ด็อบบิ้นส์พอใจการพลิกอาชีพของตนเอง

เจ.เค.ด็อบบิ้นส์ รันนิ่งแบ็กวัย 25 ปีเปิดเผยว่าเขาพึงพอใจหลังการพลิกอาชีพของตนเองกลับมากับ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส หลังเผชิญช่วงเวลามืดมนจากปัญหาบาดเจ็บตลอด 4 ปีแรกกับ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค

อดีตดราฟท์รอบ 2 คลาส 2020 ออกสตาร์ทกับ เรฟเว่นส์ เพียง 9 ครั้งตลอด 4 ปีแรกในอาชีพและพลาดการลงเล่นตลอดซีซั่น 2021 เนื่องจากเอซีแอลฉีกขาด และยังโชคร้ายบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีกขาดตั้งแต่เกมแรกของซีซั่น 2023 ด้วย ก่อน ชาร์จเจอร์ส จะดึงมาเซ็นสัญญา 1 ปีในช่วงปิดฤดูกาลนี้ 

ด็อบบิ้นส์ เปิดตัวฐานะรันนิ่งแบ็กของ ชาร์จเจอร์ส อย่างร้อนแรง โดยถือบอลวิ่ง 27 ครั้ง ระยะ 266 หลา เป็นผู้นำลีกตอนนี้และทำ 2 ทัชดาวน์ และยังมีสิทธิ์เข้าลุ้นรางวัล ผู้เล่นคัมแบ็กแห่งปี ในอนาคตด้วย ซึ่งรันนิ่งแบ็กวัย 25 ปีเผยว่ามาจากร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน

'ร่างกาย, คุณต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่ แต่เรื่องจิตใจ คุณต้องใช้ประโยชน์จากส่วนอื่นอย่างแน่นอน' ด็อบบิ้นส์ กล่าวเมื่อพูดถึงการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเขา 'คุณรู้ไหมว่าบางวัน บางวันก็มืดมน บางวันก็รู้สึกว่า 'ผมจะกลับมาได้หรือไม่?'' 

ด็อบบิ้นส์ ถือบอลวิ่งเฉลี่ยครั้งละ 9.9 หลาและวิ่งเฉลี่ย 133 หลาต่อเกม ซึ่งทั้งสองอย่างอยู่ในลำดับต้นๆของลีก เขาถือบอลวิ่งทำ 2 ทัชดาวน์ รวมถึงการทำระยะไกลสุด 61 หลาในสัปดาห์แรกกับ ลาส เวกัส เร้ดเดอร์ส และทำระยะ 43 หลาในเกมกับ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส 

รันนิ่งแบ็กวัย 25 ปียังกล่าวถึงการบาดเจ็บครั้งล่าสุดของเขาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกมสัปดาห์แรกของซีซั่น 2023 ว่า 'นั่นเป็นปีสุดท้ายในสัญญาของผม ดังนั้นผมเลยคิดว่าจะมีทีมอื่นเสียงกับผมหรือไม่ และนั่นยังเร็วเกินไป นั่นยังไม่รู้เลย ใช่แล้ว ผมแข็งแรงดี ใช่แล้ว ผมจะได้โอกาสนี้และจะทำได้ดีด้วย'

'มันเร็วเกินไป ตอนนี้ผมขยับตัวด้วยก้น ผมไม่สามารถเดินได้ แม้แต่ใส่รองเท้าธรรมดายังทำไม่ได้เลย เดินเท้าเปล่าไม่ได้เพราะเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ถ้าคุณก้าว คุณจะยืดเอ็นร้อยหวายออกจากกัน'

'มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานและมืดมน ค่ำคืนอันมืดมิดที่ผมข่มตาไม่กลับเพราะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?' 

ด้วยวัยเพียง 25 ปี ด็อบบิ้นส์ แสดงให้เห็นว่าเขายังมีน้ำมันเหลือในถังอีกมาและวิธีคิดของเขาในการสลัดความคิดด้านลบออกไปได้ช่วยให้เขาสามารถอดทนจนกลับมาได้อีกครั้ง

'ในใจผม ผมรู้ว่าพระเจ้าทรงช่วยผมอยู่เสมอ ผมรู้ว่ามันเกิดขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง' ด็อบบิ้นส์ กล่าว 'บางครั้งผมมักจะคิดแบบนั้น แต่ผมจะกลับมาคิดได้เสมอ มันเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากการอธิษฐาน มันเป็นการเดินทางที่ยาวนาน แต่มันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นในฐานะมนุษย์และด้านจิตใจด้วย'