การพัฒนาฟุตบอลระดับรากหญ้า หรือ Grassroots นับเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลักของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการพัฒนาฟุตบอลไทยตั้งแต่ระดับรากฐานตามแผนพัฒนาแม่บทฟุตบอลไทยระยะยาว 20 ปี
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การบริหารของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ มีนโยบายในการเพิ่มจำนวนบุคลากรฟุตบอล โดยเฉพาะผู้ฝึกสอนอาชีพในระดับต่างๆ ทั้งยังร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด ทั่วประเทศในการกระจายกิจกรรมฟุตบอลรากหญ้าให้ทั่วถึงในทุก ๆ พื้นที่ของประเทศไทย
ปัจจุบัน สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี จัดลำดับให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีการพัฒนาฟุตบอลรากหญ้า หรือ Grassroots Charter ในระดับ #เหรียญทองแดง และวางแผนเพื่อเข้าสู่ระดับทอง ในปี 2023
โดยในกลุ่มเหรียญทองแดง ประกอบด้วยกลุ่มประเทศ เวียดนาม, มาเลเซีย, เมียนมา, อัฟกานิสถาน, ภูฏาน, ไต้หวัน, กวม, ฮ่องกง, คูเวต, สปป.ลาว, เลบานอน, มาเก๊า, มัลดีฟส์, หมู่เกาะนอร์เธิร์น มาเรียนา, ปาเลสไตน์ และ ติมอร์ เลสเต
ขณะที่ กลุ่มประเทศในระดับ #เหรียญเงิน ประกอบไปด้วย จีน, จอร์แดน, ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์
ส่วนกลุ่มประเทศในระดับสูงสุด #เหรียญทอง ประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
สำหรับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีความพร้อมที่จะยกระดับการจัดการฟุตบอลรากหญ้าให้ก้าวไปอยู่ในระดับมาตรฐานสากล โดยวิธีการพัฒนา ถูกแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ประกอบไปด้วย
1. การศึกษา (Education) เน้นในเรื่องของสร้างผู้ฝึกสอนในระดับเริ่มต้น (G-Diploma) และการให้ความรู้กับผู้ฝึกสอนท้องถิ่นในกิจกรรมต่าง ๆ
2. เฉพาะกลุ่ม (Groups) เช่น การแข่งขันหรือการฝึกซ้อมทีม
3. ครอบครัวและเพื่อน (Families and Friends) การทำให้ครอบครัวมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
4. ผู้ขาดโอกาส (Social) กิจกรรมเพื่อสังคมโดยใช้ฟุตบอลเป็นสื่อกลาง
สำหรับปี 2563 เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมฟุตบอลรากหญ้าต่างๆ ซึ่ง สมาคมฯ ได้วางแผนกลับมาจัดกิจกรรมฟุตบอลรากหญ้า ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ และตลอดช่วงปี 2564 ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย เพื่อยกระดับให้ฟุตบอลไทยมีมาตรฐานที่สูงขึ้น โดยจะมีการเปิดรับสมัคร นักกีฬาเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมอีกครั้งในภายหลัง สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง ช่องทางประชาสัมพันธ์ของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย