11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 ประจำสัปดาห์ที่ 3
แผนการเล่น : 3-4-3
ประตู : สหวิทย์ ขำเปี่ยม (สุพรรณบุรี เอฟซี)
สัปดาห์นี้อาจจะมองหาตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมไม่ง่ายนัก เพราะบางรายที่โชว์ฟอร์มเซฟอุตลุดแต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหวโดนคู่แข่งเจาะประตูอยู่ดี แต่เท่าที่ได้ดูจบครบทุุกคู่ "เจ้าเยี่ยม" สหวิทย์ ขำเปี่ยม ที่ได้รับโอกาสลงเป็นด่านสุดท้ายให้ "ช้างศึกยุทธหัตถี" แทนที่ พาทริค เดย์โต้ ก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมไม่น้อย ในการยืนตำแหน่งป้องกันประตูแบบไม่ปล่อยให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นตลอด 90 นาที รวมถึงมีจังหวะเซฟยากๆ ให้เห็นอยู่บ้าง หากรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ ลูกชายของ ชัยยงค์ ขำเปี่ยม อดีตนายด่านทีมชาติไทยก็มีลุ้นยึดตำแหน่งตัวจริงได้เหมือนกัน
กองหลัง : คาร์ลี เดอ มูร์ก้า (ชลบุรี เอฟซี)
ในวันที่ ชลบุรี ขาด จูเนียร์ โลเปซ กองหลังลูกครึ่งฟิลิปปินส์-สแปนิช ต้องสวมบทเป็นลีดเดอร์ในเกมรับ และเขาทำได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งเกมป้องกันที่รับมือ เดนนิส มูริลโล่ ได้ดีมากๆ ทั้งภาคพื้นดินและกลางอากาศ แถมยังขึ้นมาทำประตูให้ทีมตีเสมอ 1-1 จากจังหวะชุลมุนในกรอบเขตโทษ ถือเป็นฤดูกาลแรกในไทยลีกที่น่าจับตามองมากๆ สำหรับแข้งรายนี้เลยทีเดียว
กองหลัง : เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
สร้างความมั่นใจให้เพื่อนร่วมทีมได้ตามมาตรฐาน เก็บกินได้เกือบทุกจังหวะในเกมป้องกัน ช็อตที่เข้าตามากๆ คือการวิ่งเบียดแซงมาแซะบอลออกจากเท้า ชญาวัต ศรีนาวงศ์ ในจังหวะที่กำลังจะได้ซัดจ่อๆ และที่สำคัญ เขาคือผู้ทำประตูชัยให้ "แข้งเทพ" บุกไปเก็บ 3 แต้มเหนือ "เขี้ยวสมุทร" ได้ถึงถิ่นบางพลีอีกด้วย
กองหลัง : ฟิลิปป์ โรลเลอร์ (ราชบุรี มิตรผล)
เติมเกมบุกมันเหลือเกินสำหรับกัปตันทีมลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ประสานงานเกมรุกกับเพื่อนร่วมทีมได้น่าตื่นตาตื่นใจมาก คอยกระตุ้นทุกคนในทีมอยู่ตลอดเวลา เป็นจุดเริ่มต้นของประตูตีเสมอ 2-2 ก่อนจะโชว์ลีลาตีนตะขอล็อกบอลมายิงด้วยเท้าซ้ายอย่างเด็ดขาดให้ "ราชันมังกร" แซงขึ้นนำ 3-2 ก่อนจะร่วมฉลองกับเพื่อนร่วมทีมในท้ายที่สุดด้วยชัยชนะสุดเหลือเชื่อ 4-3 เหนือ "ปราสาทสายฟ้า"
กองกลาง : สตีเว่น ล็องจิล (ราชบุรี มิตรผล)
ดาวเตะมาร์ตินิก รักษามาตรฐานปีกเบอร์ต้นๆ ในไทยลีกไว้ได้อย่างสม่ำเสมออีกครั้ง การกระชากลากเลื้อยและบอลครอสจากด้านข้างของเขาเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง นัดนี้เขามีส่วนร่วมถึง 3 ประตูที่ทีมทำได้ แถมเป็นการแอสซิสต์โดยตรง 2 ลูก โดยเฉพาะประตูชัยที่เจ้าตัวโต้กลับเร็วก่อนเปิดได้อย่างแม่นยำให้ ปาตีโญ่ ได้เลือกแปจ่อๆ อย่างง่ายดายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
กองกลาง : สุมัญญา ปุริสาย (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
โชว์คลาสบอลที่เหนือชั้นสุดๆ ในการสร้างสรรค์เกมรุก "ตั๊ก" เด่นกว่ากองกลางทุกคนในสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม 2 ประตูแรกที่ทีมทำได้ ก็มาจากการแอสซิสต์ของเจ้าตัวล้วนๆ ลูกแรกเปิดฟรีคิกไปให้ อิร์ฟาน ฟานดี้ ซ้ำจ่อๆ ก่อนจะปั่นไซด์ก้อยอย่างสุดสวย ทะลุไลน์แบ็คให้ ดาเนี่ยล โตติ หลุดเข้าไปยิงง่ายๆ เรียกได้ว่าเกมแดนกลางของ บีจี ที่เขาร่วมปั้นเกมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ นัดนี้เล่นเอา โปลิศ เทโร หมดสิทธิ์ใช้เกมสวนกลับเร็วหรือมีเวลาตั้งเกมได้เลย
กองกลาง : กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)
ทำประตูได้เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันสำหรับ "เจ้าโจ๋" นัดนี้เป็นคนซัดประตูโทนให้ทีมคว้าชัยเหนือ พีที ประจวบ ซะด้วย นอกจากนั้นจังหวะการผ่านบอลทั้งแนวลึกและทางกว้างก็ทำได้สวยๆ หลายต่อหลายจังหวะ เป็นโอกาสดีมากๆ ของเจ้าตัวที่ปีนี้จะกลับมาพิสูจน์คุณค่าของตัวเองในไทยลีกอย่างเต็มตัวได้อีกครั้ง
กองหน้า : สิโรจน์ ฉัตรทอง (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
"ปีโป้" ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง และไม่ทำให้ "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน, เพื่อนร่วมทีม และ แฟนบอลต้องผิดหวัง ในการลงพบกับอดีตต้นสังกัดที่เขาเคยขัดเกลาฝีเท้าในสมัยวัยละอ่อน สิโรจน์ ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายในการเบียดปะทะ มีสปีดความเร็วในการไปกับบอลและสร้างโอกาสสวยๆ ให้ทีมได้อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสโหม่งเต็มกบาลเกือบเป็นประตูอยู่ครั้งหนึ่งแต่ติดเซฟโกลอย่างน่าเสียดาย ก่อนจะมาหลุดไปยิงตอกฝาโลงให้ "กระต่ายแก้ว" เก็บ 3 แต้มได้อย่างสวยงามยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้กับ โปลิศ เทโร
กองหน้า : แฮร์ริสัน ไคออน (ชลบุรี เอฟซี)
เคลื่อนที่หาช่องว่างให้เพื่อนจ่ายบอลเพื่อสร้างโอกาสทำประตูตลอดทั้งเกม ไคออน เป็นจุดเริ่มต้นในประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนเหมายิงคนเดียว 2 ประตู ให้ทีมกลับมาแซงชนะ นครราชสีมา ได้อย่างเด็ดขาด 3-1 น่าเสียดายที่เขาน่าจะทำแฮททริคแรกในไทยลีกไปแล้วด้วยซ้ำ จากจังหวะที่ได้บอลทะลุช่องโดย ธีรเทพ วิโนทัย หลุดเดี่ยวไปดวลกับ แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม นายด่าน "สวาดแคท" แต่จังหวะกระดกบอลดันลั่นแรงเกินไป แต่ก็ถือว่า 2 ประตูที่เขาทำได้ช่วยให้ "ฉลามชล" กลับมาอยู่ในกลุ่มบนของตารางได้อีกครั้ง
กองหน้า : ฆาเบียร์ ปาติโญ่ (ราชบุรี มิตรผล)
รีเทิร์นกลับมาเจออดีตต้นสังกัดเก่า แม้จะถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง แต่ "ปาตีโกล" กลายเป็นตัวโจ๊กเกอร์สุดสำคัญ เพราะมีส่วนร่วมถึง 3 จาก 4 ประตูที่ทีมทำได้ในนัดนี้ เมื่อใดที่บอลอยู่กับเท้าของเขาในเกมนี้ทำให้รู้สึกดูเหมือนจะมีอะไรดีๆ ให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้ลุ้นเสมอ แถมยังกลายเป็นซูเปอร์ซับ ซัดประตูชัยได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บได้อีกด้วย
เฮดโค้ช : สมชาย ไม้วิลัย (ราชบุรี มิตรผล)
เปิดหัว 3 เกมแรกในไทยลีกด้วยการคว้า 9 แต้มเต็ม ชื่อของ "โค้ชเจี๊ยบ" สมชาย ไม้ิวิลัย อาจจะไม่ได้มีไลเซนส์การันตี แต่ยามนี้หากนึกถึง "ราชันมังกร" เขาน่าจะเป็นโค้ชที่รู้ทุกเรื่องภายในทีมมากที่สุด ในเกมสุดมันส์ที่ ราชบุรี พลิกนรกกลับมาแซงชนะ บุรีรัมย์ ไปได้ 4-3 การเปลี่ยนตัวผู้เล่นอย่าง ฆาเบียร์ ปาตีโญ่ ลงมาในครึ่งหลัง ถือเป็นทีเด็ดที่พลิกสถานการณ์ของเกมอย่างแท้จริง ครึ่งแรก ราชบุรี อาจจะเล่นแบบเกรงศักดิ์ศรี "ปราสาทสายฟ้า" มากไปหน่อย แต่พอครึ่งหลังกลับมาเล่นในสไตล์ของตัวเองและยิงประตูตีไข่แตกได้เร็ว ก็ทำให้ความมั่นใจกลับคืนมาและนำพาไปสู่การคว้า 3 แต้มสุดล้ำค่าได้สำเร็จ ต้องยกเครดิตให้ทั้งผู้เล่นทุกคนรวมถึง "โค้ชเจี๊ยบ" ด้วยที่สามารถรวบรวมสมาธิและหัวจิตหัวใจให้กลับมาสู่เกมได้
