'โค้ชเฮง'ผยถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการสัมมนาเรื่องการพัฒนาเยาวชนในทวีปเอเชีย
วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมงานสัมมนาเรื่องการพัฒนาเยาวชนในทวีปเอเชีย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2017 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14-16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยการสัมมนาดังกล่าว มี 43 ประเทศสมาชิกในทวีปเอเชีย เข้าร่วมสัมมนาโดยมีวิทยากรมากมายที่เข้ามาบรรยายให้ความรู้ อาทิ มร. แอนดี้ ร็อกซ์เบิร์ก ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี ) และตัวแทนชาติสมาชิกที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
ซึ่งทาง ปธ.เทคนิค กล่าวถึงการสัมมนาครั้งนี้ว่า "การสัมมนาดังกล่าวสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จัดขึ้นทุกปี ส่วนมากผู้มาร่วมงานจะเป็นประธานเทคนิคของแต่ละประเทศสมาชิก แต่ปีนี้เขาอนุญาตให้นำเจ้าหน้าที่ของชาติสมาชิกมาร่วมรับฟังบรรยายด้วย"
"เนื่องจากฟุตบอลในปัจจุบันมีรายละเอียดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวสารต่างๆ ในวงการฟุตบอล, การแลกเปลี่ยนทัศนคติ เกี่ยวกับฟุตบอลสมัยใหม่ รวมทั้งมีการวิเคราะห์กันว่า ทำไมทีมชาติอังกฤษ ถึงประสบความสำเร็จในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี"
"ประเทศไหนที่เก็บรายละเอียดได้เยอะก็จะได้ประโยชน์มาก การไปสัมมนาครั้งนี้เราได้เรียนรู้ว่า การคัดเลือกนักเตะที่มีพรสวรรค์ต้องทำอย่างไร การวางรูปแบบการเล่นทุกอย่างต้องเริ่มจากอะคาเดมี่ ไม่ใช่ลอกเลียนแบบชาติที่ประสบความสำเร็จ”
“เราต้องมีสไตล์ของตัวเอง อย่างที่เรามี ไทยแลนด์ เวย์ ซึ่งมันช่วยให้เราพัฒนาช่องว่างระหว่างเรากับชาติระดับท็อปของเอเชีย หรือ การยกระดับชาติในเอเชีย ไปสู้กับชาติในทวีปยุโรป”
"ณ ตอนนี้ เราเห็นภาพชัดเจนว่า เราไม่มีผู้ฝึกสอนไทยในต่างแดนเลย แต่หากเปรียบกับญี่ปุ่น เขาส่งผู้ฝึกสอนไปอยู่ทุกที่ทั่วโลก ทั้งในอาเซียน, อเมริกาใต้, อเมริกากลาง, แอฟริกา ซึ่งตรงนี้ถือเป็นหลักสำคัญในเรื่องของการเรียนรู้ ซึ่งผมจะพยายามรวบรวมความรู้ทั้งหมด เขียนเป็นบทความให้โค้ชชาวไทยทุกคนได้อ่าน"
"ปีที่ผ่านมา เราเห็นทีมชาติอังกฤษ ประสบความสำเร็จในฟุตบอลเยาวชน สิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้จากเขาคือ เขาประสบความสำเร็จเพราะอะไร เราต้องรู้รายละเอียดว่า เขาพัฒนาผู้เล่นอย่างไร โดยเฉพาะความกระหายในชัยชนะ”
“อีกเรื่องก็คือการคัดเลือกผู้เล่นมาติดทีมชาติ เราต้องดูอะไรเป็นหลัก อังกฤษ เขามีการรวมตัวก่อนทัวร์นาเมนต์ แค่ 36 วัน เท่านั้น ก่อนหน้านี้อังกฤษ ไม่เคยไปได้ไกลเลยในการแข่งขันระดับต่างๆ แต่เขาก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อเรามองต้นตอแล้วพบว่าทั้งหมดมันมาจากการยกระดับอะคาเดมี่ของพวกเขา ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมกันระหว่างอะคาเดมี่ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ กับ สโมสร ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศทั่วโลก"
"แต่ในทวีปเอเชีย จาก 43 ประเทศ มีเพียงแค่ 13 ประเทศเท่านั้นที่มีศูนย์ฝึกฟุตบอลเป็นของสมาคมฯ เอง และถ้าเป็นฟุตบอลหญิงนั้นมีแค่ 8 ประเทศเท่านั้น ส่วนอะคาเดมี่สโมสรของฟุตบอลชายนั้น มีแค่ 8 ประเทศ และหนึ่งในนั้นก็เป็นประเทศไทย ส่วนอะคาเดมี่สโมสรฟุตบอลหญิงก็มีญี่ปุ่น กับ ไทย ซึ่งตรงนี้หากดูจากข้อมูลที่ได้รับมา เราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องในการพัฒนาอะคาเดมี่ ต้องขอบคุณทุกสโมสรที่ให้ความสนใจกับอะคาเดมี่มากขึ้น"
“สิ่งที่เราต้องทำคือ เพิ่มจำนวนอะคาเดมี่ให้มากขึ้น และและต้องหาผู้เล่นที่มีคุณภาพ เราต้องพัฒนาฟุตบอลลีกหญิงให้เป็นระบบมากขึ้น รวมทั้งพยายามยกระดับคุณภาพของผู้เล่นทั้งหญิงและชายให้ดีขึ้นไปด้วย"
