THSPORT Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 21
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 21
แผนการเล่น : 3-4-3
ประตู : อภิรักษ์ วรวงษ์ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
อาจจะเป็นผู้รักษาประตูที่ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงมากเท่าที่ควร แต่ต้องบอกเลยว่าการขึ้นมาในฐานะมวยแทนของ "สอง" นั้นสมควรเป็นมือหนึ่งตรงข้ามกับชื่อเล่นของเขาโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ช่วย "กว่างโซ้ง" ไม่ให้เสียประตูมาแล้วหลายครั้ง และเกมนี้เขาถือเป็นปราการด่านสุดท้ายที่มีบทบาทสำคัญในการเก็บคลีนชีทพร้อมกับชัยชนะของทีมแบบถล่มทลายเหนือ "ปราสาทสายฟ้า"
กองหลัง : อี วอน แจ(นครราชสีมา มาสด้า)
เซนเตอร์จอมเก๋าเลือดกิมจิ เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นในการจับคู่กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว นัดนี้เจ้าตัวยิงประตูเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำ ถือเป็นการคลายความกดดันให้ทีม ก่อนที่ท้ายที่สุด "สวาดแคท" จะกลับมาคว้าชัยนัดแรกในรอบ 7 นัดในเกมลีกได้สำเร็จเหนือทาง พีที ประจวบ
กองหลัง : บรินเนอร์ เฮนริเก้ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
เล่นเกมรับในบทบาทจอมทัพร่วมกับ ธนศักดิ์ และ ศราวุธ ได้เนียนตามากๆ เล่นเอาเกมรุกของ "ปราสาทสายฟ้า" แกะยังไงก็ไม่หลุด ถือเป็นเกมที่แนวรับทั้งแผงของ "กว่างโซ้ง" ทำผลงานได้สมบูรณ์แบบที่สุดในฤดูกาลเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นคนโหม่งประตูแรกจากลูกเตะมุมให้ทีมออกนำก่อนด้วย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมให้ตกเป็นของ เชียงราย ก่อนจะเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ
กองหลัง : จูเนียร์ โลเปซ (ชลบุรี เอฟซี)
ปราการหลังเลือดแซมบ้าถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาช่วยขันเกมรับของ "ฉลามชล" ให้เหนียวแน่นขึ้นแบบผิดหูผิดตา ในการจับคู่กับ ซอ มิน ตุน ได้อย่างลงตัว เกมนี้ถือเป็นเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยให้ ชลบุรี รักษาสถิติคว้าชัย 2 เกมรวดได้ ที่สำคัญคือการโค่นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมบุกอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด ซะด้วย
กองกลาง : จักรพันธ์ พรใส (ราชบุรี มิตรผล)
4 นัด 1 ประตู 7 แอสซิสต์ จะขออะไรได้มากไปกว่านี้จากนักเตะวัย 32 ปีที่แทบนั่งดูเพื่อนเล่นมาตลอดกับทีมเก่า แต่กับ ราชบุรี บทบาทของ "บอล" สำคัญกว่านั้นเยอะ นี่เป็นอีกเกมที่ จักรพันธ์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและกระหายต่อชัยชนะ แม้จะถูกสมุทรปราการออกนำไปก่อน 2-0 แต่ ราชบุรี พลิกกลับมายิงคืน 5 ลูกรวด โดยได้ 1 ประตู และ 2 แอสซิสต์ จากแข้งจอมเทคนิครายนี้
กองกลาง : ศิวกร จักขุประสาท (การท่าเรือ เอฟซี)
"กัปตันกลิ้ง" คุมจังหวะเกมแดนกลาง คอยออกบอล และตัดเกม รวมถึงมีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมทำได้ โดดเด่นมากๆ ในเกมที่ช่วยให้ "สิงห์เจ้าท่า" คว้าชัย 2 นัดติด ด้วยการบุกเชือด ตราด เอฟซี ถึงถิ่น การทำงานหนักของเขาช่วยให้แนวรุกมีอิสระในการเล่นมากขึ้น และช่วยแบ่งเบาภาระให้แผงกองหลังได้มากเช่นกัน
กองกลาง : อ่อง ตู (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
หลังจากเพิ่งเป็นพ่อคนได้หมาดๆ ดาวเตะทีมชาติเมียนมา เหมือนฟื้นคืนชีพทั้งฟอร์มการเล่นและความมั่นใจ รวมถึงความไว้เนื้อเชื่อใจจากเพื่อนร่วมทีม ด้วยความมุ่งมั่นขยันฝึกซ้อมเพื่อพิสูจน์ตัวเองของเจ้าตัว เมื่อได้รับโอกาสให้มีการแข่งขันภายในทีม อ่อง ตู ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นัดนี้ยิง 1 แอสซิสต์อีก 1 ให้ เฮแบร์ตี้ ดูเหมือนว่าคู่หู "ตู-ตี้" จะลงตัวที่สุดแล้วสำหรับ "กิเลนผยอง" ณ ชั่วโมงนี้
กองกลาง : จอห์น บาจโจ้ (สุโขทัย เอฟซี)
"เดอะแบก" แห่งทะเลหลวง นัดนี้ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม นัดนี้ทั้งสามประตูที่ สุโขทัย ทำได้ จอห์น บาจโจ้ มีส่วนร่วมทั้งหมด ตั้งแต่ประตูแรกที่ยิงไปติดเซฟก่อนที่ คัพฟ้า จะซ้ำเข้าไป รวมถึงลูกสองที่เปิดให้ เอียน แรมเซย์ โหม่งเน้นๆ จนกระทั่งลูกปิดท้ายที่ซัดจุดโทษเข้าไปเอง ตอนนี้คงพูดได้เลยว่าหาก สุโขทัย ไร้ บาจโจ้ ล่ะก็พิษสงคงหายไปเยอะเลยทีเดียว
กองหน้า : เลอันโดร อัสซัมเซา (นครราชสีมา มาสด้า)
"คิงอัสซ่า" กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง หากเกมไหนคู่ต่อสู้มาเปิดเกมรุกแลกและดันหลังสูง วันนั้นจะเป็นเกมที่ "สวาดแคท" จะน่ากลัวมากๆ เพราะความเร็วและความเฉียบคมของหัวหอกแซมบ้ารายนี้ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว นัดนี้ยิงคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ "สวาดแคท" คืนฟอร์มชนะเกมแรกในรอบ 7 นัดได้สำเร็จ
กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (เอสซีจี เมืองทองฯ)
ยิงประตูแรกด้วยเวลาเพียง 35 วินาที หลังจากนั้นก็แอสซิสต์ให้ อ่อง ตู ก่อนจะยิงมุมแคบปิดกล่อง ทำสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดการของไทยลีกเป็นอันดับ 3 ที่ 111 ประตู ฤดูกาลนี้เกมรุกของ "กิเลนผยอง" มี เฮแบร์ตี้ เป็นจุดเริ่มต้นแทบทุกจังหวะ และอาจจะพูดได้เลยว่า เฮแบร์ตี้ คือผู้เล่นที่เฉิดฉายที่สุดสำหรับไทยลีกนัดที่ 21 นี้
กองหน้า : บิลล์ โรซิมาร์ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
แข็งแกร่ง, ก้าวร้าว และ ดุดัน นั่นคือคาแร็คเตอร์ที่กองหน้าบราซิเลี่ยนมียามอยู่บนฟลอร์หญ้า นัดนี้จัดการกองหลังของ บุรีรัมย์ ที่ว่าแข็งแกร่งซะจนราบคาบ แม้แต่ ตูเนซ ก็ยังเป็นรองในการเข้าปะทะกับ บิลล์ และในที่สุด "ปราสาทสายฟ้า" ก็ถูกลงโทษด้วยการเหมายิงคนเดียว 2 ประตู อีกทั้งเขายังมีส่วนร่วมอยู่ตลอดในแทบทุกจังหวะเข้าทำของทีม "กว่างโซ้ง"
เฮดโค้ช : สมชาย ไม้วิลัย (ราชบุรี มิตรผล)
ไม่รู้ว่า "โค้ชเจี๊ยบ" กุนซือขัดตาทัพตลอดกาลของทัพ "ราชันมังกร" พูดอะไรกับนักเตะระหว่างช่วงพักครึ่ง แต่ผลลัพธ์ที่เห็นคือจากที่ตามหลัง 0-2 เกมในครึ่งหลังเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทั้งรูปแบบการเล่นและความกระหายของนักเตะ ราชบุรี ยิงคืน 5 ลูกรวดได้อย่างไม่น่าเชื่อใส่ทีมที่อยู่หัวตารางอย่าง "เขี้ยวสมุทร" การแก้เกมและการกระตุ้นผู้เล่นซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ยกระดับเกมได้ชัดเจนขนาดนี้ คงต้องขอยกตำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ให้เป็นรางวัล