โฮมส์เชื่อกิ๊บบ์สจะเป็นอาวุธพิเศษของไลออนส์

แบร็ด โฮมส์ ผู้จัดการทั่วไปของ ดีทรอยท์ ไลออนส์ เชื่อว่า เจห์มายร์ กิ๊บบ์ส รันนิ่งแบ็กรุคกี้ดราฟท์อันดับ 12 จะเป็นอาวุธพิเศษเหมือน มาร์แชลล์ ฟอล์ค ตำนานตัววิ่งของ เซนต์ หลุยส์ แรมส์ และ คริสเตียน แม็คแคฟฟรีย์ รันนิ่งแบ็กของ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา 

ไลออนส์ ปรับปรุงแบ็คฟิลด์ของพวกเขาหลังการจากไปของ ดีอันเดร สวิฟท์ และ จามาล วิลเลียมส์ ด้วยการเซ็นสัญญากับ เดวิด มอนต์โกเมอรี่ อดีตตัววิ่ง ชิคาโก้ แบร์ส และเลือก กิ๊บบ์ส จากร่างดราฟท์รอบแรก คำถามที่เข้ามาในเทรนนิ่งแคมป์คือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ทีมบุกของทีมสิงโตแห่งดีทรอยท์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือเพียงเปลี่ยนแค่ชื่อเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม โฮมส์ จีเอ็มของ ไลออนส์ เน้นย้ำว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเหมาะสมกับสิ่งที่ทัพสิงโตแห่งดีทรอยท์ต้องการทำในทีมบุกของพวกเขา

'เมื่อคุณดูไปที่มันอย่างเป็นระบบแล้ว ผมคิดว่าเราจะเล่นเกมรุกได้ดีขึ้น' โฮมส์ กล่าว 'นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนอีกสองคนมอบให้เรา สวิฟท์ เป็นผู้เล่นที่มีไดนามิก และ จามาล เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา และเขาทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อเรา เขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แต่ผมคิดว่า มอนต์โกเมอรี่ กับ จามาล เป็นแบ็คที่แตกต่างกัน'

'มอนต์โกเมอรี่ ทำมากกว่าเล็กน้อยในเกมขว้าง และสามารถเพิ่ม กิ๊บบ์ส ได้ เขามีไดนามิกมากในฐานะปีกนอก ดูสิ เขาตีโฮมรันในฐานะรันนิ่งแบ็ก นั่นเป็นส่วนที่ง่าย สิ่งที่เขาทำในฐานะปีกนอก เขาวิ่งตามเส้นทางเหมือนปีกนอก'

วิลเลียมส์ ถือบอลวิ่ง 1,066 หลาและทำ 17 ทัชดาวน์ (13 ทัชดาวน์ภายในเส้น 3 หลา) ช่วง 2 ฤดูกาลในดีทรอยท์ เขารับบอล 38 ครั้ง ระยะ 230 หลา ขณะที่ สวิฟท์ ถือบอลวิ่ง 542 หลา ทำ 5 ทัชดาวน์ในซีซั่นที่แล้ว เขารับบอล 48 ครั้ง ระยะ 389 หลา แต่การบาดเจ็บเป็นปัญหาสำหรับเขาก่อนถูกเทรดไป ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ 

สำหรับ มอนต์โกเมอรี่ ถือบอลวิ่ง 801 หลา ทำ 5 ทัชดาวน์ และรับบอล 34 ครั้ง ระยะ 316 หลาในชิคาโก้ปี 2022 ส่วน กิ๊บบ์ส ถือบอลวิ่ง 151 ครั้ง ระยะ 926 หลา รับบอล 44 ครั้ง ระยะ 444 หลา และทำทั้งหมด 10 ทัชดาวน์กับ แอลาบาม่า เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่ง โฮมส์ เชื่อว่าทั้งสองแบ็คจะเป็นตัววิ่งที่อันตรายสุดในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล

'ตอนที่ผมร่วมงานกับ แรมส์ ครั้งแรกในปี 2003 มาร์แชลล์ ฟอล์ค ยังอยู่ที่นั่น และผมเป็น มาร์แชล ฟอล์ค ตัวใหญ่ แค่ได้เห็นสิ่งที่เขาทำในทั้งสองช่วง' โฮมส์ กล่าว 'และจากมุมมองของสเกาต์ เมื่อ คริสเตียน แม็คแคฟฟรีย์ ปรากฎตัว เขาเป็นคนสุดท้ายที่ผมแบบว่า 'ว้าว ชายคนนี้สามารถวิ่งบนเส้นทางได้เหมือนปีกนอกสลอต แต่ก็วิ่งด้วย คุณจึงเริ่มได้รับการเตือนความจำเกี่ยวกับผู้เล่นเหล่านั้น'

'ผมไม่ได้มานั่งพูดว่า เจห์มายร์ กิ๊บบ์ส เป็นผู้เล่นเหล่านั้น แต่ (เขา) เป็นอาวุธพิเศษแบบนั้น เรามีความตื่นเต้นและมองโลกในแง่ดีมากมาย'