ตลอดหลายปีที่ผ่านมาวงการลูกหนังไทย มีเหล่าแข้งต่างชาติจากหลายทวีปย้ายมาสร้างชื่อเสียงมากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อค้าแข้งจากโซนอเมริกาใต้ ที่ยังคงเป็นที่นิยมของสโมสรไทยลีก ในการคว้าตัวพวกเขามาเป็นอาวุธเด็ดของทีม และนี่คือเหล่านักเตะต่างชาติจากอเมริกาใต้ ที่โชว์ฝีเท้า และสร้างประวัติศาสตร์จนเป็นที่จดจำของแฟนบอลในไทยลีก
ลูคัส ดาเนียล - อาร์เจนตินา
เขาคือหนึ่งในผู้รักษาประตูชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของวงการลูกหนังไทยในอดีต…
ลูคัส จัดเป็นผู้รักษาประตูมากคุณภาพ สร้างชื่อโด่งดังกับ ศรีราชา เอฟซี นอกจากนี้ยังเคยผ่านการเฝ้าเสาให้สโมสรในลีกเมืองไทยมากมายทั้ง สมุทรสงคราม เอฟซี , ศรีสะเกษ เอฟซี , อาร์มี ยูไนเต็ด , ยาสูบ เอฟซี , สินธนา ,กบินทร์บุรี เอฟซี , ลูกพ่อขุน ยูไนเต็ด และ MOF ศุลกากร ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ราชประชา เมื่อปี 2018
จอมหนึบชาวอาร์เจนตินา ยังเป็นที่รู้จักกับการสร้างความฮือฮาอยู่เสมอหลังเคยขึ้นไปโขกทำประตูช่วย ศรีราชา เอฟซี ตีเสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-2 (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน) เมื่อปี 2011 ขณะที่ฤดูกาล 2014 สมัยค้าแข้งกับ ศรีสะเกษ เอฟซี เคยสวมบทฮีโร่โหม่งพาทีมตีเสมอ เอสซีจี เมืองทองฯ 1-1
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้แฟนบอลจำเขาได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์เดือดในปีเดียวกัน ซึ่งเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องกับขอนแก่น เอฟซี หลังเจ้าตัวสาวหมัดใส่ “โค้ชหนุ่ย”เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือ กูปรีฯ ในเวลานั้นจนคิ้วแตกเย็บ 2 เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ก่อนจะถูกสโมสรยกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา
มาริโอ ดา ซิลวา - บราซิล
กองหลังจอมแกร่งรายนี้มีฝีเท้าโดดเด่น เขาเปนผู้เล่นที่อ่านเกมได้ดีเข้าบอลหนักหน่วง และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญที่พา การท่าเรือ เอฟซี ในยุค โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ คุมทัพ ที่ไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถัง เถลิงบัลลังก์แชมป์เอฟเอ คัพ 2009 และ โตโยต้าลีก คัพ 2010 อย่างยิ่งใหญ่
หลังแยกทางกับ “สิงห์เจ้าท่า” มาริโอ ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทย โดยย้ายไปเล่นกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด , ระยอง เอฟซี และ ขอนแก่น เอฟซี ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดที่ประเทศบราซิล
อันเดรส ตูเญซ - เวเนซูเอลา
ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือกองหลังต่างชาติที่ดีที่สุดคนหนึ่งของไทยลีก ตูเญซ หอบโปรไฟล์หรูดีกรีแข้งลาลีกา สเปน กับ เซลตา บีโก ย้ายมาเผชิญความท้าทายครั้งใหม่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งแดนอีสานในปี 2014
เขาเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง ดุดัน และมีความเป็นผู้นำสูง โดยเฉพาะเรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจ หลายครั้งเรามักเห็นเขาดูขึงขังขู่คู่แข่งอย่างเกรี้ยวกราด ตูเญซ ตอบแทนความไว้ใจของ ปราสาทสายฟ้า ได้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เขาพาต้นสังกัดคว้าแชมป์เป็นว่าเล่น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนักเตะชุดประวัติศาสตร์คว้า 5 แชมป์ ในฤดูกาลเดียว เมื่อปี 2015 อีกด้วย
ปัจจุบัน ตูเญซ ยังคงค้าแข้งกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และรอวันที่จะพา ปราสาทสายฟ้า กลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้ง
อันแดร์สัน โดส ซานโตส - บราซิล
ย้อนกลับไปในปี 2010 กองหลังชาวบราซิลเลียน เป็นผู้เล่นต่างชาติยุคแรกๆของ บุรีรัมย์ พีอีเอ(บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน) ก่อนช่วยทีมซิวแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกในปี 2011
ฤดูกาล 2012 อันแดร์สัน โดส ซานโตส หรือ “คานู” ย้ายมาสร้างชื่อโด่งดังกับ ชลบุรี เอฟซี เขากลายเป็นที่รักของแฟนฉลามชล ในเวลารวดเร็วจากสไตล์การเล่นที่น่าประทับใจ เขาคือฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ยอดทีมเมืองน้ำเค็มมีเกมรับแข็งแกร่งขึ้นทันตา อีกทั้งเป็นตัวหลักของสโมสรตลอด 5 ปี ในถิ่นชลบุรี สเตเดียม
หลังจบฤดูกาล 2016 เขาตัดสินใจจะอำลา ฉลามชล ไปค้าแข้งกับ ชิมิสุ เอสพัลส์ ในญี่ปุ่น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเล่นงาน และมาตรฐานที่สูงทำให้เขาไม่สามารถแย่งพื้นที่ตัวจริงได้ ก่อนกลับมาเล่นให้ สุพรรณบุรี เอฟซี ในปี 2018 และถูกปล่อยตัวออกจากทีมในเลกสองฤดูกาล 2019
เลอันโดร อัสซัมเซา - บราซิล
อีกหนึ่งแข้งจากโซนอเมริกาใต้ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมายาวนาน อัสซัมเซา ผ่านการค้าแข้งกับ เชียงราย ยูไนเต็ด , ชลบุรี เอฟซี , ศรีสะเกษ เอฟซี , เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด , แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เขามีทั้งความเร็ว จบสกอร์คม และคล่องตัวสูง ที่สำคัญยังมีทีเด็ดลูกนิ่งให้ได้ลุ้นเสมอ จัดเป็นแข้งมากคุณภาพหาตัวจับยาก
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เล่นรายที่ 8 ของประวัติศาสตร์ไทยลีกที่ยิงครบ 100 ประตู ต่อจาก พิภพ อ่อนโม้ , ศรายุทธ ชัยคำดี , เคลตัน ซิลวา , ธีรศิลป์ แดงดา , ดิโอโก หลุยส์ ซานโต , เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส และ ดราแกน บอสโควิช
ปัจจุบัน “อัสซา” เข้าสู่การค้าแข้งในไทยลีกเป็นปีที่ 8 กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
วิคเตอร์ อมาโร - บราซิล
วิคเตอร์ อมาโร ย้ายมาค้าแข้งในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2010 กับ ศรีสะเกษ เอฟซี ก่อนกลายเป๋นสโมสรที่สร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จังของวงการฟุตบอลไทย
ฝีเท้าของกองกลางชาวบราซิลเป็นที่ประทับใจของแฟนบอลเปี่ยมด้วยความแข็งแกร่ง ผ่านบอลแม่น รวมถึงหัวใจที่จงรักภกดีกับสโมสรจนถูกตั้งฉายาว่า “มิสเตอร์กูปรี” โดยเล่นในถิ่น ศรีนครลำดวลนานถึง 5 ปี ก่อนจะอำลาทีมไปเล่นกับ หนองบัวพิชญ เอฟซี และ กระบี่ เอฟซี ตามลำดับ
โดยปี 2019 เพื่อจะย้ายไปเล่นกับ ลาว โตโยต้า และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จ ปัจจุบัน วิคเตอร์ อมาโร่ ตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นที่ในเมืองไทยอีกครั้งกับ ตรัง เอฟซี ในไทยลีก 3
วานเดอร์ หลุยส์ - บราซิล
ด้วยฝีเท้า และประสบการณ์ในลีกบ้านเกิด เขาถูกมองว่า มีดีพอที่จะค้าแข้งในลีกที่ใหญ่กว่าเมืองไทย แต่ วานเดอร์ หลุยส์ ตัดสินใจย้ายมาเล่นในไทยลีกกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2017
ลีลาลากเลื้อยของเขาจัดจ้าน เขาคือผู้เล่นที่กองหลังทุกทีมไม่อยากต่อกรด้วย วานเดอร์ หลุยส์ ช่วย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสร์คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ มาครองไปเป็นหนแรกพร้อมได้สิทธิ์ไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรก นอกจากนี้เขายังทำไป 9 ประตู และ 15 แอสซิสต์ จาก 35 นัด รวมทุกรายการ
หลังจากนั้นเขาย้ายไปเล่นกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2018 และพา “แข้งเทพ” จบซีซั่นด้วยรองแชมป์ลีก โดยปัจจุบันเขายังปักหลักค้าแข้งกับ ทรู แบงค็อกฯ เป็นปีที่ 3
กิลแบร์โต มาเชนา - บราซิล
กิลแบร์โต มาเชนา ย้ายมาโชว์สกิลแซมบากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2015 ก่อนสร้างปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ในไทยลีกพา ปราสาทสายฟ้า คว้า 5 โทรฟี่แชมป์ในฤดูกาล ดังกล่าว เขาซัดไป 21 ประตู จากการลงสนาม 30 นัด
มาเชนา จัดเป็นผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูงประกอบกับจินตนาการการสร้างสรรค์เกมรุกที่สร้างโอกาสให้กับทีมมากมาย ส่งผลให้เขาเป็นผู้เล่นที่ระดับท็อปในไทยลีกเวลานั้น ปีต่อมาย้ายไปค้าแข้งกับ อัล คาดิซิยาห์ ทีมจากโปรเฟสชั่นแนล ลีก ประเทศซาอุดิอาระเบีย ช่วงสั้นๆก่อนจะกลับมาเซ็นสัญญากับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามการกลับมาไทยลีกหนสอง น่าเสียดายที่เขาต้องเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าถึงสองครั้ง และไม่สามารถกลับมาเป็น มาเชนา คนเดิมได้ โดยในปี 2019 เขาหิ้วสตั๊ดมาคัดตัวกับ ชลบุรี เอฟซี แต่ด้วยวัยที่มากขึ้น และอาการบาดเจ็บที่ผ่านมาทำให้เขาไม่ได้รับสัญญากับ ฉลามชล
เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส - บราซิล
ดาวเตะชาวบราซิลคือหนึ่งในผู้เล่นต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการลูกหนังไทย...
เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ย้ายมาอยู่กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในปี 2014 ก่อนสร้างตำนานขึ้นที่นี่ เพียงปีแรกเขาซัดไป 26 ประตู จาก 36 เกม และยังคงเดินหน้าเป็นเครื่องจักรถล่มประตูให้กับสโมสร กระทั่งถูกยกให้เป็น ตำนานราชันมังกร ที่ “เสี่ยฟลุค”ธนวัชร นิติกาญจนา รองประธานสโมสรฯ คนปัจจุบัน ประกาศว่า “สำหรับราชบุรี เอฟซี เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส จะมีเพียงคนเดียว และจะไม่มีนักเตะคนไหนถูกนำมาเปรียบเทียบกับเขาไปตลอดกาล”
อย่างไรก็ตามงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เฮแบร์ตี้ ตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกซาอุดิอาระเบียกับ อัล ซะบ๊าบ ในปี 2017 ช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับมาค้าแข้งในไทยกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยพา “กิเลนผยอง” แชมป์โตโยต้า ลีกคัพ และ แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ อย่างละ 1 สมัย
นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะรายที่ 5 ต่อจาก พิภพ อ่อนโม้ , ศรายุทธ ชัยคำดี , เคลตัน ซิลวา และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ซัดครบร้อยประตู ขณะที่ฤดูกาล 2019 เฮแบร์ตี้ ย้ายมาเล่นกับ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งยังคงเดินหน้าทำประตูต่อเนื่อง ปัจจุบันรั้งรองดาวยิงสูงสุดตลอดกาลไทยลีก หลังซัดไปแล้วทั้งสิ้น 121 ประตู
เคลตัน ซิลวา - บราซิล
กองหน้าวัย 33 ปี อยู่ในสถานะฟรีเอเยนต์ เมื่อหมดสัญญากับ สุพรรณบุรี เอฟซี หลังจบฤดูกาล 2019
เคลตัน ย้ายมาเล่นในไทยกับ โอสถสภาฯ เป็นสโมสรแรก ช่วงฤดูกาล 2010 ก่อนจะยิงประตูแรกในเกมที่บุกไปเสมอ การท่าเรือ 1-1- หลังจากนั้นเขากลายร่างเป็นเครื่องจักรถล่มประตูทันที ยอดแข้งชาวแซมบ้าโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจนถูก บีอีซี เทโรศาสน ยักษ์ใหญ่ในเวลานั้นคว้าตัวไปร่วมทัพ ก่อนจะโด่งดังสุดขีด และเริ่มไต่เต้าสู่ตำนานไทยลีกในเวลาต่อมา
ฝีเท้าของ เคลตัน จัดเป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้เด็ดขาด ส่งผลให้เขายิงประตูเป็บกอบเป็นกำกระทั่งคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา ด้วยจำนวน 24 ประตู ในปี 2012 หลังจากนั้นเขาบอกลาเมืองไทยไปหาความท้าทายใหม่กับ เกเรตาโร่ ยอดทีมดังแห่งลีกสูงสุดเม็กซิโกช่วงสั้นๆ และกลับมาเล่นในไทยลีกอีกครั้งกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
เคลตัน กลับมาสานต่อความเป็นตำนาน เมื่อซัดประตูในสีเสื้อกิเลนผยอง จนเป็นผู้เล่นที่ยิงครบ 100 ประตู ได้สำเร็จ โดยในปี 2016 เขายิงไป 27 ประตู จาก 30 เกม และกลายผู้เล่นต่างชาติคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าดาวซัลโวสูงสุดโตโยต้า ไทยลีก ได้ 2 สมัย
หลังจากนั้นเขาย้ายไปอยู่กับ เซี่ยงไฮ้ เซินชิน เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับมาเล่นให้กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และ สุพรรณบุรี เอฟซี ตามลำดับ แม้ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนวันวาน และต้องกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่มีใครล้มสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลโตโยต้า ไทยลีก 144 ประตู ของเขาได้เลย
ดิโอโก หลุยส์ ซานโต - บราซิล
เขาคือฟันเฟืองสำคัญพา บุรีรัมย์ พุ่งชนความสำเร็จพร้อมสร้างประวัติศาสตร์มากมายตลอดการค้าแข้งใน ช้าง อารีนา สเตเดียม
ดิโอโก้ ย้ายมาเล่นในศึกโตโยต้า ไทยลีก กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2015 ซึ่งเพียงปีแรกเขามีส่วนพายักษ์ใหญ่แดนอีสานจารึกประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกของเอเชียที่สามารถคว้า 5 แชมป์ ในฤดูกาลเดียวอย่างยิ่งใหญ่ หลายคนยังจำได้ดีกับลีลาแซมบ้าของเขาที่มักมีสกิลน่าตื่นตาตื่นใจออกมาโชว์ อีกทั้งยังจบสกอร์เฉียบคมจัดเป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องสุดๆ
ตลอดการรับใช้ ปราสาทสายฟ้า ดิโอโก้ ลงสนามทุกรายการไปทั้งสิ้น 159 นัดทำไป 132 ประตู 45 แอสซิสต์ และ 9 แฮตทริค คว้าแชมป์ไป 11 รายการ แบ่งเป็น โตโยต้า ไทยลีก 3 สมัย, ช้าง เอฟเอ คัพ 1 สมัย, โตโยต้า ลักคัพ 1 สมัย, ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ (ถ้วยก.) 2 สมัย, แม่โขง คลับ 2 สมัย และ โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 1 สมัย ก่อนจะปิดฉาก 4 ปี ที่ บุรีรัมย์ เพื่อย้ายไปค้าแข้งกับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ทีมดังแห่งศึกมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก
ฤดูกาล 2019 ที่ผ่านมา ดิโอโก้ เพิ่งช่วย ยะโฮร์ฯ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปเป็นหนที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร
สำรอง
โนงูชิ ปินโต้ - ญี่ปุ่น-บราซิล
จอมหนึบลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-บราซิล ผ่านประสบการณ์ค้าแข้งในญี่ปุ่นกับ โออิตะ ทรินิตะ และ คาชิวะ เรย์โซ ก่อนจะย้ายมาสร้างชื่อกับ สมุทรสงคราม เอฟซี ในปี 2010 หลังจากนั้นย้ายไปเฝ้าเสากับ พีทีที ระยอง ในปี 2013 โชว์ฟอร์มเซฟเป็นว่าเล่นจนได้รับตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมในศึกดิวิชั่น 1 และมีส่วนสำคัญพา พลังเพลิง เลื่อนชั้นไปเล่นลีกสูงสุดได้สำเร็จ
หลังจากนั้นย้ายกลับไปค้าแข้งกับ จีเอสอี สมุทรสงคราม เอฟซี และ อยุธยา เอฟซี ตามลำดับ โดย ปินโต้ ถือเป็นผู้รักษาประตูต่างชาติระดับตำนานในไทยลีกที่แฟนบอลไทยจำได้ดี…
วิคเตอร์ คาร์โดโซ - บราซิล
วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ เริ่มต้นสร้างชื่อกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด(อุบล ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน) ตั้งแต่สมัยดิวิชั่น 2 ในปี 2015 เขาคือกองหลังกัปตันทีมจอมแกร่งที่เล่นได้ดุดัน เข้าบอลหนักหน่วงไม่กลัวใคร และมีความเป็นผู้นำสูง
จุดขายของเขาคือการเติมขึ้นไปโขกพังประตู โดยในปี 2017 เขาพา “เทพอินทรี” เลื่อนชั้นไปเล่นลีกสูงสุดไปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ในปีนั้นเขาซัดไป 11 จาก 30 นัด ถือเป็นกองหลังที่ทำประตูได้มากที่สุด กระทั่งถูก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กระชากตัวไปร่วมทัพในฤดูกาล 2018
เพียงปีแรกกับ “กว่างโซ้งฯ” วิคเตอร์ คาร์โดโซ คอยเก็บกวาดหลังบ้านให้ยอดทีมแดนล้านนา พร้อมบวกสกอร์ในลีกไป 7 ประตู จาก 32 เกม เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมพา เชียงรายฯ สร้างประวัติศาสตร์คว้าเทรเบิ้ลแชมป์หนแรกได้สำเร็จ(ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ , โตโยต้า ลีกคัพ และช้างเอฟเอ คัพ)
ฤดูกาล 2019 เขาย้ายไปคุมหลังบ้านให้ พีทีที ระยอง เอฟซี ก่อนย้ายไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน...
ติอาร์โก คุนญา - บราซิล
จัดเป็นศูนย์หน้าฝีเท้าจัดจ้าน แถมมีลูกบ้าดีเดือดที่ได้ใจแฟนบอล “ฉลามชล” ไปเต็มๆ โดยเขาย้ายมาเล่นในถิ่น ชลบุรี สเตเดียม ฤดูกาล 2013
คุนญา ประเดิมปีแรกด้วยการกดไป 13 ประตู จาก 19 นัด ก่อนที่ฤดูกาลต่อมาจะยิงไปอีก 20 ประตู จากการลงสนาม 27 นัด เขายังคงรักษามาตรการถล่มประตูได้ดีต่อเนื่องตลอด 3 ปี กับ ชลุบรี โดยยิงไปทั้งสิ้น 74 ประตู จาก 99 เกม
ปี 2016 เขาย้ายลงไปช่วย การท่าเรือ เอฟซี ล่าตั๋วไทยลีก ก่อนต่อมาจะออกไปค้าแข้งต่างแดนกับ มุมไบ ซิตี้ (อินเดีย) , ลอนดริน่า (บราซิล) และ บาริโต ปูเตรา (อินโดนีเซีย) ตามลำดับ โดยฤดูกาล 2017 คุนญา กลับมาเล่นให้ ฉลามชล อีกครั้ง ด้วยที่มากขึ้นเขาลงเล่นเพียง 6 นัดในลีก และยิงไป 3 ประตู ก่อนจะอำลาไทยลีกอีกครั้ง และกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดกับ เนากิโต ทีมระดับ เซเรียบี ในปี 2018
เนย์ ฟาเบียโน - บราซิล
เขาคือดาวยิงระดับตำนานไทยลีก ที่ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลไทยจนถึงทุกวันนี้…
เนย์ ฟาเบียโน ย้ายมาเล่นในไทยกับ พนักงานยาสูบ เป็นสโมสรแรกในปี 2007 การจบสกอร์ของเขาเฉียบคม ทั้งนิ่ง และเยือกเย็น โดยคว้ารางวัลดาวซัลโวในปีนั้นมาครองหลังระเบิดฟอร์มถล่มตาข่าย 18 ประตู ก่อนจะย้ายไปสร้างชื่อกับ ชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาลต่อมา
หลังจากนั้นเขาย้ายไปเมลเบิร์น วิคตอรี่ ในลีกออสเตรเลียในปี 2009 ก่อนจะตัดสินใจย้ายกลับมาค้าแข้งในไทยอีกครั้งทั้ง บางกอกกล๊าส เอฟซี ,ชลบุรี เอฟซี , วัวชน ยูไนเต็ด และ สุพรรณบุรี เอฟซี ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด เอฟซี ฯลฯ
เลอันโดร โอลิเวียรา - บราซิล
อดีตกองหน้าชื่อก้องไทยลีกชาวบราซิล เป็นที่รู้จักของแฟนบอลในปี 2013 หลังย้ายมาค้าแข้งกับ การท่าเรือ เอฟซี ก่อนจะระเบิดฟอร์มซัดไป 24 ประตูพา สิงห์เจ้าท่า เลื่อนชั้นมาเล่นในศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2014 ได้สำเร็จ
ชั้นเชิงลูกหนังที่ไม่ธรรมดา ประกอบกับการจบสกอร์สุดคม ส่งผลให้เขาถูกแฟนบอลตั้งฉายาว่า “คิง เลอันโดร” หลังสร้างชื่อกับยอดทีมถิ่นคลองเตย เขายังคงโลดแล่นในเมืองไทยต่อไป โดยย้ายไปเล่นให้กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี , โอสถสภาฯ , พีทีที ระยอง และ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ในเวลาต่อมา
