TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 15
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 15
แผนการเล่น : 4-4-2
ประตู : ปฏิวัติ คำไหม (สมุทรปราการ ซิตี้)
"ไหม" โชว์ฟอร์มเซฟกระจายในแมตช์นี้ ทั้งลูกโอเพ่นเพลย์และจังหวะจุดโทษที่ซูเปอร์เซฟไว้ได้อย่างน่าทึ่ง แทบไม่มีจังหวะผิดพลาดทำให้แนวรับของ "เขี้ยวสมุทร" อุ่นใจได้ตลอด ทั้งที่ "สิงห์เจ้าท่า" มีโอกาสลุ้นประตูหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ปล่อยให้บอลไปซุกก้นตาข่ายเพียงลูกเดียวจากจังหวะที่หมดสิทธิ์ป้องกัน
กองหลัง : สุริยา สิงห์มุ้ย (สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด)
เติมเกมรุกริมเส้นฝั่งซ้ายได้มันส์สะเด่าดีเหลือเกิน ในเกมรับก็จัดการปีกของสุพรรณได้อยู่หมัด การบุกของ "กว่างโซ้ง" เทมาฝั่งซ้ายเกือบทั้งเกม "เทค" ถือเป็นคีย์แมนตยสำคัญในการคว้า 3 แต้มเต็มในรังเหย้านัดนี้
กองหลัง : ปริญญา อู่ตะเภา (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
คอยกระุตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้มีสมาธิอยู่ตลอดเวลา และสามารถรับมือกับกองหน้า "ฉลามชล" อย่าง ลูเคียน อัลเมด้า ได้พอฟัดพอเหวี่ยง 3 แต้มของ "นกใหญ่" ในเกมนี้ต้องยกเครดิตให้แผงกองหลังที่มี "กัปตันปิ่น" เป็นหัวใจหลัก
กองหลัง : จักพัน ไพรสุวรรณ (สมุทรปราการ ซิตี้)
"นุ้ก" เด่นสุดๆ ในเกมเปิดบ้านเฉือน "สิงห์เจ้าท่า" ประตูขึ้นนำ 1-0 ก็มาจากการเปิดลูกเตะมุมของเขา อีกทั้งยังเติมเกมรุกและครอสบอลสวยๆ ให้เพื่อนร่วมทีมได้ลุ้นหลายครั้ง ในเกมรับเองก็ทำได้ดีมากในการรับมือกับ บดินทร์ ผาลา หรือ ดราแกน บอสโควิช
กองหลัง : อดุลย์ หมื่นสมาน (พีที ประจวบ)
ถึงอายุจะปาเข้าไป 38 ปีเศษแล้ว แต่ "บังดุล" ยังวิ่งขึ้นลงแบบไม่มีอาการหมดแรงให้เห็น เกมริมเส้นของ ราชบุรี มาตันที่ฝั่งนี้หลายครั้ง ไม่ว่าจะ ฟิลิปป์ โรลเลอร์ หรือ สตีเว่น ล็องชิล ก็ไม่ได้ผ่านเขาไปง่ายๆ มีจังหวะเข้าบล็อกและคุมตัวสอดเติมได้ดีจนทำให้ทีมกลับมาคว้า 3 แต้มได้อีกครั้ง
กองกลาง: ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
มีบทบาทกับเกมเยอะมากในการทำเกมรุกทางริมเส้นฝั่งซ้าย นัดนี้ยิงประตูเบิกร่องจากการปั่นฟรีคิกเข้าประตู และยังแอสซิสต์ให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตั้งป้อมยิงประตูได้อีกลูก เหมาเตะลูกนิ่งทั้งฟรีคิกและเตะมุมแบบได้ลุ้นตลอด ถือเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าเท้าซ้ายของเขาไม่เป็นรองใครในเมืองไทยเหมือนกัน ณ เวลานี้
กองกลาง : มาริโอ ยูรอฟสกี้ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
แม้จะได้เล่นไปเพียงประมาณ 70 นาที แต่การลงสนามของ "ซูเปอร์มาริโอ" มีผลอย่างมากต่อชัยชนะของ "กิเลนผยอง" ในนัดนี้ ทั้งการดักจังหวะรอก่อนตักบอลให้ เฮแบร์ตี้ พุ่งโหม่งประตูแรก ก่อนที่จะเรียกใบเหลืองแดงจาก เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ ได้ตั้งแต่ครึ่งแรก จนทำให้สถานการณ์ของทีมได้เปรียบแบบสุดกู่
กองกลาง : อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด)
โดดเด่นเป็นพระเอกเลยทีเดียวสำหรับ "นนท์" ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมในเกมนี้ สร้างสรรค์โอกาสสวยๆ ได้จากทั้งการลากเลื้อยและผ่านบอลทะลุช่อง แทบทุกครั้งที่ได้บอลมักจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ และสมควรได้รับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ในการพา "แข้งเทพ" คว้าชัยเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน
กองกลาง : จอห์น บาจโจ้ (สุโขทัย เอฟซี)
บาจโจ้ ถือเป็น "เดอะแบก" ในเกมรุกของ "ค้างคาวไฟ" ขณะนี้ เวลาที่ทีมเปิดเกมรุกจะมีจุดเริ่มต้นจากดาวเตะมาดากัสการ์ แทบทุกครั้ง โดยอาศัยความเร็วและความคล่องแคล่ว คอยสวนกลับแบบได้น้ำได้เนื้อตลอด และมาเป็นคนซัดประตูชัยช่วยให้ทีมคว้า 3 แต้มในรังเขาพลองได้สำเร็จ
กองหน้า : ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ได้โอกาสลงสนามเป็นจริงอย่างต่อเนื่องสำหรับ "แบงค์" เด็กหนุ่มวัย 16 ปีเศษ และไม่ทำให้กองเชียร์ต้องผิดหวัง เมื่อยิง 1 และ แอสซิสต์อีก 1 ลูกให้กับพี่ชายแท้ๆ อย่าง ศุภโชค สารชาติ มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะมาก การเคลื่อนที่ยามไม่มีบอลน่าชื่นชมจริงๆ รวมถึงจังหวะตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายที่เด็ดขาดเกินวัย
กองหน้า : อิบสัน เมโล่ (สมุทรปราการ ซิตี้)
ดาวยิงอันดับ 1 ของทีม "เขี้ยวสมุทร" จัดการยิง 1 ประตูจากการโหม่งลูกเตะมุม และแอสซิสต์ให้ ธีระพล เยาะเย้ย ชาร์จจ่อๆ อีก 1 ลูก ถือเป็นกองหน้าที่สร้างสมดุลให้ทีมได้ดี ทั้งการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม และจังหวะจบสกอร์ที่หวังพึ่งพาได้เสมอ
เฮดโค้ช : เท็ตสึยะ มุรายามะ (สมุทรปราการ ซิตี้)
หลังจากที่ "โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ ลาออกไป ทำให้ประธานเทคนิคชาวญี่ปุ่น ต้องลงมานั่งเป็นกุนซือขัดตาทัพ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าสปิริตทีมจะสูญหายหรือไม่ แต่การคว้าชัย 2 นัดรวดก็เป็นบทพิสูจน์ได้อย่างดีว่าไม่มีสูญญากาศเกิดขึ้นในทีม "เขี้ยวสมุทร" นักเตะยังคงวิ่งสู้ฟัดเป็นมืออาชีพเช่นเคย และที่สำคัญ การวางแท็กติกเพื่อรับการมาเยือนของ การท่าเรือ ในเกมนี้ ถือว่า มร.เท็ตสึยะ ทำได้ดีกว่าที่คาดด้วยซ้ำ โดยเฉพาะหลังจากที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ก็ยังแก้เกมและปรับหมากจนยันสกอร์นำเอาไว้ได้ ซึ่งชัยชนะในแมตช์นี้น่าจะยิ่งเพิ่มพูนความมั่นใจให้กับเหล่านักเตะสมุทรปราการได้อีกมากทีเดียว