"นกใหญ่"แจงดราม่าอบจ.สั่งตัดน้ำไฟสนามเขาพลอง
"นกใหญ่พิฆาต" ยันสโมสรไม่ใช่ต้นเหตุ ค่าน้ำ, ค่าไฟสูงจนถูกสั่งตัด พร้อมล็อกประตูห้ามใช้ห้องน้ำในสนามเขาพลอง ชี้ทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง แถมสร้างสาธารณประโยชน์มากมาย รับไม่มั่นใจปัญหาคลี่คลายทันฤดูกาลใหม่เปิดหรือไม่
หลังจากที่เกิดประเด็นดราม่าปัญหาสนามเขาพลอง สเตเดี้ยม รังเหย้าของ "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท ฮอร์นบิล ถูกสั่งให้ปิดน้ำปิดไฟ ล็อกห้องน้ำ จนส่งผลกระทบต่อแฟนคลับและประชาชนที่ไปใช้บริการของสนาม ทำให้มีกลุ่มแฟนคลับไปชุมนุมและยื่นหนังสือประท้วงต่อ นายภารดา อาสาสรรพกิจ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท รักษาการแทนนายก อบจ. ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่าทาง อบจ. ไม่เคยมีนโยบายที่จะไปปิดห้องน้ำ รวมถึงตัดน้ำตัดไฟ ของสนาม ซึ่งเป็นสนามสาธารณะของประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้ในเรื่องของเงิน 56 ล้าน ที่ถูกระบุว่าเป็นการนำงบส่วนกลางของอบจ.ไปใช้ในสโมสรนั้น ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังตรวจสอบตามขั้นตอบของกระบวนการกฎหมาย รวมถึงเรื่องเงินค่าไฟ 6.9 ล้านบาท ที่สตง.ตรวจสอบก็ยังไม่ได้ชี้แนะ โดยสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสนาม เมื่อมีแมตช์แข่งขันตามความเป็นจริง และทำเรื่องมายังอบจ.ถูกต้ิองทุกประการ ส่วนอบจ.ก็มีรายได้เพิ่มจากการขายบัตรเข้าชมเกม 5% เมื่อมีแมตช์การแข่งขัน โดยเป็นยอดก่อนหักค่าใช้จ่ายด้วย ตามที่มีรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้นั่น
ล่าสุด THSPORT ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในทีม ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่อธิบายถึงสาเหตุที่กลายเป็นประเด็นดราม่า ว่าสนามกีฬากลางจังหวัดชัยนาท (เขาพลอง สเตเดี้ยม) เป็นสนามสาธารณะที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการได้รองรับหลายชนิดกีฬา ซึ่งค่าน้ำค่าไฟที่สูงนั้นเป็นยอดรวมที่ทางฝ่ายราชการมองว่าสูงผิดปกติ โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะสโมสรชัยนาทหรือไม่ จนกระทั่งสั่งตัดน้ำไฟและปิดล็อกไม่ให้ใช้ห้องน้ำ แต่ทางสโมสรจ่ายค่าเช่าสนาม, ค่าน้ำค่าไฟตามที่ใช้จริง แถมยังเป็นการเหมาจ่ายสูงกว่ายอดจริงด้วยซ้ำ
"ก็อาจจะมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยบ้าง แต่ไม่เกี่ยวกับท่านรองนายกอบจ.นะ เพราะท่านอยู่กลางๆ ไม่ได้มีสังกัดใคร ท่านก็ยืนยันแล้วว่าไม่เคยมีนโยบายแบบนั้น คือต้ิองอธิบายก่อนว่าทางสโมสรเช่าสนามของอบจ.แล้วก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าเช่าสนามตามเวลาที่แข่งขันจริง เราเหมาจ่ายในราคาที่ปัดขึ้นด้วย อย่างเช่นใช้ไฟไปครึ่งชั่วโมง ก็ปัดเป็น 1 ชั่วโมง สมมติว่า 1 ชั่วโมง 5 พันบาท ถึงเราใช้แค่ครึ่งชั่วโมงก็จ่ายในราคาเต็ม 5 พันบาท การฝึกซ้อมในช่วงฤดูกาลปกติเราก็จ่ายตามจริงเช่นกัน แต่ในช่วงระหว่างปิดฤดูกาลที่สโมสรชุดใหญ่ไม่ได้เข้าไปซ้อม ก็จะมีนักเตะเยาวชนของทีมฝึกซ้อมอยู่ ซึ่งนักเตะเยาวชนก็เป็นของอบจ.เองด้วย ตรงนี้ทางส่วนราชการเขาเห็นว่าค่าน้ำค่าไฟสูงผิดปกติ อย่างเช่นเดือนละ 5-6 หมื่น เขาก็เลยออกคำสั่งให้ตัดน้ำไฟ ล็อกห้องน้ำ ซึ่งไม่ใช่คำสั่งของอบจ. และคนที่เดือดร้อนก็คือประชาชนที่เข้าไปใช้บริการ ส่วนสโมสรก็ไม่ใช่ต้นเหตุแน่นอนเพราะปกติซ้อมในช่วงเวลากลางวันก่อนตะวันตกดินอยู่แล้ว เพื่อเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟด้วย"
"ต้องเข้าใจด้วยว่าสนามกีฬากลางจ.ชัยนาท ไม่ได้มีแค่สนามฟุตบอล ยังมีสนามกีฬาอื่นๆ เปิดให้ประชาชนเข้าไปใช้ หรืออย่างในส่วนของคลับเฮาส์ซึ่งสโมสรชัยนาทเป็นผู้สร้างแล้วก็ยกให้เป็นสาธารณประโยชน์ สโมสรเองก็จ่ายค่าเช่าเมื่อเข้าไปใช้อยู่ดี แต่เวลาคิดค่าน้ำค่าไฟรวม ทางสนามไม่ได้มีการคิดมิเตอร์แยก เขาคิดรวมทั้งหมด พอรวมออกมาแล้วตัวเลขมันสูง เขาก็ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเพราะมีสโมสรชัยนาทเข้าไปใช้งานหรือไม่ จนเกิดเหตุดังกล่าว"
"แต่ต้องขอยืนยันว่าทางสโมสรไม่ใช่สาเหตุแน่นอน ตัวเลข 56 ล้าน หรือ 6.9 ล้านที่ยกมานั้นก็เป็นการเอาเรื่องเก่ามาพูด มันตั้งแต่ปี 55-58 ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนสอบสวนอยู่แล้ว ตอนนี้ประชาชนที่เดือดร้อนเขาก็ทำหนังสือร้องเรียนไปแล้วว่าคนที่ออกคำสั่งให้ตัดน้ำตัดไฟใช้อำนาจในทางมิชอบ ส่วนทางสโมสรของเราจะกลับไปใช้ห้องน้ำ น้ำไฟ ได้ตามปกติทันเปิดฤดูกาลใหม่หรือไม่ อันนี้ยังไม่สามารถตอบได้จริงๆ" แหล่งข่าวในทีมนกใหญ่เผย