11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 6
แผนการเล่น : 4-1-2-1-2
ประตู : นนท์ ม่วงงาม (เชียงใหม่ เอฟซี)
หลายคนเอ่ยถึงประตูของหลายๆ ทีมที่เก็บคลีนชีทได้ แต่ถ้าได้ดูเกมที่ "พยัคฆ์ล้านนา" บุกชนะ สุพรรณบุรี ได้ถึงถิ่น ต้องบอกเลยว่าหากไม่ได้ฟอร์มเซฟสุดมหัศจรรย์ครั้งแล้วครั้งเล่าของ นนท์ ล่ะก็ เชียงใหม่ คงไม่มีโอกาสคว้า 3 แต้มกลับออกไปได้แน่นอน โดยเฉพาะการป้องกันลูกยากๆ ที่น่าเป็นประตูหลายครั้งของเจ้าถิ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
กองหลัง : เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
เติมเกมรุกฝั่งซ้ายประสานงานกับ บดินทร์ ผาลา ได้สะใจกองเชียร์ "สิงห์เจ้าท่า" เป็นอย่างมาก มีส่วนร่วมในการแอสซิสต์ให้ เซร์คิโอ ซัวเรซ ทำประตูแรก รวมถึงการโอเวอร์แล็ปขึ้นมาครอสบอลก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ช่วยให้ทีมกลับมาคว้าชัยชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนักได้อีกครั้ง
กองหลัง : ศราวุธ อินแป้น (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
"เจ้าเบียร์" เล่นได้โดดเด่นอย่างมาก ในจังหวะเก็บตกที่ บุรีรัมย์ จะได้ซ้ำหลายๆ ครั้งก็มักจะถูกเคลียร์บอลออกมาโดยเจ้าตัวอยู่โดยตลอด การประกบตัวและการเล่นลูกกลางอากาศนัดนี้ทำได้ดี รวมถึงเกือบทำประตูชัยให้ "กว่างโซ้ง" จากจังหวะขึ้นโหม่งบอลไปชนคาน 1 แต้มจากเกมใหญ่และไม่เสียประตูแบบนี้เชื่อว่า เชียงราย คงแฮปปี้และต้องชื่นชมแนวรับของทีมทั้งแผงที่มีวินัยกันตลอด 90 นาที
กองหลัง : โจเอล ซามี่ (สุโขทัย เอฟซี)
"ค้างคาวไฟ" ถูก "พลังเพลิง" เจ้าถิ่นโหมเกมบุกและมีโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า แต่ก็ยังรักษาคลีนชีทเอาไว้ได้ นอกเหนือจากฟอร์มอันเหนียวหนึบของประตูอย่าง กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ แล้วต้องยกเครดิตให้ โจเอล ซามี่ ที่คุมตัวประกบได้อย่างอยู่หมัด ทั้งการมาร์คตัวและป้องกันลูกกลางอากาศ แถมยังมีจังหวะขึ้นไปลุ้นโหม่งลูกเซ็ตพีชได้ใกล้เคียงประตูอยู่เรื่อยๆ
กองหลัง : ปริญญา อู่ตะเภา (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
"เจ้าปิ่น" คอยปัดกวาดแนวรับได้ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท ในการลงเล่นให้ชัยนาทครบเกมที่ 101 เกมนี้คอยสกัดกั้นป้องกันการเคลื่อนที่ในแดนบนของทั้ง เฮแบร์ตี้ และ ธีรศิลป์ แดงดา ได้อย่างน่าชื่นชม แทบไม่ปล่อยให้กองหน้า "กิเลนผยอง" ได้ส่องประตูโล่งๆ แทบทุกครั้งจะมีกัปตันทีมวัย 31 ปีคอยประกบให้เสียจังหวะอยู่ใกล้ๆ เสมอ จนช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีทและคว้า 3 แต้มแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ
กองกลาง: ฉัตรชัย คุ้มพญา (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
ฉัตรชัยคือนักเตะที่อายุเยอะที่สุดในทีม แต่ได้รับการยอมรับว่ามีความฟิตสูงที่สุดในทีม มิดฟิลด์วัย 34 ปีมีส่วนร่วมอย่างมากกับฟอร์มอันเอกอุของ "นกใหญ่พิฆาต" ในนัดนี้ ด้วยการแอสซิสต์ให้ ชาตรี รัตนวงษ์ ขึ้นโขกลูกแรก ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้นในลูกที่สอง ถือเป็นผู้เล่นที่ควบคุมสมดุลของเกมในแดนกลางได้ลงตัวที่สุดให้กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ชั่วโมงนี้
กองกลาง : เซร์คิโอ ซัวเรซ (การท่าเรือ เอฟซี)
กองกลางชาวสแปนิชเป็นผู้เล่นที่มีสัญชาติญาณการจบสกอร์ไม่แพ้กองหน้าเลยทีเดียว นัดนี้เหมายิงคนเดียว 2 ลูกแรกทำให้สถานการณ์ของ "สิงห์เจ้าท่า" คลายความกดดันไปได้มาก การเคลื่อนที่ยามไม่มีบอลและการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมดูแล้วเนียนตา ก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นชัยชนะที่งดงามต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองที่แพท สเตเดี้ยม
กองกลาง : พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (เชียงใหม่ เอฟซี)
"กัปตันแป๊ะ" คอยคุมจังหวะและตัดเกมในแดนกลางของ สุพรรณบุรี ได้อย่างสนุกในการดวลความเก๋ากับ อดุล หละโสะ ที่สำคัญ พิชิตพงษ์ ยังเกือบทำประตูได้ทั้งจากลูกฟรีคิกและยิงไกลอีก 2-3 ครั้ง เกมในแดนกลางของ "พยัคฆ์ล้านนา" ดูลื่นไหลไปหมด นัดนี้ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระที่ช่วยทำให้ เชียงใหม่ เก็บชัยนอกบ้านได้สำเร็จ
กองกลาง : ภานุพงษ์ พลซา (ชลบุรี เอฟซี)
"เจ้าดิว" ได้รับโอกาสให้ลงเป็นตัวจริงต่อเนื่องหลังจากทำผลงานได้ดีในเกมที่แล้ว และก็ไม่ทำให้แฟนๆ "ฉลามชล" ต้องผิดหวัง เมื่อโชว์ฟอร์มสวยหรู จ่ายทะลุช่องให้ ลูเคียน หลุดไปยิงลูกแรก ก่อนจะซัดเองในประตูขึ้นนำห่าง 2-0 ก่อนจบ 45 นาทีแรก ด้วยฟอร์มที่สม่ำเสมอแบบนี้คงจะทำให้เจ้าตัวยึดตำแหน่งตัวจริงไปได้ยาวๆ
กองหน้า : เอลิอันโดร ซานโต๊ส (เชียงใหม่ เอฟซี)
วูบวาบปั่นป่วนแนวรับของ สุพรรณบุรี ได้ตลอดยามที่บอลเคลื่อนมาถึงพื้นที่แดนบน เกมนี้เป็นคีย์แมนสำคัญทั้งจ่ายให้ มุสตาฟา อาซัดซอย ยิงตีเสมอ ก่อนจะสวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยให้ "พยัคฆ์ล้านนา" เก็บ 3 แต้มแรกในการเป็นทีมเยือนบนลีกสูงสุดของเมืองไทยได้สำเร็จ
กองหน้า : ลูเคี่ยน อเราโช่ (ชลบุรี เอฟซี)
กลายเป็นมิสเตอร์เอเวอรี่ติงของ "ฉลามชล" ไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ที่หายเจ็บกลับมาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือผู้เล่นที่ ชลบุรี จะขาดไปไม่ได้หากต้องการเกมรุกที่เฉียบขาด เกมนี้มีส่วนร่วมกับทุกประตูที่ ชลบุรี ทำได้ ทั้งยิงเอง 2 ลูก แอสซิสต์ให้เพื่อน รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของประตูปิดท้าย สมบูรณ์แบบและถือเป็นผู้เล่นที่ผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในสัปดาห์นี้เลยก็ว่าได้
เฮดโค้ช : เดนนิส อมาโต้ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
แท็กติกการทำทีมของกุนซือชาวเยอรมันถือว่าน่าสนใจมาตลอด แต่กว่าจะสัมฤทธิ์ผลด้วยการคว้า 3 แต้มแรกในซีซั่นได้ก็มาเกิดขึ้นในเกมที่หลายๆ คนไม่คาดคิด แผนการเล่นเพรสซิ่งและเคาน์เตอร์เพรสซิ่งของ "นกใหญ่พิฆาต" นัดนี้ทำเอาผู้เล่น "กิเลนผยอง" ที่มีดีกรีระดับทีมชาติแทบทุกคนถึงกับไปไม่เป็น มีการไล่บีบตั้งแต่แดนบน ผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ ก็ช่วยกันไล่ช่วยกันซ้อน ความเข้าใจในเกมมีสูงมาก บ่งบอกให้เห็นว่าเบื้องหลังคงมีการซ้อมกันมาเป็นอย่างดี และชัยชนะด้วยสกอร์มโหฬาร 3-0 ในนัดนี้ก็ต้องยกย่องโค้ชเดนนิส ด้วยที่ทำให้ ชัยนาท เป็นทีมที่เล่นบอลสวยงามและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้
