TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 14
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 14
แผนการเล่น : 4-4-2
ประตู : ทศพร ศรีเรือง (ตราด เอฟซี)
วันไหนที่ท็อปฟอร์มก็ถือเป็นสุดยอดผู้รักษาประตูของเมืองไทยคนหนึ่งเลยสำหรับ "เอ้" นัดนี้โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟอย่างไม่น่าเชื่อได้หลายครั้ง แถมยังเกือบแอสซิสต์ได้ด้วยการเปิดบอลยาวจากหน้าประตูให้เพื่อนหลุดเดี่ยว การที่ ตราด ขึ้นมาอยู่ถึงตำแหน่งท็อปไฟว์ได้ ต้อยกงให้เครดิตคุณพ่อของ "น้องเอมี่" อย่างมากเลยทีเดียว
กองหลัง : สถาพร แดงสี (ตราด เอฟซี)
ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจสำหรับ "หนุ่ม" ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องให้กับ "ช้างขาวเจ้าเกาะ" เกมริมเส้นฝั่งซ้ายของเขาวูบวาบตลอด วิ่งขึ้นลงแบบไม่มีหมด และจังหวะที่ได้ประตู 2-0 ก็มาจากการเลี้ยงบอลฉีกแนวรับไปถึงสุดเส้นก่อนครอสเข้ามาชนิดแม่นเหมือนจับวางให้ดูโรซินมี่จบสกอร์อย่างง่ายดาย
กองหลัง : ชิติพัทธ์ แทนกลาง (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ประสานงานในเกมรับร่วมกับ อันเดรส ตูเนซ และ พรรษา เหมวิบูลย์ ได้เป็นอย่างดีเช่นเคย และที่ต้องเลือกมาเป็นผู้เล่นในทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์นี้นั้น เพราะนอกเหนือจากการช่วยเกมรับแล้ว ยังเป็นคนขึ้นมาโขกประตูปิดกล่องให้ บุรีรัมย์ เก็บ 3 แต้มสำคัญออกจากถิ่น แพท สเตเดี้ยม ได้อีกด้วย
กองหลัง : นิรันด์ มีมาก (ชลบุรี เอฟซี)
แทบทุกๆ ครั้งที่แนวรุกของ เมืองทอง บุกขึ้นมาและถูกสกัดกั้นออกไป จะเป็นความยอดเยี่ยมของกองหลังเบอร์ 28 รายนี้ คำวิจารณ์ที่โค้ชหลายๆ คนเคยกล่าวไว้ว่าเขาโฉ่งฉ่างเกินไปนั้นดูจะเกินจริง หากความแอคทีฟของเขานั้นถูกนำมาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา "ฉลามชล" จะได้ประโยชน์จากความทุ่มเทของเขาอย่างมาก เหมือนดั่งเช่นเกมนี้ที่ไม่ว่าเมืองทองจะบุกมาแบบไหน ก็มาติดอยู่ที่กองหลังเชื้อสายสวีดิชรายนี้แทบทุกที
กองหลัง : กฤษดา กาแมน (ชลบุรี เอฟซี)
นอกเหนือจากลูกยิงไกลสุดสวยระยะกว่า 30 หลาที่น่าจะเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์นี้แล้ว "แระ" ยังทำหน้าที่ในเกมรับได้โดดเด่นมากๆ แม้จะถูกส่งลงมาเหมือนเป็นกองกลาง แต่ก็มีหลายๆ ครั้งที่ถอยลงไปยืนเสมือนเซ็นเตอร์อีกหนึ่งตัว ประตูที่ยิงได้น่าจะเป็นการเรียกความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากเคยยิงลูกลักษณะนี้ได้บ่อยๆ ในเกมระดับเยาวชน ดูเหมือนว่า "โค้ชเตี้ย" จะมองเห็นแล้วว่า บทบาทแบบไหนที่จะรีดศักยภาพของเจ้าตัวออกมาได้ดีที่สุด และแน่นอน หากใจมาแบบเกมนี้ "แระ" จะเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองอีกคนนึงของเมืองไทยเลยทีเดียว
กองกลาง: สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี)
เป็นผึ้งงานที่คอยปิดทองหลังพระตัวจริงสำหรับศึกเอล กลาซิโก้ เมืองไทย "แจ๊บ" ไม่ลังเลที่จะเข้าปะทะหนักๆ กับแข้งรุ่นพี่ในทีม "กิเลนผยอง" คอยตัดเกมแดนกลางด้วยความหนักหน่วงและแม่นยำ ทำหน้าที่ได้แทบจะสมบูรณ์แบบไม่เสียแรงที่ "โค้ชเตี้ย" ไว้วางใจให้กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงในเกมนี้
กองกลาง : พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (สมุทรปราการ ซิตี้)
รับบทจอมทัพทั้งในฐานะกัปตันทีมและบทบาทในเกม แม้ทีมจะเพิ่งเปลี่ยนหัวเรือใหญ่แต่ "นิว" ก็ไม่มีการแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวออกมาให้เห็นในสนาม คอยบัญชาเกมและกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดเวลา ประตูเดียวจากจุดโทษที่เขาทำได้กลายเป็นประตูชัย ส่งให้ "เขี้ยวสมุทร" เกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ที่อันดับ 4 ได้ต่อไปอีกสัปดาห์
กองกลาง : วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ (ตราด เอฟซี)
มีบทบาทอย่างมากในการเชื่อมเกมจากแดนกลางไปสู่แดนบน ประสานงานกับแข้งต่างชาติ 3D ทั้ง ดูมบูญ่า, ดิยุฟ และ ดูโรซินมี่ ได้เนียนตา มีจังหวะจ่ายบอลทะลุสวยๆ รวมถึงลากเลื้อยกินตัวในพื้นที่ก่อนถึงกรอบเขตโทษได้หลายครั้ง เป็นเกมที่เด่นมากๆ สำหรับกองกลางลูกครึ่งไทย-ลาว รายนี้
กองกลาง : วานเดอร์ หลุยส์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
หลังจากหายเจ็บกลับมา ดาวเตะแซมบ้า พิสูจน์ให้แฟนๆ "แข้งเทพ" เห็นแล้วว่าเขาคือของจริงที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ในยามที่ไม่มี เนลสัน โบนีญ่า นัดนี้มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูพาทีมคว้าชัย ทั้งจังหวะแรกที่อยู่ถูกที่ถูกเวลาและจบสกอร์ได้อย่างเยือกเย็น รวมถึงประตูปิดกล่องที่วิ่งกดดันจน ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ พลาดสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง
กองหน้า : เปโดร จูเนียร์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
โดดเด่นเป็นพระเอกเลยทีเดียว สำหรับหัวหอกที่แฟนๆ "ปราสาทสายฟ้า" เคยพากันส่ายศีรษะ นัดนี้กระชากลากเลื้อยปั่นป่วนแนวรับของ "สิงห์เจ้าท่า" ได้ตลอด เรียกจุดโทษให้ทีมได้ตั้งแต่ต้นเกม และยังมายิงประตูที่ 2 แบบชงเองกินเอง นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสให้ทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทีมจนน่าจะได้ประตูที่ 4 อีกหลายครั้ง
กองหน้า : เลอันโดร อัสซัมเซา (นครราชสีมา มาสด้า)
ดาวยิงอันดับหนึ่งของ "สวาดแคท" พึ่งพาได้อีกครั้งเมื่อเหมายิงคนเดียว 2 ประตูทั้งจากลูกฮาล์ฟวอลเลย์ที่เด็ดขาด รวมถึงฟรีคิกสุดสวย ในยามที่เกมสูสี สิ่งที่ตัดสินผลการแข่งขันได้คือความเฉียบขาดของกองหน้า ซึ่งนัดนี้ โคราช มี ทว่า ชัยนาท ซึ่งสู้ในเกมได้อย่างไม่เป็นรองนักยังขาดไป
เฮดโค้ช : สะสม พบประเสริฐ (ชลบุรี เอฟซี)
"โค้ชเตี้ย" ประเดิมคุมทีมเกมแรกและสิ่งที่แสดงให้เห็นทันทีคือพาสชั่นในเกมที่ส่งไปถึงลูกทีมจนมีความกระหายต่อชัยชนะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แข้งหนุ่มที่เคยหายไปพักใหญ่อย่าง สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ หรือ นิรันดร์ มีมาก ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีความแอคเกรสซีฟในตัวอยู่แล้วกลับมาออกสตาร์ทตัวจริงและมีส่วนอย่างมากกับเกมนัดนี้ การเปิดบ้านชนะเมืองทอง อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกด้วยฟอร์มของทีมเยือนที่ยังลูกผีลูกคน แม้จะเปลี่ยนโค้ชมาเป็น อเล็กซานเดร กาม่า แต่สิ่งที่แตกต่างคือการกระตุ้นนักเตะข้างสนาม นัดนี้ "โค้ชเตี้ย" ได้ใจกว่าเยอะ อีกทั้งการแก้เกมและแท็กติกที่ยืดหยุ่นไปกับจังหวะของเกม จนทำให้ทีมคว้า 3 แต้มพร้อมกับเก็บคลีนชีทได้ นี่อาจเป็นการปลุก "ฉลาม" ที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมากระหายขย้ำเหยื่ออีกครั้งก็เป็นได้