ร็อดเจอร์สยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลดซาเลอห์

แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอร์เตอร์แบ็กวัย 40 ปีของ นิวยอร์ค เจ็ตส์ ไม่พอใจกับข่าวลือที่อ้างว่าเขามีส่วนทำให้ โรเบิร์ต ซาเลอห์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าโค้ช ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค

วู้ดดี้ จอห์นสัน เจ้าของทีม เจ็ตส์ ตัดสินใจปลด ซาเลอห์ ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชหลังเกมพ่าย มินเนโซต้า ไวกิ้งส์ 17-23 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนมีข่าวลือว่า ร็อดเจอร์ส มีส่วนพัวพันกับเรื่องดังกล่าว แต่ควอร์เตอร์แบ็กวัย 40 ปียืนยันว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ 

'ใช่, ผมหมายถึงเมื่อวันก่อนเป็นวันที่เตือนให้คุณนึกถึงข้อเท็จจริงง่ายๆ ที่พวกเราทุกคนเล่นฟุตบอลต่างก็รู้ดีว่ามันเป็นธุรกิจที่ยากลำบาก' ร็อดเจอร์ส กล่าว 'มันเป็นอาชีพที่สวยงาม เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ มันทำเพื่อชีวิตของเรามากมาย แต่ก็เป็นธุรกิจที่ยากเช่นกัน'

'สำหรับข้อกล่าวหาไร้สาระทั้งหลายที่มีอยู่ ผมจะไม่ตอบมากกว่าหนึ่งประโยคเกี่ยวกับเรื่องนั้น และนั่นคือผมรู้สึกไม่พอใจกับข้อกล่าวหาเหล่านั้น เพราะเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องเท็จ มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ผู้คนคิดว่าผมมีอำนาจมากเพียงใด ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่มี แต่ผมรัก โรเบิร์ต และเมื่อวันก่อนก็เป็นวันที่แย่เช่นกัน'

อิทธิพลของ ร็อดเจอร์ส ที่มีต่อองค์กรนั้นถูกพูดถึงมากมายตั้งแต่เขาเทรดมาจาก กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ในช่วงปิดฤดูกาลปี 2023 ซึ่งการเพิ่มผู้เล่นระดับ ฮอล ออฟ เฟม ในอนาคตช่วยยกระดับแฟรนไชส์ขึ้นมาพร้อมแข่งขันทันที แต่ เจ็ตส์ ยังไม่แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังดังกล่าวจนกระทั่ง ซาเลอห์ เด้งตกเก้าอี้ในที่สุด

ร็อดเจอร์ส ยังยืนยันว่า วู้ดดี้ จอห์นสัน เจ้าของทีม เจ็ตส์ ที่ปลด ซาเลอห์ พร้อมตั้ง เจฟฟ์ อุลบริช โค้ชทีมรับขึ้นมารักษาการเฮดโค้ช เป็นการตัดสินใจในส่วนของเจ้าของทีมเท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะพูดคุยกันก่อนหน้านั้นด้วยก็ตาม

'ใช่, ผมได้พูดคุยกับ วู้ดดี้, วู้ดดี้ โทรหาผมเมื่อคืนวันจันทร์ เราพูดคุยกันสั้นๆ ผมซาบซึ้งใจที่เขาโทรมาหาผม เขาโทรมาหาผมด้วยความจริงใจ และเขาถามผมว่าเป็นอย่างไรบ้าง' ร็อดเจอร์ส เผย 'แน่นอนว่าผมถูกเล่นงาน และข้อเท้าของผมบาดเจ็บหนัก เขาโทรมาถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง และเราคุยกันเกี่ยวกับเกมนี้ว่าผมผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของตัวเองแค่ไหน และผมจะเล่นให้ดีขึ้น และเราจะพลิกสถานการณ์นี้ แล้วเราก็วางสาย'

'จนถึงจุดนั้น วู้ดดี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแจ้งให้ผมทราบว่าเขามีแผนอะไรอยู่ ไม่ว่าเขาจะรู้หรือไม่ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้นก็ไม่สำคัญ'

บางคนอาจสงสัยว่าเหตุใด เนธาเนียล แฮ็คเก็ตต์ โค้ชทีมบุกของ เจ็ตส์ ที่มีความสนิทสนมกับ ร็อดเจอร์ส จึงรอดมาได้ แต่ควอร์เตอร์แบ็กวัย 40 ปีไม่ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าทำไม จอห์นสัน จึงเลือกแนวทางนี้ แต่ก็ยอมรับว่าทีมบุกต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกัน

'ผมคิดว่าจะมีบางอย่างที่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ โรเบิร์ต ก็ตาม' ร็อดเจอร์ส กล่าว 'และอย่างที่เรารู้กันดีว่าคำจำกัดความของความบ้าคลั่งคือการทำสิ่งเดียวกันซ้ำๆและคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง ดังนั้นเมื่อคุณมีเกม 2-3 เกม และเห็นได้ชัดว่าผมเล่นไม่ดี แต่เราเล่นได้ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก คุณต้องปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของเกมของเรา การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาของเรา'

'ผมรู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว แต่ตอนนี้ (อุลบริช) และผมได้พูดคุยกัน 2-3 ครั้งแล้ว และใช่ ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาตัดสินใจเกี่ยวกับทีมบุก ผมอยากทำสิ่งดีที่สุดสำหรับทีม และเราสนับสนุนโค้ช อุลบริช และไม่ว่าเขาจะเชื่อว่าอะไรดีที่สุดสำหรับทีม เราจะเลือกแบบนั้น'