THSPORT Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 22
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 22
แผนการเล่น : 4-4-2
ประตู : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
พีทีที ระยอง มีโอกาสเกือบส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้หลายครั้งโดยเฉพาะในครึ่งหลัง แต่เขาก็ยังโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบยืนถูกตำแหน่งคอยป้องกันไว้ได้หมด การมีนายด่านที่ผลงานสม่ำเสมอแบบนี้แถมชื่อเล่นยังเป็นมงคลว่า "แชมป์" ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการลุ้นแชมป์ของ "ปราสาทสายฟ้า" จริง ๆ
กองหลัง : ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
"เซฟ" กลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยเฉพาะเกมรับที่คอยรับมือ อมาดู อ๊วตตาร่า ไว้ได้แบบอยู่หมัด รวมถึงจังหวะเติมเกมรุกที่ขึ้นมาช่วยประสานงานกับ เฮแบร์ตี้ ได้อย่างลงตัวมากขึ้น ไม่แน่เหมือนกันหลังจบฤดูกาลนี้ "กิเลนผยอง" อาจจะทำเรื่องขอซื้อขาดมาร่วมทีมก็เป็นได้หากผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้
กองหลัง : อันเดรส ตูเนซ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ถือเป็นผู้นำทีมอย่างแท้จริง ปราการหลังทีมชาติเวเนซูเอล่า คอยสกัดกั้นเกมรุกของ "พลังเพลิง" ทั้งภาคพื้นดินและอากาศ ทั้งบล็อคทั้งเคลียร์บอลออกไปในจังหวะสำคัญอยู่เสมอ รวมถึงสั่งการแผงแนวรับของ "ปราสาทสายฟ้า" ให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จนพาทีมเก็บคลีนชีทได้สำเร็จ
กองหลัง : อัลบาโร่ ซิลบา (สุพรรณบุรี เอฟซี)
เป็นอีกเกมที่ปราการหลังลูกครึ่งฟิลิปปินส์-สแปนิช แสดงให้เห็นว่าเขาคือของจริง ดีกรีอดีตผู้เล่นระดับลา ลีกา สเปน วัย 35 นั้นไม่ใช่อุปสรรคเลย เพราะเขายังมีทั้งความแข็งแกร่งและจังหวะอ่านเกมที่แม่นยำ ประตูตีเสมอที่ทำได้เขาก็ขึ้นไปมีส่วนร่วมในจังหวะเตะมุม ทำให้ืทีม "ช้างศึกยุทธหัตถี" ทำสถิติไม่แพ้ใคร 6 เกมรวดเข้าไปแล้ว
กองหลัง : อดุลย์ หมื่นสมาน (พีที ประจวบ)
"บังดุล" อายุปาเข้าไป 38 แล้ว แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคแม้แต่น้อย เพราะความฟิตและวินัยในการเล่นเกมรับอยู่ในระดับมาตรฐานที่สูงมาก เกมนี้คอยป้องกันการครอสของผู้เล่นการท่าเรือ รวมถึงจังหวะเลี้ยงกินตัวก็แทบกินเขาไม่ได้เลย ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ "ต่อพิฆาต" แบ่งแต้มกับ "สิงห์เจ้าท่า" ได้สำเร็จ
กองกลาง : จักรพันธ์ พรใส (ราชบุรี มิตรผล)
นัดนี้บวกเพิ่มไปอีก 1 แอสซิสต์ ทำให้สถิติรวมของ "บอล" ในการลงเล่นให้ ราชบุรี 5 นัด ทำได้ 1 ประตูและ 8 แอสซิสต์เข้าไปแล้ว แม้เกมนี้จะออกสตาร์ทในช่วงครึ่งหลัง แต่การส่งแข้งวัย 32 ปีลงมา สร้างความแตกต่างให้เกมอย่างชัดเจน เกือบจะช่วยให้ทีมคว้าชัยได้แล้วด้วยซ้ำจนกระทั่งมาพลาดในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีสุดท้าย
กองกลาง : จอง มยอง โอ (สุโขทัย เอฟซี)
กลับมายืนมิดฟิลด์ตำแหน่งถนัดอีกครั้ง ดาวเตะเลือดกิมจิวิ่งเป็นม้าคอยมีส่วนร่วมกับเกมตลอดเวลา ทั้งการสกัดกั้นเกมรุกของคู่แข่ง คุมจังหวะช้าเร็วให้ทีม และยังแอสซิสต์ให้ เออร์วิน เฮอร์เรร่า ทำประตูได้อีกด้วย
กองกลาง : ยูกิ บัมบะ (ตราด เอฟซี)
แข้งซามูไรเล่นได้โดดเด่นมากๆ ในเกมที่มีบทบาทสำคัญทั้งการเชื่อมเกมระหว่างรับและรุก คอยผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมมีโอกาสลุ้นประตูอยู่เรื่อยๆ รวมถึงจัดการยิงเอง 1 ประตู พาทีม "ช้างขาวเจ้าเกาะ" บุกชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ ได้ถึงถิ่น
กองหน้า : สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
"เชค" เป็นผู้เล่นแนวรุกที่โดดเด่นที่สุดของ "ปราสาทสายฟ้า" ในเกมที่ช่วยพาทีมกลับมาทวงตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เล่นร่วมกับน้องชายอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ทำประตูชัยให้ทีมได้ การครอบครองบอลเลี้ยงตะลุยของเขาเรียกฟรีคิกให้ทีมได้ตลอด และสร้างความกังวลให้แนวรับ "พลังเพลิง" ต้องคอยซ้อนคอยประกบอยู่ตลอดทั้งเกม
กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (เอสซีจี เมืองทองฯ)
"เดอะแบก" เหมายิงคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ ทำให้ยิงได้รวม 10 ประตูแล้วในไทยลีก กลายเป็นเจ้าของสถิตินักเตะต่างชาติคนแรกที่ทำประตูได้ถึง 2 หลัก 6 ซีซั่นติดต่อกัน สถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดการของไทยลีกยังคงเป็นอันดับ 3 เพิ่มตัวเลขขึ้นไปที่ 113 ประตู ฤดูกาลนี้เกมรุกของ "กิเลนผยอง" มี เฮแบร์ตี้ เป็นจุดเริ่มต้นแทบทุกจังหวะอย่างแท้จริง
กองหน้า : ไคเก้ เวนานซิโอ (เชียงใหม่ เอฟซี)
"พยัคฆ์ล้านนา" ไม่ได้มีโอกาสจบสกอร์มากมาย แต่หัวหอกเลือดแซมบ้านำโอกาสที่น้อยนิดเปลี่ยนมาเป็นสกอร์ได้ถึง 2 ครั้ง แม้ช่วงท้ายเกมจะเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่น แต่ประตูีที่ ไคเก้ ทำได้นั้นก็ช่วยให้ทีมแบ่ง 1 แต้มกลับออกมาได้สำเร็จ
เฮดโค้ช : พยงค์ ขุนเณร (ตราด เอฟซี)
เกมที่บางพลี ถือเป็นแมตช์ 5 ดาวอีกนัดที่เข้มข้นมากๆ เกมพลิกไปพลิกมาผลัดกันนำผลัดกันตามอย่างสุดมันส์ ในสถานการณ์ที่สูสีการแก้เกมของกุนซือมีผลอย่างมาก เกมโต้กลับของ "ช้างขาวเจ้าเกาะ" ยังอันตรายเหมือนเคย และจังหวะสำคัญที่สุดของเกมคือช่วงนาทีสุดท้าย แม้จะถูกตีเสมอจนเกือบต้องแชร์แต้มกันแล้ว แต่ อ.พยงค์ ยังคงสั่งให้ลูกทีมบุกกดดันต่อ และในที่สุดก็มาได้ประตูชัยจาก ลอนซาน่า ดูมบูญ่า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ถือเป็นเกมที่ต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจของทั้งโค้ชและนักเตะของ ตราด เป็นอย่างมาก