ด็อบบิ้นส์นำชาร์จเจอร์สเบียดคว้าชัยท้ายเกม
เจ.เค.ด็อบบิ้นส์ ทะลวงเข้าเอนด์โซนในช่วงท้ายเกมนำ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เบียดชนะ ซินซินเนติ เบงกอลส์ ฉิวเฉียด
จิม ฮาร์บอห์ หัวหน้าโค้ช แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เป่าปากโล่งอกหลังทีมสายฟ้าเบียดคว้าชัยชนะเหนือ ซินซินเนติ เบงกอลส์ 34-27 จากการถือบอลวิ่งทำทัชดาวน์ช่วงท้ายเกมของรันนิ่งแบ็ก เจเค ด็อบบิ้นส์ ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค
ชาร์จเจอร์ส เป็นฝ่ายนำ 24-6 ในช่วงครึ่งแรกจากการขว้าง 2 ทัชดาวน์ของ จัสติน เฮอร์เบิร์ต อีกหนึ่งสกอร์เป็นการถือบอลวิ่งเข้าเอนด์โซนจากระยะหนึ่งหลาของ ด็อบบิ้นส์
อย่างไรก็ตาม เบงกอลส์ ทำ 21 คะแนนติดต่อกันจนตามตีเสมอ 27-27 จากการขว้างของ โจ เบอร์โรว์ ให้ปีกนอก เจมาร์ เชส ทำ 2 ทัชดาวน์และอีกหนึ่งสกอร์เป็นผลงานของปีกนอก ที ฮิกกิ้นส์ แต่ เฮอร์เบิร์ต สร้างไดรฟ์ 4 เพลย์ระยะ 84 หลาก่อน ด็อบบิ้นส์ วิ่งทำสกอร์จากระยะ 29 หลาเบียดคว้าชัยก่อนหมดเวลา 18 วินาที
'ทีมที่ยอดเยี่ยมคว้าชัยชนะ! มันสุดยอดมาก' ฮาร์บอห์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีหลังจบเกม
'ขณะที่ ด็อบบิ้นส์ ที่ถือบอลวิ่ง 11 ครั้ง ระยะ 56 หลากล่าวหลังเกมว่า 'ก่อนอื่นเลย, แบร็ดลี่ย์ บอซแมน (เซนเตอร์) บอกว่า 'ช่างมันเถอะ ไปทำคะแนนซะ' ผมก็บอกว่า 'โอเค ผมเข้าใจ''
'ผมเลยไปที่ข้างสนามแล้วถามโค้ช (คีล) แม็คโดนัลด์ (รันนิ่งแบ็ก) ว่า 'คุณอยากให้ผมทำสกอร์ที่นี่? เขาบอกว่า 'ช่างมันเถอะ ไปทำคะแนนกันเถอะ' ผมเลยรู้ว่าผมจะทำสกอร๋ได้ เหมือนตอนที่เรายืนเรียงแถวกัน ผมรู้สึกได้ว่าจะต้องทำคะแนนให้ได้ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น'
เฮอร์เบิร์ต จบเกมด้วยการขว้างคอมพลีต 17 จาก 36 ครั้ง ระยะ 297 หลา ทำ 2 ทัชดาวน์ และถือบอลวิ่ง 5 ครั้ง ระยะ 65 หลาพร้อมนำ ชาร์จเจอร์ส ทำสถิติ 7-3 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018
ด้าน เบอร์โรว์ ขว้างคอมพลีต 28 จาก 50 ครั้ง ระยะ 356 หลา ทำ 3 ทัชดาวน์ ขณะที่ ที ฮิกกิ้นส์ รับบอล 9 ครั้ง ระยะ 148 หลา ทำ 1 ทัชดาวน์ ส่วน เจมาร์ เชส รับบอล 7 ครั้ง ระยะ 75 หลาและทำ 2 สกอร์
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวอเมริกันฟุตบอลNFLทุกวันทุกเวลา