แม็คเดอร์ม็อตต์แถลงข่าวครั้งแรกหลังเหตุการณ์แฮมลิ่น

ฌอน แม็คเดอร์ม็อตต์ หัวหน้าโค้ช บัฟฟาโล่ บิลล์ส พร้อมด้วยควอร์เตอร์แบ็ก จอช อัลเลน, คอร์เนอร์แบ็ก ดีน แจ็คสัน และเซนเตอร์ มิตช์ มอร์ส แถลงข่าวร่วมกันครั้งแรกนับตั้งแต่ เดมาร์ แฮมลิ่น เซฟตี้วัย 24 ปีหัวใจหยุดเต้นระหว่างเกม 'มันเดย์ ไนท์' กับ ซินซินเนติ เบงกอลส์ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา 

แม็คเดอร์ม็อตต์ พร้อมลูกทีมอีก 3 คนเปิดเผยว่าพวกเขารู้สึกโล่งอกและมองโลกในแง่ดีเมื่อทราบข่าวจากโรงพยาบาลที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยซินซินเนติว่า แฮมลิ่น อาการดีขึ้นมาก 

'การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เดมาร์ แฮมลิ่น คนที่พวกเรารัก' แม็คเดอร์ม็อตต์ เริ่มต้นการแถลงข่าวพร้อมกับขอบคุณผู้คนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการดูแล แฮมลิ่น 'มันเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา มาริโอ และ นีน่า และครอบครัวทั้งหมดของพวกเขา เรายังคงอธิษฐานเผื่อพวกเขาในช่วงเวลานี้ละ เดมาร์ ยังคงเป็นข้อกังวลอันดับหนึ่งของเรา จำนวนของศรัทธา, ความหวังและความรักที่เราเห็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้นน่าทึ่งมาก'

ขณะที่ อัลเลน บรรยายถึงช่วงเวลาทางอารมณ์ในเกม 'มันเดย์ ไนท์' และระดับความกลัวของเขาและเพื่อนร่วมทีมหลัง แฮมลิ่น ล้มลงบนพื้นสนามและได้รับการทำซีพีอาร์ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

'ปกติแล้วผมไม่ชอบใช้อารมณ์ในการตอบคำถาม แต่ภาพนั้นฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของคุณ' อัลเลน เผย 'มันยากที่จะตอบคำถามนั้น และอธิบายตามจริงว่าผมรู้สึกอย่างไร เพื่อนร่วมทีมของผมรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลานั้น มันเป็นสิ่งที่เราจะไม่มีวันลืม'

'แต่รู้ว่า เดมาร์ โอเคดี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องดำเนินการและผ่านต่อไปเพื่อกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เราได้ยินข่าวนั้นเมื่อเช้านี้ และไม่มีอะไรจะบอกเราได้ที่จะทำให้วันของเราตกต่ำลง เรามีความสุขมากกับเขาและครอบครัวของเขา เราแค่ต้องการส่งมอบความรักแก่เขา ดังนั้นโอกาสต่อไปที่เราได้รับ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นเมื่อไหร่ ถ้าเราได้เจอเขาเร็วๆนี้ มันคงจะยอดเยี่ยมมาก'

อัลเลน ยังกล่าวชื่นชมการตัดสินใจในฐานะผู้นำของ แม็คเดอร์ม็อตต์ เช่นเดียวกับ แซ็ค เทย์เลอร์ หัวหน้าโค้ช เบงกอลส์ ที่กล่าวชมเฮดโค้ช บิลล์ส ก่อนหน้านี้ 

'วิธีที่เขาจัดการกับมัน เขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในการจัดการกับสถานการณ์แบบนั้น' อัลเลน กล่าว 'ผมไม่สามารถพูดได้มากพอเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาพูดกับพวกเราในล็อคเกอร์รูม'

'เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงสถานการณ์เลวร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครพร้อม ไม่มีอะไรที่คุณสามารถฝึกซ้อมเกี่ยวกับมัน คุณไม่สามารถทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นั้นได้จนกว่ามันจะเกิดขึ้น ผมอยากจะขอบคุณสตาฟฟ์ฝึกซ้อมของเราที่ออกไปที่นั่นโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ได้ทำการตรวจสอบ ทำงานเป็นหนึ่งเดียวและช่วยชีวิตเขาไว้'

'การอยู่ในสนามนั้น คุณอดหลับอดนอน คุณเจ็บปวดแทนน้องชายของคุณ มีเรื่องเศร้าร่วมกันมากมาย แต่สำหรับคำถามก่อนหน้านี้ การได้รับข่าวอัพเดตในแง่บวก ช่วยลดความเจ็บปวดและความตึงเครียดที่คุณรู้สึกได้มาก แต่โค้ชจัดการกับมันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้'