"เฮงซัง"โต้ก้าวก่ายงานโค้ชชี้เป็นหน้าที่ปธ.เทคนิค
"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล แจงการตรวจสอบแผนการทำงานและประเมินผลงานของโค้ชทีมชาติแต่ละชุด เป็นหน้าที่ของประธานเทคนิค ชี้ประเทศไทยไม่เคยมีตำแหน่งนี้มาก่อนหลายคนเลยไม่เข้าใจ ยันทีมชั้นนำทั่วโลกปฏิบัติกันเป็นสากลทั้งระดับชาติและสโมสร หลัง "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ คอมเม้นต์ว่าอยากให้ปล่อยโค้ชทำงานอย่างอิสระ
หลังจากที่ "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ อดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ 2015 ออกมาวิจารณ์ว่า "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ลงมาควบคุมการทำงานของโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยในแต่ละชุดมากเกินไป ทั้งการควบคุมแผนการฝึกซ้อมและแท็กติกการเล่นต่างๆ จนอาจส่งผลให้โค้ชอึดอัดและไม่สามารถทำงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่นั้น
ล่าสุด "โค้ชเฮง" ได้ตอบโต้เสียงวิจารณ์ผ่านทาง THSPORT ว่าสิ่งที่ถูกมองว่าก้าวก่ายนั้นตนมีขอบเขตในฐานะประธานเทคนิค ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำไม่เช่นนั้นจะมีประธานเทคนิคไปทำไม นอกจากนี้ยังได้ให้อิสระโค้ชในการทำงานอย่างเต็มที่เพียงแต่ต้องมีการทำรายงานส่งฝ่ายเทคนิคเพื่อควบคุมให้มีคุณภาพ ซึ่งฝ่ายเทคนิคทั่วโลกต่างมีรูปแบบการทำงานเช่นนี้ทั้งสิ้น
"ผมรอคอยตำแหน่งนี้มานานกว่า 20 ปี ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยติดต่อให้ผมไปแต่ผมก็ไม่ไปเพราะอยากทำงานให้ประเทศไทย บ้านเราไม่เคยมีประธานเทคนิคมาก่อน ที่เคยมีกันก็เป็นแค่ตำแหน่งมีแค่ชื่อ หลายๆ คนก็เลยไม่ทราบว่ามีฝ่ายเทคนิคไว้ทำอะไร จริงๆ แล้วมันสำคัญมาก ทีมระดับโลกทุกทีมทั้งทีมชาติและสโมสรก็ต้องมีฝ่ายเทคนิคเพื่อพัฒนาและปรับปรุงเพิ่มศักยภาพของทีม หน้าที่ของผมก็คือคอยตรวจสอบและให้คำแนะนำแก่โค้ชทุกชุด ระดับสโมสรก็ต้องทำเหมือนกัน สิ่งที่ต้องให้โค้ชรายงานทุกวันก็คือรูปแบบการฝึกซ้อม เพราะผมต้องการให้ซ้อมอย่่างมีคุณภาพและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่ซ้อมลิงชิงบอลหรือเลี้ยงบอลหลบกรวยไปวันๆ คือไม่ใช่ว่าซ้อมแบบนั้นไม่ดี แต่แค่ต้องมีเป้าหมายว่าซ้่อมเพื่อจุดประสงค์อะไร แท็กติกการเล่นผมก็ไม่เคยยุ่ง ปล่อยให้โค้ชเขาทำอย่างเต็มที่ แต่หลังจบเกมทุกนัดเขาก็ต้องส่งรายงานมาให้ฝ่ายเทคนิคเพื่อวิเคราะห์สถิติต่างๆ นำมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขต่อไป"
"ส่วนที่ว่าทำไมไม่ตั้งโค้ชไทยมาคุมทีมชาติ ผมมองว่าในช่วงเริ่มต้นอยากให้ทุกทีมมีแนวทางที่เหมือนกัน และโค้ชไทยแต่ละคนก็มีวิธีการและปรัชญาต่างกัน แต่ละคนก็เข้ามาทำทีมแค่ระยะสั้นๆ แล้วก็ไป ผมไม่อยากได้โค้ชที่ต้องการเข้ามาสร้างโปรไฟล์ให้ตัวเอง ผมอยากให้พื้นฐานไปในทิศทางเดียวกันก่อน แบบฝึกหัดของเอคโคโน่จริงๆ แล้วเป็นแบบฝึกที่ดีมาก แต่เขาเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังติดปัญหาในเรื่องการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมไทยและความเข้าใจในเรื่องพฤติกรรมของเด็กไทยด้วย คือพอรูปแบบและระบบมันชัดเจนแล้วค่อยให้โค้ชเข้ามาดูแล ผมสนับสนุนโค้ชไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังเห็นว่าไม่เหมาะสมเพราะเราต้องมองถึงระยะยาว และที่สำคัญโค้ชไทยที่เข้ามาต้องเป็นคนที่น้ำไม่เต็มแก้วและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวเขาเองในอาชีพโค้ชต่อไปได้อีกมาก" โค้ชเฮงกล่าว