี มีส่วนร่วมในทุกๆ พื้นที่เกมรุก เป็นตัวที่เพื่อนจะคอยฝากบอลให้เพื่อกระชากลากเลื้อยและสร้างสรรค์โอกาสทำประตูให้ทีม "ค้างคาวไฟ" น่าเสียดายที่เกมนี้เขาไม่มีสกอร์ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าหากไม่มี บาจโจ้ เกมนี้สุโขทัยอาจจะทำได้ไม่ดีขนาดนี้
กองหน้า : ลอนซาน่า ดุมบูญ่า (ตราด เอฟซี)
ใช้ความแข็งแกร่งของสรีระอันเป็นจุดเด่นกดดันแนวรับของ ราชบุรี ได้ดี เล่นเอาเจ้าถิ่นต้องปรับหมากแก้เกมรับในครึ่งหลัง นัดแรกก็เหมาไปแล้วคนเดียว 2 ประตู แสดงให้เห็นว่าหากเพื่อนร่วมทีมสามารถสร้างโอกาสให้เขาได้ ก็จะไม่มีการใช้โอกาสเปลืองอย่างแน่นอน
กองหน้า : ยานนิค โบลี่ (ราชบุรี มิตรผล)
ลบคำสบประมาทได้ทันทีตั้งแต่เกมเปิดลีก หลังถูกแฟนบอลวิจารณ์ว่าเป็นของปลอม ด้วยการสวมบทแฮททริกฮีโร่เหมาคนเดียว 3 ประตูช่วยให้ "ราชันมังกร" พลิกนรกกลับมาคว้าชัยได้อย่างสุดมันส์ การหาที่ว่างเพื่อจบสกอร์ถือเป็นจุดเด่นที่หาตัวจับยาก จบเกมนี้เจ้าตัวยังยืนยันอีกด้วยว่าสภาพตอนนี้ยังไม่เต็มร้อย แล้วคิดดูสิว่าถ้าสมบูรณ์เต็มที่จะขนาดไหน
เฮดโค้ช : ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล (พีที ประจวบ เอฟซี)
ไม่ง่ายเลยที่จะมีทีมใดสร้างสถิติเอาชนะ เมืองทอง ได้ทุกครั้งที่พบกัน แต่ "โค้ชวัง" เจ้าของฉายาจอมปลดโค้ชสามารถทำได้ ถือเป็นการย้ำแค้นอีกครั้งที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกมนี้การวางหมากเล่นเกมรับและโต้กลับของ "ต่อพิฆาต" มีประสิทธิภาพสูงมาก และหาก แฮร์ลิสัน คายอน ไม่ทำหมูหกในจังหวะหลุดเดี่ยวช่วงท้ายเกม สกอร์ก็คงจบที่ 2-0 ไปแล้ว แต่อย่างน้อย "โค้ชวัง" ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถรีดศักยภาพของผู้เล่นที่ทีมอื่นทิ้งขว้างอย่าง คายอน, มาเธอุส อัลเวส หรือ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ออกมาได้ดีเกินคาด
