หลังมีเสียงวิจารณ์ทั่วทุกสารทิศในการคุมทีม "ช้างศึก" ที่บริหารจัดการโดย เอคโคโน่ ว่าผลงานไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพ้ต่อเพื่อนบ้านอาเซียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนน่าเป็นห่วงว่าสมาคมฟุตบอลมาถูกทางแล้วหรือไม่ในการยกอนาคตลูกหนังไทยให้ เอคโคโน่ ดูแล
ล่าสุด นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่าน THSPORT ว่าการจะพัฒนาโครงสร้างเยาวชนทั้งระบบนั้น ไม่ได้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันสั้น แม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ต้องใช้เวลา 2-3 ปีกว่าจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แข็งแกร่งดั่งเช่นในปัจจุบัน ชี้ควรให้เวลาพิสูจน์ผลงาน และหากไม่เป็นไปตามเป้า สมาคมฟุตบอลในฐานะนายจ้างก็จะต้องคอยประเมินอยู่แล้ว เชื่อหากพัฒนาด้วยระบบที่ถูกต้อง ในอนาคตจะมีนักเตะเยาวชนเก่งๆ ให้เลือกใช้บริการมากมายแบบยกชุด ไม่ต้องพึ่งพาพรสวรรค์หรือเสาะหาช้างเผือกเพียงรุ่นละไม่กี่คน
"เอคโคโน่มาทำได้กี่ปีแล้วล่ะ ถึงปีหรือยัง การจะพัฒนาโครงสร้างระบบอะไรสักอย่างมันไม่ใช่แค่ปีเดียวจะเห็นผลนะ ดูอย่าง เป๊ป สิกว่าจะทำให้แมนฯซิตี้ เก่งอย่างทุกวันนี้เขาใช้เวลากี่ปี ตอนแรกๆ ก็โดนด่าถูกมั้ย แต่ถ้ามาถูกทาง ผลลัพธ์มันจะตามมาเองเมื่อถึงเวลา เราอย่าเพิ่งไปตัดสินอะไรสั้นๆ ถ้าเอคโคโน่เขาทำงานไม่ดี สมาคมในฐานะนายจ้างก็ต้องประเมินผลงาน ต้องวัด KPI อยู่แล้ว"
"การปรับโครงสร้างพัฒนาเยาวชนอย่างมีระบบ ยังไงมันก็ต้องดีกว่าต่างคนต่างฝึก เดี๋ยวนี้หลายๆ สโมสรก็มีอคาเดมี่ที่ได้มาตรฐาน ต่อไปในอนาคตนักฟุตบอลไทยก็จะเก่งขึ้นจากการฝึกตั้งแต่พื้นฐาน ทุกคนเบสิกแน่นหมด พอจะเอามาฝึกต่อยอดอะไรก็ง่าย แล้วก็จะเก่งทั้งรุ่น ไม่ใช่พึ่งพาพรสวรรค์ของนักเตะบางคน ไม่ต้องหาช้างเผือกอีกต่อไป ให้เวลาเขาหน่อยน่า อย่าเพิ่งหวังผลลัพธ์อะไรแบบด่วนๆ ถ้าไม่จริงดีเดี๋ยวสมาคมก็อยู่เฉยไม่ได้เองแหละ" บิ๊กเนกล่าว
