11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 2
แผนการเล่น : 4-3-3
ประตู : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ (สุโขทัย เอฟซี)
"บ๊อบบี้" โชว์ลีลาพุ่งปัดเซฟลูกยากๆ หลายต่อหลายครั้ง เกมนี้ถ้าไม่ได้นายทวารวัย 34 ปีงัดฟอร์มเหนียวหนึบออกมาช่วย "ค้างคาวไฟ" อาจจะต้องกลับบ้านมือเปล่าแล้วก็เป็นได้ ทั้งลูกยิงระยะใกล้หรือไกลก็ช่วยปัดป้องออกไปได้หมด ทำให้แนวรับของทีมอุ่นใจได้เยอะเลยทีเดียว
กองหลัง : นิติพงษ์ เสลานนท์ (การท่าเรือ เอฟซี)
เติมเกมขึ้นมาสวยๆ หลายครั้งทั้งยิงไกลและสนับสนุนเกมรุกตามสไตล์ถนัดแบบฉบับของ "สิงห์เจ้าท่า" นอกจากนั้น "เจ้านนท์" ยังทำหน้าที่ในจ๊อบหลักของตัวเองคือป้องกันเกมรุกทางริมเส้นที่ต้องเผชิญหน้ากับ สตีเว่น ล็องชิล และ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ถือเป็นเกมที่ดีอีกนัดหนึ่งเลยวิงแบ็คจอมบุกชาวสระบุรี
กองหลัง : โจเอล ซามี่ (สุโขทัย เอฟซี)
ช่วยสกัดลูกอันตรายเอาไว้ได้เยอะมาก ในบทบาทผู้นำแนวรับของ "ค้างคาวไฟ" ลูกกลางอากาศที่เป็นจุดแข็งก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง อีกทั้งยังเกือบขึ้นไปลุ้นโหม่งทำประตูจากลูกตั้งเตะได้อีกด้วย คลีนชีตของทีมในเกมนี้ต้องยกให้เครดิตให้ปราการหลังทีมชาติดีอาร์คองโก รายนี้เลย
กองหลัง : อันแดร์สัน ดอส ซานโต๊ส (สุพรรณบุรี เอฟซี)
หายเจ็บกลับมาได้ทันเวลาจริงๆ สำหรับแข้งแซมบ้า พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าสุพรรณบุรี คือทีมที่มีเกมรับดีที่สุดทีมหนึ่งของไทยลีก นัดนี้คุมแผงแนวรับจน บุรีรัมย์ แทบหาโอกาสยิงจะๆ ไม่ได้เลย เบื้องหลังของเกมรับที่แข็งแกร่งดุจภูผาหินของ "ช้างศึกยุทธหัตถี" ต้องชื่นชม อันแดร์สัน ที่คอยสั่งการจนทุกๆ คนในแนวรับยกระดับการเล่นได้ทั้งแผง
กองหลัง : มิก้า ชูนวลศรี (ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด)
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะปลอกแขนกัปตันทีมหรือเพราะหวานใจอย่าง เทย่า โรเจอร์ส เข้ามานั่งชมบนอัฒจรรย์ ทำให้มิก้า มีลูกฮึดขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง เกมนี้วิ่งชนิดไม่มีหมด เข้าบอลถึงลูกถึงคนทุกช็อต อาจแทบเรียกได้ว่าลืมความเป็นเพื่อนร่วมทีมชาติของผู้เล่นฝั่ง "กิเลนผยอง" ไปเลย โดยเฉพาะจังหวะปะทะกับ ธีรศิลป์ แดงดา ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไม่ยอมให้ผ่านไปได้ง่ายๆ สักครั้ง จนสุดท้ายทีมสามารถเปิดบ้านคว้าชัยในรังนัดแรกได้สำเร็จ
กองกลาง : ศิวกรณ์ เตียตระกูล (สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด)
มีส่วนร่วมกับเกมรุกของ "กว่างโซ้ง" แทบทุกจังหวะ ลูกแรกที่ทีมยิงได้ก็เป็นคนแอสซิสต์ให้ วิลเลี่ยม เฮนริเก้ จากนั้นก็คอยสร้างสรรค์โอกาสให้ทั้งเพื่อนร่วมทีมและตัวเองหลายครั้ง ถือเป็นผู้เล่นแนวรุกที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดในสนามเกมนี้เลยก็ว่าได้
กองกลาง :พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (เชียงใหม่ เอฟซี)
แสดงให้เห็นถึงบทบาทความเป็นผู้นำทีม ทั้งสั่งการเพื่อน การออกบอล มีจังหวะลุ้นทำประตูจากลูกยิงไกลแถวสอง รวมถึงเกมรับที่ลงไปช่วยได้หลายจังหวะ โดยเฉพาะลูกที่สกัดบอลออกมาจากเส้นเป็นตัวสุดท้าย "กัปตันแป๊ะ" รักษาสภาพร่างกายได้ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับนักเตะในวัยย่าง 37 ปี
กองกลาง: บวร ตาปลา (สมุทรปราการ ซิตี้)
"เจ้าวร" ความภูมิใจของชาวพะเยา โดดเด่นมากๆ ในการบัญชาเกมแดนกลางนัดนี้ มีส่วนร่วมกับประตูแรกที่เขาเป็นจุดเริ่มต้นของการจ่ายบอลให้ พิชา อุทรา เปิดจากฝั่งซ้ายเข้ามา รวมถึงลูกที่สองก็เป็นคนจ่ายทะลุช่องให้ อิบสัน เมโล่ หลุดเดี่ยวจากครึ่งสนามไปทำประตูตอกฝาโลง เอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ได้ถึงถิ่นในสกอร์เกินคาดถึง 2-0
กองหน้า : มาเธอุส อัลเวส (พีที ประจวบ)
มีส่วนร่วมกับทั้งสองประตูที่ทีมทำได้ในนัดนี้ ลูกแรกเป็นคนจ่ายตัดแนวรับให้ แฮร์ลิสัน ไคยอน หลุดเข้าไปถูกรวบในเขตโทษ ก่อนจะเป็นคนซัดจุดโทษเอง และลูกที่สองก็สกรีนดึงตัวประกบให้ ไคยอน ลากหลบกองหลังเข้าไปทำประตู รวมถึงอีกหลายจังหวะที่สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ลุ้นประตู ดาวเตะแซมบ้าสองคนนี้กลายมาเป็นคู่หูที่เข้าขากันได้ดีเหนือความคาดหมายเลยทีเดียว
กองหน้า : แฮร์ลิสัน ไคยอน (พีที ประจวบ)
การเคลื่อนที่ทั้งยามมีบอลและไม่มีบอลของ ไคยอน สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของคู่้ต่อสู้ได้ดีมาก ประตูแรกที่ทีมทำได้ เขาเช็คไลน์ของตัวเองได้ดีจนไม่ล้ำหน้าและเรียกจุดโทษให้ทีมได้ ก่อนที่จะโซโล่เดี่ยวผ่านคู่ต่อสู้ 6 คนเข้าไปตวัดวอลเลย์ข้ามตัวผู้รักษาประตูอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 2 ในซีซั่นนี้ไปแล้วสำหรับอดีตนักเตะที่เคยถูกแฟนบอลร้องยี้
กองหน้า : อิบสัน เมโล่ (สมุทรปราการ ซิตี้)
เหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมบุกไปเก็บชัยเหนือ ชลบุรี เอฟซี ในสกอร์ที่ดูเหมือนจะง่ายดายเกินคาด แต่ต้องชื่นชมว่าหัวหอกแซมบ้ารายนี้ครบเครื่องทั้งเทคนิคและความเฉียบคมในการจบสกอร์ ไม่น่าเชื่อว่ากองหน้าวัย 29 ปีจะยังไม่เคยยิงประตูให้ต้นสังกัดเก่าแต่ละทีมเกิน 3 ประตู แต่ปีนี้มั่นใจได้เลยว่าหากเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ไปเรื่อยๆ อิบสัน จะทำลายสถิติที่ไม่น่าจดจำของตัวเองได้แน่นอน
เฮดโค้ช : สุรพงษ์ คงเทพ (สมุทรปราการ ซิตี้)
ก่อนเกมกูรูแทบทุกสำนักฟันธงว่า สมุทรปราการ ไม่น่ารอดพ้นความปราชัยในการไปเยือนถิ่น ชลบุรี สเตเดี้ยม แต่ "โค้ชอั๋น" โต้ตอบคำวิจารณ์ด้วยการพาลูกทีมบุกอัดเจ้าถิ่นคารัง 2-0 ด้วยแทคติกเกมรับที่รัดกุม รวมถึงเกมรุกที่หลากหลายทั้งริมเส้นและการผ่านบอลจากแดนกลาง เล่นเอาชลบุรี ที่ตั้งหน้าตั้งตาบุก เกือบถูกลงโทษจากจังหวะโต้กลับสวยๆ หลายต่อหลายครั้ง ด้วยกึ๋นระดับนี้โค้ชหนุ่มวัย 40 ปีรายนี้อาจจะไม่เคยสร้างชื่อในฐานะนักเตะ แต่อนาคตสำหรับงานด้านกุนซือจะสดใสไปได้อีกนานแน่นอน
