อาร์มี่ ยูไนเต็ด ดวลโทษล้มเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ผงาดแชมป์โซนกทม. ศึกบอล "โค้กคัพ"
การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รายการ "โค้กคัพ" ครั้งที่ 21 รอบคัดเลือกกลุ่ม 1 โซนกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-27 ส.ค.62 ที่สนามเกร็กคู สายไหม มี 12 ทีมเข้าร่วมชิงชัยเพื่อหาตัวแทนหนึ่งเดียวผ่านเข้าสู่รอบชิงแชมป์ประเทศไทย
"สุภาพบุรุษวงจักร" อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมม้ามืดประจำโซนกรุงเทพฯ ปีนี้ ที่แข้งแกนหลักเป็นเด็กนักกีฬาจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ทีมฟุตบอลขาสั้นชื่อดังระดับประเทศ พบ "กิเลนน้อย" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองแชมป์ประเทศเมื่อปีที่แล้วที่นำทัพมาโดย "กรวิชญ์ ทะสา" ดาวรุ่งฟอร์มแรงที่ขึ้นชุดใหญ่ของเอสซีจี เมืองทองฯ ลงแข่งขันในระดับไทยลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ครึ่งแรกนาทีที่ 8 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่แผงมิดฟิลด์ทำเกมขึ้นมาในกรอบเขตโทษ แนวรับของอาร์มี่เตะสกัดทิ้งไม่ดีมาเข้าทางของ กรวิชญ์ ทะสา แปด้วยซ้ายเล่นทางสวนไปหวังเข้าเสาสอง แต่บอลหลุดออกนอกกรอบไป
น.20 ฝั่ง อาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา อภินันท์ แวงวรรณ เปิดเข้าเขตโทษมาโดนกองหลังของเอสซีจีฯ โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง ณรงค์ศักดิ์ แซ่เก้า ผู้เล่นอาร์มี่ฯ ที่ยืนอยู่กลงหัวกระโหลกวอลเลย์เต็มข้อ บอลพุ่งเข้ามุมจน โสภณวิทย์ รักชาติ ผู้รักษาประตูของกิเลนน้อยต้องบินไปปัดทิ้ง
น.38 อาร์มี่ ได้ลูกทุ่มทางกราบขวา บอลมาถึง พรสวัสดิ์ สอนนายอ ปีกร่างเล็กใช้ความคล่องตัวพาบอลสปีดหนีผู้เล่นของเอสซีจี เมืองทองฯ สองคนเข้าเขตโทษก่อนยิงยัดข้างเสาแรกเต็มแรงชนิด โสภณวิทย์ รักชาติ ของกิเลนน้อยเซฟไม่อยู่ เป็นประตูขึ้นนำของ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 1-0 ทำเอแฟนๆ เอสซีจี เมืองทองฯ แชมป์เก่าประจำโซนกรุงเทพฯ นี้และรองแชมป์ประเทศปีที่แล้วเงียบทั้งสนาม ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลัง น.53 เอสซีจี เมืองทองฯ ตามตีเสมอ 1-1 จากการบุกขึ้นทางกราบซ้าย ก่อนบอลจะถูกโยนเข้ากลางเขตโทษมาแล้วเป็นจังหวะชุลมุน ลูกมาเข้าเท้าซ้ายของ ปัณณวัชร์ โชติจิรชัยธรณ์ ปีกที่ตัวเล็กที่สุดในสนามซึ่งเพิ่งถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง ยิงเรียดหนีมือผู้รักษาประตูของอาร์มี่ ยูไนเต็ด เข้าไป
น.57 อาร์มี่ เกือบขยับหนีเป็น 2-1 จากลูกเปิดจากริมเส้นฝั่งขวา บอลลอยโด่งขึ่งกลางอากาศในเขตโทษและเป็น ปกป้อง ฉวีสุข ศูนย์หน้าตัวเป้าของทีมสุภาพบุรุษวงจักรกระโดดเทกตัวขึ้นโหม่ง บอลย้อยชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
น.69 แข้งกิเลนน้อยบุกขึ้นทางขวา นิพิฐพนธ์ แสงสุข วิงแบ็กของทีมตักบอลเข้ากลางแต่เลยหัวของ กรวิชญ์ ทะสา ไปโดนหัวของ พุฒิพงศ์ ประสพศิลป์ กองหลังของอาร์มี่เปลี่ยนทางเกือบจะเข้ประตู แต่ยังดีที่ เกียรติพล อุดม ของอาร์มี่ยังพุ่งปัดทิ้งได้ทัน จากนั้นบอลยังไม่ตาย เอสซีจีฯ ตามมาเก็บบอลได้ และเป็น วุฒิศักดิ์ ศรีชัย ตามยิงซ้ำ ก่อน เกียรติพล อุดม ยังกระโดดปัดออกหลังไปอย่างสุดยอด ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถทำอะไรกันได้เพิ่ม จบ 90 นาทีเสมอกันไป 1-1 ต้องทำการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
น.118 ศรายุทธ อยู่สืบเชื้อ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาใหม่ของเอสซีจี เมืองทองฯ พาบอลกระชากเข้าหัวกระโหลกมาก่อนทำชิ่งกับ ธีรภัทร แก้วผึ่ง หลุดแผงแนวรับอาร์มี่ ศรายุทธ เข้าไปเดี่ยวๆ กับ เกียรติพล อุดม ผู้รักษาประตูของอาร์มี่ ทว่า ศรายุทธ แปหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย พลาดโอกาสยิงประตูปิดเกมให้กับทีมอย่างน่าเสียดาย หมดเวลา 120 นาทียังทำไรกันไม่ได้ เสมอกันไป 1-1 ต้องดวลลูกโทษตัดสินหาทีมแชมป์
สำหรับในช่วงของการดวลลูกโทษปรากฎว่าผู้เล่นสองคนแรกของเอสซีจี เมืองทองฯ ได้แก่ นิพิฐพนธ์ แสงสุข และ หัสวรรษ นพเนตร ยิงติดเซฟของ เกียรติพล อุดม ผู้รักษาประตูของอาร์มี่ ยูไนเต็ด ขณะที่ทางฝั่งของแข้งสุภาพบุรุษวงจักรไม่มีใครพลาดเป้า ส่งผลให้จบการดวลเป็นทาง อาร์มี่ ยูไนเต็ด เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 4-2 หลังเสมอในเวลา 90 นาที 1-1 อาร์มี่ ยูไนเต็ด โค่นแชมป์รองแชมป์ประเทศไทยปีที่แล้วและคว้าแชมป์ประจำกลุ่ม 1 โซนกรุงเทพมหานครพร้อมได้สิทธิ์ไปแข่งขันในรอบชิงแชมป์ประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้โปรแกรมการแข่งขันรอบคัดเลือกลุ่มต่อไปได้แก่ กลุ่มที่ 2 หรือ โซนภาคใต้ ซึ่งจะมี 14 ทีมร่วมชิงชัยในระหว่างวันที่ 18-26 กันยายน 2562 ณ จังหวัดสตูล สามารถติดตามผลการแข่งขันได้จากหนังสือพิมพ์สยามกีฬา, เว็บไซต์ siamsport และ เพจ siamsport today
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรก
อาร์มี่ ยูไนเต็ด : เกียรติพล อุดม (ผู้รักษาประตู), ณัฐชัย รักกำเหนิด, ณัฐพงศ์ นาคพิทักษ์, พุฒิพงศ์ ประสพศิลป์, วสวัฒน์ หมัดอะดั้ม, อนุวัฒน์ มาตะราช, อภินันท์ แวงวรรณ, จักรพงษ์ ผลมาตย์, ปกป้อง ฉวีสุข, พรสวัสดิ์ สอนนายอ และ ณรงค์ศักดิ์ แซ่เก้า
เอสซีจีเ ยูไนเต็ด : โสภณวิทย์ รักชาติ (ผู้รักษาประตู), นิพิฐพนธ์ แสงสุข, ณฐพล ศรีสวัสดิ์, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ, ปฐมพร เพ็ชรรัตน์, หัสวรรษ นพเนตร, อรชุน ช่างม่วง, กรวิชญ์ ทะสา, วุฒิศักดิ์ ศรีชัย, เวทิต สืบเหม และ ปรุฬห์ฤทธิ์ สิงห์โนน