กริฟฟิ่นตั้งเป้าคว้าแชมป์เอ็นบีเอกับเน็ตส์

เบล็ค กริฟฟิ่น ฟอร์เวิร์ดประสบการณ์วัย 32 ปีเปิดเผยถึงเหตุผลที่ทำให้เขากลับมาเซ็นสัญญากับ บรู้กลิน เน็ตส์ ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นว่าเขามีโอกาสดีที่จะคว้าแชมป์เอ็นบีเอครั้งแรกในอาชีพ ตามรายงานจาก 'นิวยอร์ค โพสต์' เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

กริฟฟิ่น เล่นกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส ระหว่างปี 2009-2018 นับตั้งแต่เข้าสู่ลีกฐานะดราฟท์รอบแรก แต่พลาดการลงเล่นตลอดซีซั่นรุคกี้เนื่องจากบาดเจ็บ ก่อนย้ายมาเล่นกับ ดีทรอยท์ พิสตันส์ ในช่วงปี 2018-2021 จนกระทั่งมาเซ็นสัญญากับ เน็ตส์ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อน บรู้กลิน จะตกรอบรองชนะเลิศของฝั่ง อีสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ หลังการปราชัยต่อ มิลวอกี้ บัคส์ 3-4 เกมซีรี่ส์

ฟอร์เวิร์ดวัย 32 ปี กลายเป็นฟรีเอเจนต์ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ ก่อนตัดสินใจกลับมาบรู้กลินส์อีกครั้งด้วยความเชื่อมั่นว่าเขาสามารถคว้าแชมป์เอ็นบีเอครั้งแรกในอาชีพของตนเองกับ เน็ตส์ ได้เช่นกัน 

'ใช่, ผมคิดอย่างนั้น ผมคิดอย่างนั้น' กริฟฟิ่น เผยเมื่อถูกถามว่าเขาคิดว่า เน็ตส์ จะสามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้าได้หรือไม่ 'ชัดเจนว่ามีงานมากมายที่ต้องทำ ไม่สามารถรับอะไรได้เลย แต่ผมชอบทีมของเรา ผมชอบคนที่เรามี ผมชอบสตาฟฟ์โค้ชของเรา ผมชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำร่วมกัน ใช่, ผมเชื่อมั่นในพวกเรา'

กริฟฟิ่น มีโอกาสย้ายไปเล่นกับทีมอื่นและอาจทำเงินให้เขามากขึ้นหรือมีบทบาทมากกว่าที่ผ่านมา แต่เขาสบายใจกับการอยู่ในบรู้กลิน และเมื่อมาถึงจุดนี้ในอาชีพ การมีโอกาสไขว่คว้าความสำเร็จนั้นเป็นสิ่งสำคัญสุด

'ใช่, ผมมี (ข้อเสนอจากทีมอื่น)' กริฟฟิ่น เผย 'แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดคุยกับหลายคน ผมได้คุยกับ เจฟฟ์ (กรีน) และผมได้คุยกับคนอื่นๆที่อยู่ในสถานการณ์แตกต่างกันและไม่ได้อยู่ในจุดเดิมมาหลายปีแล้ว มันเป็นแบบนั้นเสมอ ผมไม่อยากพูดว่า 'เกมการคาดเดา' เพราะคุณสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ดีว่าทีมจะทำงานได้ดีแค่ไหน แต่คุณไม่มีทางรู้'

'นี่เป็นที่ที่ผมสบายใจ ดังนั้นข้อเสนออื่นๆมากมายจึงไม่จำเป็น แค่การหาเงินเพิ่มหรือไปที่ตำแหน่งใหม่เพื่อรับบทบาทที่ใหญ่กว่านั้นอาจไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นสิ่งที่ผมรู้ถึงสถานการณ์นี้ ผมรู้ว่าผมสามารถทำอะไรกับทีมนี้ ผมรู้บทบาทของผมกับทีมนี้และเรายังคงออกจากฤดูกาลพร้อมด้วยรสขมในปากของเรา'

'มันไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยสำหรับผม' กริฟฟิ่น กล่าวถึงการกลับมาเซ็นสัญญากับ เน็ตส์ อีกครั้ง 'นั่นเป็นการสนทนาที่เราเป็นทีมที่รู้สึกว่าเราไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ คุณสามารถพูดถึงการบาดเจ็บ แต่ทุกทีมต่างมีการบาดเจ็บ ดังนั้นเราจึงรู้สึกว่ามีธุรกิจที่ยังไม่เสร็จอย่างแน่นอน มีอะไรใหญ่กว่าที่เราต้องการบรรลุและผมยังต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น'