กุนซือ "สิงห์เจ้าท่า" ยก อาทิตย์ บุตรจินดา หัวหอกซูเปอร์ซับมีอนาคตที่สดใส และกำลังค่อยๆ ปลุกปั้นให้ได้ลงสนามมากขึ้นเรื่อยๆ ชี้ข้อดีคือรูปร่างสูงใหญ่และมีความกระหายที่จะถล่มตาข่ายคู่แข่ง รับปากจะคอยหนุนหลังและหากเจ้าตัวพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสติดทีมชาติไทยได้ในอนาคต
"เจ้านุก" อาทิตย์ บุตรจินดา กองหน้าวัย 24 ปี ลงสนามเป็นตัวสำรองให้ การท่าเรือ เอฟซี ไปทั้งสิ้น 5 นัดในฤดูกาลนี้ และทำได้แล้วถึง 3 ประตู ซึ่งถือว่ามากที่สุดตั้งแต่เป็นนักเตะอาชีพ และแม้จะถูกจดจำในบทบาทซูเปอร์ซับที่มักจะถูกส่งลงสนามในช่วงท้ายเกมยามทีมต้องการประตู แต่ จเด็จ มีลาภ ยืนยันว่าจะพยายามให้ลงเล่นมากขึ้นเพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นของเจ้าตัว
"มาสเซอร์เด็จ" เปิดเผยกับ THSPORT ว่าอดีตเด็กฝึก แอสไพร์ อคาเดมี่ ที่ประเทศกาตาร์ มีรูปร่างที่สูงใหญ่ มีความมั่นใจ และกระหายที่จะทำประตูคู่ต่อสู้ทุกครั้งที่ลงสนาม แต่ยังไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงได้ เพราะมีหัวหอกต่างชาติที่สามารถเชื่อมและสร้างสรรค์เกมได้ดีทั้ง ดราแกน บอสโควิช และ เซร์คิโอ ซัวเรส ขวางทางอยู่
อย่างไรก็ตาม ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในฐานะซูเปอร์ซับ กุนซือวัย 47 ปีรับปากว่าจะมอบโอกาสให้ "เจ้านุก" ลงสนามในแต่ละเกมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเชื่อว่าหากเจ้าตัวยังคงพัฒนาฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่องล่ะก็ สักวันหนึ่งอาจสามารถก้าวขึ้นมายึดตำแหน่้งกองหน้าตัวเป้าของทีมชาติไทยที่ขาดแคลนอยู่ได้ในอนาคต
"อาทิตย์เขาเป็นกองหน้าตัวใหญ่ รูปร่างเขาดีขึ้นมาก เล่นลูกกลางอากาศดี จังหวะเข้าฮอร์สก็ดี จมูกไว มีความมั่นใจและกระหายที่จะทำประตู แต่เรามีผู้เล่นต่างชาติที่บางครั้งถึงแม้จะทำประตูไม่ได้แต่ก็สร้างโอกาสให้ทีมได้ดีกว่า ผมเองก็พยายามค่อยๆ ส่งเขาลงเล่นมากขึ้นเพื่อให้เข้าใจแท็กติกการเล่นของทีม ซึ่งเขาก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาได้เรื่อยๆ จากความมุมานะของตัวเขาเอง"
"ไม่แน่นะ ถ้าเขายังพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อยๆ และได้ลงสม่ำเสมอมากขึ้น กองหน้าทีมชาติไทยตอนนี้ก็ขาดสไตล์ตัวเป้าตัวใหญ่ๆ ที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และผมเชื่อว่าสักวันเขาก็อาจจะก้าวขึ้นไปถึงทีมชาติไทยได้เหมือนกัน" มาสเซอร์เด็จกล่าว
