ไรอันส์ยกย่อง'สเตราด์'หลังตบบราวน์สร่วงเพลย์ออฟ

ดีเมโก้ ไรอันส์ หัวหน้าโค้ชปีแรกของ ฮิวสตัน เท็กแซนส์ กล่าวยกย่อง ซี.เจ.สเตราด์ หลังควอร์เตอร์แบ็กรุคกี้อันดับ 2 นำทีมชนะ คลีฟแลนด์ บราวน์ส 45-14 ในเพลย์ออฟ รอบไวลด์คาร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

สเตราด์ กลายเป็นควอร์เตอร์แบ็กอายุน้อยสุดที่ชนะเกมเพลย์ออฟ หลังขว้างคอมพลีต 16 จาก 21 ครั้ง ระยะ 274 หลา ทำ 3 ทัชดาวน์ ไม่เสียอินเตอร์เซปน์ เรตติ้ง 157.2 โดยปีกนอก นิโก้ คอลลิ่นส์ ทำ 1 ทัชดาวน์ ขณะที่สองปีกใน เบรวิน จอร์แดน และ ดอลตัน ชูลท์ซ ทำคนละหนึ่งสกอร์ ส่วนรันนิ่งแบ็ก เดวิน ซิงเกิลเทรี่ ถือบอลวิ่ง 13 ครั้ง ระยะ 66 หลา ทำ 1 ทัชดาวน์ 

'ซี.เจ.คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ในตำแหน่งนี้' ไรอันส์ กล่าว 'เขาพิเศษ เป็นชายหนุ่มที่พิเศษ ผู้เล่นพิเศษ ยังคงส่องแสงต่อไปไม่ว่าช่วงเวลานั้นจะยิ่งใหญ่เพียงใด ทีมทั้งหมดของเรากำลังพิงเขาและเขาก็มีไหล่ที่จะรับน้ำหนักนั้น'

สเตราด์ กลายเป็นควอร์เตอร์แบ็กรุคกี้ที่มีอันดับสูงสุดจากร่างดราฟท์ที่คว้าชัยชนะในช่วงโพสต์ซีซั่น เขาฉีกแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของ บราวน์ส ด้วยการขว้างให้ คอลลิ่นส์ รับทำสกอร์ ระยะ 15 หลา, จอร์แดน ระยะ 76 หลา และ ชูลท์ซ 37 หลา 

'ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว และผมขอบคุณพระเจ้า ผมสามารถไปได้อีกสัปดาห์กับเพื่อนร่วมทีม' สเตราด์ กล่าว 'นี่มันเหมือนความฝันที่เป็นจริงเลย'

ด้วยอายุ 22 ปีกับ 102 วัน สเตราด์ แซงหน้า ไมเคิ่ล วิค ที่อายุ 22 ปีกับ 192 วัน ตอนนำ แอตแลนต้า ฟอลค่อนส์ ของเขาชนะ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ในเกมเพลย์ออฟเมื่อปี 2002 

'ผมรู้สึกโชคดีอย่างยิ่งที่ได้รับการพิจารณาให้มีชื่อที่ยอดเยี่ยมเหมือน ไมเคิ่ล วิค ซึ่งเป็นควอร์เตอร์แบ็กคนโปรดของผมตั้งแต่เติบโตขึ้นมา' สเตราด์ กล่าว 'และหวังว่าผมจะทำได้สองครั้ง (ชนะ)'

สเตราด์ ขว้าง 236 หลาและทำ 3 ทัชดาวน์ก่อนช่วงพักครึ่งช่วย เท็กแซนส์ นำ 24-14 จากนั้นเกมป้องกันฉายแววเด่นในช่วงครึ่งหลังจากการทำ 'พิค-ซิกซ์'ในควอเตอร์สามของคอร์เนอร์แบ็ก สตีเว่น เนลสัน และไลน์แบ็กเกอร์ คริสเตียน แฮร์ริส ฉีกหนีเป็น 38-14 

'มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆที่ได้ 14 คะแนนจากสิ่งที่ ซี.เจ.ทำอยู่แล้ว' เนลสัน กล่าว 'นั่นแค่ใส่ไอซิ่งบนหน้าเค้กให้เรา'

เมื่อ เท็กแซนส์ นำห่าง 45-14 โดยเหลือเวลาอีก 9 นาที งานของ สเตราด์ ก็เสร็จสิ้นและเปิดโอกาสให้ เดวิส มิลล์ส ลงเล่นหลังจากนั้น 

มันเป็นการปราชัยเลวร้ายที่สุดในช่วงโพสต์ซีซั่นของ บราวน์ส นับตั้งแต่เกมพ่าย บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ 0-34 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 1968