THSPORT Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 24
11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 24
แผนการเล่น : 3-4-3
ประตู : วรวุฒิ ศรีสุภา (การท่าเรือ เอฟซี)
ชัยชนะของ "สิงห์เจ้าท่า" เหนือ สุพรรณบุรี ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เลย หาก "ปอนด์" ไม่โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง การยืนตำแหน่งและอ่านจังหวะออกมาตัดบอลทำได้ดี รวมถึงการออกบอลเร็วที่ทำให้ทีมได้โอกาสสวนกลับสวยๆ ก็มีให้เห็นบ่อยครั้งเช่นกัน
กองหลัง : นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
เติมเกมรุกเพลินตาดีเหลือเกินสำหรับ "หมวดต้น" จังหวะวิ่งตัวเปล่าโอเวอร์แล็ปขึ้นไปเพื่อเพิ่มชอยส์และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้ดีทั้งเกม รวมถึงยิงเองได้ 1 ลูกจากการซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมชนิดสวยงามหมดจดจริงๆ
กองหลัง : อัดนาน โอราโฮวัช (พีที ประจวบ)
ปราการหลังชาวมอนเตเนโกรเก็บลูกโด่งเรียบ กองหน้าของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่สามารถโจมตีลูกกลางอากาศใส่ "ต่อพิฆาต" ได้เลย รวมถึงลูกภาคพื้นดินก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม คอยเป็นผู้นำในแนวรับ เน้นการคอมแพ็คเกมซึ่งทำให้แนวรุกของ "แข้งเทพ" แทบจะไร้พิษสงไปเลยทีเดียว
กองหลัง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)
ฟอร์มปัจจุบันของ "ตั้ม" นั้นกลายเป็นยอดกองหลังของเมืองไทยไปแล้ว โดยเฉพาะการจับคู่กับ เอเลียส ดอเลาะห์ ซึ่งทำหน้าที่ตัวชนได้ดี ทำให้ ธนบูรณ์ ควบคุมจังหวะในแนวรับและอ่านเกมได้อย่างลงตัว เชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้ลิสต์รายชื่อทีมชาติไทยของ นิชิโนะ น่าจะมี ธนบูรณ์ อยู่ในแคนดิเดตกองหลังด้วยแน่นอน
กองกลาง : สหรัฐ กันยะโรจน์ (พีทีที ระยอง)
"เมสซี่ฟาร์ม" พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งถึงคลาสบอลที่สุดอัศจรรย์ จังหวะคล้องบอล คอนโทรลบอลต่างๆ เหมือนมีตะขอติดอยู่ที่ข้อเท้า วิชั่นส์และจินตนาการในการเล่นก็เหนือชั้นเหลือเกิน นัดนี้มีจังหวะโชว์ทักษะม้วนหนีคู่แข่งจากมุมแคบแล้วไขว้ขาจ่ายบอลแบบสุดเหนือชั้น สปอตไลท์เกมที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม นัดนี้ส่องสว่างไปที่ดาวเตะจากลำพูนคนนี้แบบจัดเต็มเลยทีเดียว
กองกลาง : สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
การเล่นร่วมกับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น้องชายแท้ๆ ทำให้ "เชค" ยิ่งโดดเด่นมากขึ้นไปอีก ตอนนี้ถือเป็นกลางรุกที่ "ปราสาทสายฟ้า" จะขาดไปไม่ได้เสียแล้ว นัดนี้ทำหนึ่งประตู และมีส่วนร่วมกับเกมรุกแทบทุกจังหวะ ในชัยชนะที่ถล่มทลายเหนือ ราชบุรี ถึง 6-0
กองกลาง : รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ออกบอลง่ายๆ คอยดีเลย์เกมรุกคู่แข่ง คุมจังหวะในแดนกลาง นี่คือจ๊อบที่ "เกม" ได้รับมอบหมาย ซึ่งเจ้าตัวก็รับผิดชอบได้เป็นอย่างดีทุกหน้าที่ แถมยังซัดเองได้อีก 1 ประตูด้วยจากการเก็บตกบอลแถวสองและซัดเต็มข้อตุงตาข่ายอย่างงดงาม
กองกลาง : บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)
ชัยชนะนัดที่ 4 ในรอบ 5 เกมที่ไม่แพ้ใครของ "สิงห์เจ้าท่า" ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้ปีกเจ้าของฉายา "โดมมาเรีย" ผู้นี้ไม่น้อยเลย เพราะหลังจากที่ทีมเก็บชัยชนะนัดแรกตอนที่ "โค้ชโชค" เข้ามาคุมใหม่ๆ บดินทร์ ก็เร่งฟอร์มและความมั่นใจของตัวเองกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว นัดนี้มีส่วนร่วมกับ 2 ประตูแรกที่ทีมทำได้ ซึ่ง ท่าเรือ ถือเป็นทีมแรกที่เจาะประตู สุพรรณ ได้เกิน 1 ลูกนับตั้งแต่เริ่มเลกสองเป็นต้นมา
กองหน้า : ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แม้ไม่ได้เล่นเต็มเกม แต่ 65 นาที ที่ "แบงค์" เด็กหนุ่มวัยเพิ่ง 17 ปีได้ไม่นานลงไปวาดลวดลายในสนามนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง นัดนี้ยิงประตูเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่หัววัน แล้วยังแอสซิสต์ให้ สุภโชค พี่ชายทำได้อีกหนึ่งประตูอีกด้วย มีรายงานข่าวว่า นิชิโนะ เรียกทั้งพี่ทั้งน้องไปติดทีมชาติไทยชุด 35 คนแรก ซึ่งด้วยฟอร์มเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจเลย
กองหน้า : ดิยุฟ บีรัม (ตราด เอฟซี)
มีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตูที่ตราดบุกไปชนะ เชียงใหม่ ถึง 3-1 ทั้งลูกแรกที่โยนไปให้ ดูมบูย่า ยิงจ่อๆ ต่อด้วยลูกสองที่พลิกเข้าเขตโทษก่อนไหลให้ ดูโรซินมี่ จบสกอร์ และปิดท้ายด้วยการทำประตูตอกฝากโลงให้ "ช้างขาวเจ้าเกาะ" เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ
กองหน้า : อิบสัน เมโล่ (สมุทรปราการ ซิตี้)
หลังจากไม่ชนะใครมา 4 นัดรวด เกมนี้หัวหอกเลือดแซมบ้าสวมบทฮีโร่ยิงคนเดียว 2 ประตู ทั้งลูกเบิกร่องที่หลุดเข้าไปแตะหลบผู้รักษาประตูก่อนจบสกอร์อย่างเยือกเย็น รวมถึงอีกลูกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่กลายเป็นประตูชัยแซงกลับมาชนะ ชัยนาท ไปได้แบบสุดมันส์
เฮดโค้ช : เท็ตสึยะ มุรายามะ (สมุทรปราการ ซิตี้)
หลังจากแพ้รวดมา 4 เกมติด มีกระแสข่าวลือสะพัดว่าบอร์ดบริหารกำลังไม่ไว้วางใจกุนซือขัดตาทัพรายนี้ ซึ่งเกมนี้หากแพ้อีกก็อาจมีผลสั่นคลอนเก้าอี้ของเจ้าตัวเช่นกัน ในเกมที่สูสีและกดดันสุดๆ รวมถึงรูปเกมที่ ชัยนาท เจ้าถิ่นบุกกดดันเข้าใส่อย่างหนัก เท็ตสึยะ ตัดสินใจส่ง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยลงสนามในนาที 70 และเกมของ "เขี้ยวสมุทร" ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พลิกสถานการณ์แซงกลับมาคว้าชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3-2