โฆษกส.บอลหวังผู้หลงผิดกลับตัวสู้ชีวิตต่อ
โฆษกสมาคมฟุตบอล หวังผู้หลงผิดผันตัวเข้าสู่ขบวนการล็อกผลบอล จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีสู้ชีวิตต่อไปให้ได้ หลังหมดอนาคตในวงการฟุตบอล
ภายหลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวการจับกุมผู้เกี่ยวข้องขบวนการล็อคผลการแข่งขันฟุตบอล พร้อมกับเปิดเผย 12 รายชื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวดำเนินคดี ซึ่งได้ประกันตัวไปสู้ในชั้นศาลต่อไปแล้วนั้น จนมีการตั้งข้อสงสัยว่าหลังจากนี้ ผู้ถูกกล่าวหาจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร เพราะโทษที่ได้รับเปรียบเสมือนการถูกประหารชีวิตจนหมดอนาคตในวงการฟุตบอลไปแล้วนั้น
"คุณโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกของสมาคมฟุตบอล กล่าวว่่า รายชื่อที่ถูกเปิดเผยนั้นยังเป็นเพียงผู้ต้องหาเท่านั้น คดียังไม่สิ้นสุด ยังไม่ได้ถือว่าเป็นผู้มีความผิด อย่างไรก็ตาม นโยบายของทางฟีฟ่า และ เอเอฟซี คือการกวาดล้างขบวนการล็อกผลการแข่งขันให้หมดไปโดยไม่มีการปราณี ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา เคยมีหลายประเทศที่ออกมาเปิดโปงรายชื่อบุคลากรในวงการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นที่ จีน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อิตาลี และ เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งบางรายยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ แต่บางรายก็จมอยู่กับความผิดที่ตัวเองก่อ จนถึงขั้นก่ออัตนิวิบาตกรรม เช่น จานลูก้า เปสซอตโต้ อดีตกองหลังและผู้อำนวยการสโมสรยูเวนตุส ที่พยายามกระโดดตึกฆ่าตัวตาย หรือผู้ตัดสินชาวเกาหลีใต้ ที่่ฆ่าตัวตายหลังถูกเปิดโปง
โฆษกส.บอล กล่าวว่า "ก็เหมือนกับคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในสังคม ที่บางคนเข้มแข็งและสามารถกลับตัวกลับใจ ยังอยู่ในสังคมได้ บางคนที่เคยถูกเปิดโปงก็ออกมาให้ความรู้แก่ผู้คนเพื่อเป็นวิทยาทาน แต่ก็มีบางรายที่จมอยู่กับความผิดที่ตนก่อขึ้น จนไม่อาจดำเนินชีวิตต่อไปได้ มันอยู่ที่การบริหารจิตใจของแต่ละคน ซึ่งเราก็หวังว่าบทเรียนที่เขาได้รับจะทำให้เขากลับตัวกลับใจได้"
ส่วนประเด็นที่ สตช.มีการเปิดเผยชื่อเล่นของนักฟุตบอลที่ปฏิเสธการจ้างวาน และให้ข้อมูลเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นที่มาสู่การขยายผลจับกุมขบวนดังกล่าวนั้น "คุณโจ" ยืนยันว่า สมาคมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นกระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่น่าจะได้รับการยินยอมจากเจ้าตัวแล้ว
"การสืบสวนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางสมาคมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เรามีหน้าที่เพียงให้ข้อมูลเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่มีวิธีการที่รัดกุมมากพอ และได้รับการยินยอมจากพยานให้เปิดเผยได้"